"โรคมโน" พบได้บ่อยช่วงอายุ 16-22 ปี
"โรคมโน" ทางจิตแพทย์ เชื่อว่าเป็นปัญหาในรูปแบบหนึ่งที่เกิดขึ้น จากการคิดเอาเอง แต่งเรื่องราวต่างๆขึ้นมา เพื่อหลอกคนอื่น และหลอกตัวเอง หรืออยู่ในกลุ่มผู้ป่วยที่แบ่งออกได้ 3 ประเภท
กลายเป็น "โรค" ที่กำลังพูดถึงกันเยอะ กับโรคหรือคำที่เรียกว่า "มโน" "โรคมโน"
ทางจิตแพทย์ เชื่อว่าเป็นปัญหาในรูปแบบหนึ่งที่เกิดขึ้น จากการคิดเอาเอง แต่งเรื่องราวต่างๆขึ้นมา เพื่อหลอกคนอื่น และหลอกตัวเอง ภาษาอังกฤษเรียก "Pseudologia fantastica" และยังเป็นรูปแบบหนึ่งของปัญหาทางด้านสุขภาพจิต เช่น จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับพวกที่โกหกแบบมีพยาธิสภาพ (pathological lying) คือ มีปัญหาด้านสุขภาพจิตบางอย่างที่นำไปสู่การโกหกเป็นตุเป็นตะ หลอกให้คนเชื่อด้วยการใส่สีตีไข่ให้ดูเวอร์วังอลังการ คนที่ฟังจะรู้สึกตื่นเต้นและสนใจในตัวผู้พูดอย่างมาก และตกเป็นเหยื่อได้ในที่สุด
อาการ "โรคมโน"
การโกหกโดยของคนทั่วไป อาจเพื่อปกป้องเรื่องราวอะไรบางอย่างที่ไม่อยากเปิดเผย แต่ใน pseudologia fantastica จะเป็นการพูดจาโกหกแบบมีความสะใจ เมามันเข้าว่า รู้สึกอินกับการได้พูดโกหกมาก เวลาพูดไปเหมือนกับคิดว่าเหตุการณ์ที่กำลังพูดเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง เรียกง่ายๆ ว่าหลอกคนอื่นแล้วกลายเป็นหลอกตัวเองไปด้วยว่าเหตุการณ์ทั้งหมดมีอยู่จริง และมักจะพูดให้ตัวเองดูดีและถูกอยู่เสมอ เพื่อผลประโยชน์บางอย่าง และมักจะใส่ร้ายผู้อื่นในคราเดียวกัน
"โรคนโน" จำแนกอาการได้ถึง 3 ประเภท
1.กลุ่มที่ป่วยเป็นโรคจิตเวชอยู่แล้ว
2.กลุ่มผู้ป่วยโรคซึมเศร้า
3.กลุ่มที่มีปัญหาด้านบุคลิกภาพ
นายแพทย์กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์ ยังบอกอีกว่า พฤติกรรมนี้จะพบได้ตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไป แต่อายุเฉลี่ยที่พบบ่อย ๆ คือ 22 ปี ซึ่งถ้าพิจารณาถี่ถ้วนจะเห็นว่าเป็นช่วงตั้งแต่วัยรุ่นตอนกลางจนถึงผู้ใหญ่ตอนต้น และจะต่อเนื่องเรื่อยไปจนถึงวัยชรา
ขอบคุณข้อมูล
เฟซบุ๊ก นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล (Kampanart Tansithabudhkun, M.D.)
