ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Dada Idor ได้โพสต์คลิปจากกล้องวงจรปิด ที่บันทึกเหตุการณ์ ชนแล้วหนี หลังรถเก๋งคันหนึ่ง ได้ชนกับมอเตอร์ไซค์ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย บริเวณเส้นทางมุ่งหน้าสะพานพระราม 7 ใกล้กับวัดเสาหิน เบื้องต้นผู้บาดเจ็บทั้ง 2 รายอยู่ในความดูแลของแพทย์หนึ่งรายต้องเข้ารีบการผ่าตัดเพิ่มเติม เนื่องจากได้รับบาดเจ็บรุนแรงบริเวณช่วงอกและซี่โครง ส่วนอีกรายต้องผ่าตัดสมอง หลังได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงเก๋ง
โดยผู้โพสต์ระบุว่า นี่เป็นคลิปของน้องในซอยที่โดนชน(ฮายาตี) สงสารน้อง และไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับใคร เห็นตำรวจบอกรถที่ชนเป็นกระบะนี่ดูก้อว่าเก๋ง รบกวนช่วยดูช่วยแชร์ให้น้องด้วยนะคะ เผื่อทุกคนจะเป็นส่วนนึงที่ช่วยน้องได้ “ชนแล้วหนี” วิถีทางแห่งช่องว่างกฏหมายไทย
เหตุการณ์สดๆร้อนๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว อันเป็นเรื่องราวของการ ชนแล้วหนี (ตรงกับคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 01.10 น.) เหตุเกิดบนเส้นทางมุ่งหน้าสะพานพระราม 7 ใกล้บริเวณวัดเสาหิน (บิ๊กซี วงศ์สว่าง) ผู้บาดเจ็บ 2 ราย โดนรถยนต์ที่ขับขี่ด้วยความเร็ว ชนเข้าด้านท้ายของมอเตอร์ไซด์จนได้รับความเสียหายและบาดเจ็บอย่างรุนแรง ซึ่งในขณะนี้ แม้ผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย จะอยู่ในความดูแลของแพทย์ และได้รับการวินิจฉัย โดยทั้งคู่ยังอยู่ในระยะที่ต้องเฝ้าสังเกตุการณ์ คนหนึ่ง มีเคสต้องเข้ารับการผ่าตัดเพิ่มเติม ได้รับบาดเจ็บรุนแรงบริเวณช่วงอกและซี่โครง อีกคนหนึ่ง ต้องรอดูอาการ เพราะได้รับการกระทบกระเทือนทางสมอง
แต่แล้วในกรณีนี้กลับมีบางอย่างที่ผิดเพี้ยนไป!!! แม้เบื้องต้น ในวันถัดมาจะมีผู้เข้ามาแจ้งความ เพื่อลงบันทึกประจำวัน โดยยอมรับว่า เกิดจากอาการหลับใน และเป็นผู้ขับขี่รถยนต์ชนจริง พร้อมรับผิดชอบความเสียหายดังกล่าวทุกกรณี แต่ดุลยพินิจจากทางตำรวจ และทางประกันของผู้ขับขี่รถดังกล่าว กลับพิจารณาตามหลักฐานเบื้องต้นว่า อาจจะมิใช่รถคันนี้ที่มีส่วนในการเฉี่ยวชนแต่อย่างใด เพราะเมื่อตรวจสอบสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทั้งรถมอเตอร์ไซด์ และรถยนต์แล้ว กลับระบุว่า มีร่องรอยของการถูกชนที่ไม่ตรงกัน! รวมทั้งคำอธิบายของผู้ขับขี่รถยนต์ ที่ไม่สามารถระบุร่องรอยการชนได้ว่า เกิดจากสาเหตุใด เพราะอยู่ในภาวะของการหลับใน
นั่นหมายความว่า ในขณะนี้
- เจ้าของรถดังกล่าว รอการพิสูจน์หลักฐานจากทางเจ้าหน้าที่ ว่า ตนคือผู้ที่กระทำผิดจริงหรือไม่ จากนั้นจึงจะเริ่มดำเนินการเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ พร้อมเคลมค่าใช้จ่ายจากทางประกันต่อไป
- ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า ใครคือคู่กรณี และต้องมาทำการรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว
- น้องผู้บาดเจ็บ จำต้องรอความหวังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้สามารถหาหลักฐานมาชี้ชัดผู้กระทำความผิดให้จงได้
- ทางฝั่งญาติผู้เสียหาย ก็ไม่สามารถกระทำการอันใดได้ เพราะการหาหลักฐาน และขอเปิดกล้องวงจรปิดนั้น ต้องได้รับการอนุญาติจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ซึ่งเหตุนี้เอง จึงมีคำถามมากมาย พร้อมเผยช่องโหว่หลายประการของกฎหมายในบ้านเรา ว่าแท้จริงแล้ว... ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยอะไรบ้าง? ที่ทำให้... ผู้กระทำความผิด ไม่จำเป็นต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบโดยทันที ที่ทำให้... ความยุติธรรมมีอันต้องล่าช้าออกไป เพราะต้องรอดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายอันซับซ้อน ที่ทำให้... ผู้ได้รับความเสียหาย กลับต้องมาเรียกร้องสิ่งที่พึงจะได้รับ ด้วยแรงกายและจิดใจอันเข้มแข็งด้วยตัวเอง ที่ทำให้... เมืองไทยยังคงติดกับดักใน “จรรยาบรรณทางความคิด” ของตัวบุคคล มากกว่า ความศักดิ์สิทธิ์ทางกฎหมายอันมีอนุภาพแค่ในอากาศ
นอกจากนี้ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Saroehinee Naktham ยังได้โพสต์ขอให้ช่วยตามหารถเก๋งคันดังกล่าวที่เป็นคู่กรณี โดยระบุว่าเป็นเคสของน้องตนเอง เพื่อหาเบาะแสผู้กระทำผิดให้มารับผิดชอบ เหตุดังกล่าว