svasdssvasds

หรือจะรักกันแล้ว ? Hyundai จับมือ ไป่ตู้ เดินหน้า Connected Car บุกตลาดจีน

หรือจะรักกันแล้ว ? Hyundai จับมือ ไป่ตู้ เดินหน้า Connected Car บุกตลาดจีน

Hyundai จับมือ Baidu เว็บเสิร์ชเอนจิ้นสัญชาติจีน ที่กำลังเดินหน้าเรื่อง Connected Car เพื่อปั้นรถยนต์ไร้คนขับให้เกิดขึ้นได้โดยเร็วที่สุด

SHORT CUT

  • ฮุนได ร่วมสู้ศึกรถยนต์ไร้คนขับ
  • สานต่อความร่วมมือกับไป่ตู้ใช้เทคโนโลยี Voice Recognition
  • คาดว่าในปี 2024 Connected Car จะมียอดจำหน่ายในประเทศจีนราว 17 ล้านคัน

 

 

Hyundai จับมือ Baidu เว็บเสิร์ชเอนจิ้นสัญชาติจีน ที่กำลังเดินหน้าเรื่อง Connected Car เพื่อปั้นรถยนต์ไร้คนขับให้เกิดขึ้นได้โดยเร็วที่สุด

Hyundai และ Kia สองแบรนด์รถยนต์สัญชาติเกาหลี ประกาศความร่วมมือกับ Baidu เว็บเสิร์ชเอนจิ้นสัญชาติจีน ร่วมกันเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยี Connected Car ร่วมกัน

ภายใต้บันทึกความร่วมมือ หรือ MOU นั้น ดำเนินการลงนามร่วมกันที่กรุงปักกิ่ง โดยทั้งสามบริษัทจะร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับรถยนต์ และที่จะไม่มีไม่ได้เลย นั่นก็คือ ระบบรถยนต์ไร้คนขับ นั่นเอง

รถยนต์ฮุนได

รถยนต์จะเริ่มฉลาดขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับการที่รถยนต์สองแบรนด์ดังจากเกาหลีอย่าง Hyundai และ Kia ดึงเทคโนโลยี Smart Cloud Computing ของ Baidu มายกระดับการใช้งานข้อมูลต่าง ๆ นั้น เรียกได้ว่าจะเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ ให้มากขึ้นกว่าแค่การเป็นรถยนต์สันดาปทั่วไป

ทั้งนี้ Hyundai และ Kia เตรียมนำเทคโนโลยีอันชาญฉลาดอย่าง AI จากฝั่งไป่ตู้เข้ามายกระดับความสามารถของรถยนต์ให้มากขึ้น รวมทั้งร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ด้านเทคโนโลยีให้กว้างขึ้นด้วย

“จากความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Baidu เราจะพยายามสร้างระบบนิเวศของเทคโนโลยี Connected Car ในตลาดประเทศจีน” 

รถยนต์ฮุนได

คาดหวังการเติบโตที่มากขึ้น

ทางด้านของ Hyundai ได้แจ้งในแถลงการณ์ว่า ความร่วมมือดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นจากการเติบโตควบคู่ไปกับการเพิ่มขึ้นของตลาด Connected Car ในประเทศจีนด้วย

ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าในปี 2024 Connected Car จะมียอดจำหน่ายในประเทศจีนราว 17 ล้านคัน ถือว่าเติบโตอย่างมากเมื่อเทียบกับยอดขาย 7.2 ล้านคัน ในปี 2019

ทางด้านของ Hyundai กับ Baidu มีการทำงานร่วมกันตั้งแต่ปี 2014 โดยหนึ่งในความร่วมมือนั้นคือ การพัฒนาเทคโนโลยี Voice Recognition และนี่ถือเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่ต่อเนื่อง

 

ที่มา : Korea Times

อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม

related