svasdssvasds

ชาวเกาหลีใต้ หันมา ‘เลี้ยงหิน’ มากขึ้น เพื่อรับมือกับความเหงา

ชาวเกาหลีใต้ หันมา ‘เลี้ยงหิน’ มากขึ้น เพื่อรับมือกับความเหงา

เลี้ยงหมาแมวมันธรรมดาไป เลี้ยงหินดีกว่า เพราะไม่ต้องให้ข้าวให้น้ำ แข็งแรง พาไปได้ทุกที่ แถมเป็นผู้ฟังที่ดี น่ารักขนาดนี้ ใครๆ ก็อยากเลี้ยง

SHORT CUT

  • การหาสัตว์เลี้ยงที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแล กลายเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น
  • “เพื่อนตัวกลม” ก้อนเล็กเหล่านี้ ช่วยให้คนรับมือกับความเหงา ความเครียด และความเหนื่อยล้าที่เพิ่มขึ้นในชีวิตประจำวันได้
  • มนุษย์ต้องมีเพื่อนเพื่อระบายความเหงาเสมอ ไม่ว่าเพื่อนคนนั้นจะมีชีวิต หรือไม่มีก็ตาม

 

 

เลี้ยงหมาแมวมันธรรมดาไป เลี้ยงหินดีกว่า เพราะไม่ต้องให้ข้าวให้น้ำ แข็งแรง พาไปได้ทุกที่ แถมเป็นผู้ฟังที่ดี น่ารักขนาดนี้ ใครๆ ก็อยากเลี้ยง

เร็วๆ นี้ สื่อต่างประเทศรายงานว่า หนุ่มสาวในเกาหลีใต้ นิยมนำหินมาเป็นสัตว์เลี้ยงมากขึ้น เพราะค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่สูง ทำให้การหาสัตว์เลี้ยงที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแล จึงกลายเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์เลี้ยงหินนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ หากย้อนกลับไปปี 1975 ชาวอเมริกาที่ชื่อ 1975 แกรี ดาห์ล (Gary Dahl) ก็เคยเกิดไอเดีย นำก้อนหินข้างทางมาเป็นสัตว์เลี้ยง โดยในตอนนั้นเรียกว่า 'Pet Rock' ที่กลายเป็นปรากฏการณ์โด่งดังไปทั่วสหรัฐอเมริกา แต่สุดท้ายกระแสเลี้ยงหินนี้ก็หายไปตามกาลเวลา

คนเลี้ยงหิน :Gary Dahle, inventor de Pet Rock, la mascota perfecta ส่วนการเลี้ยงหินของชาวเกาหลีนั้น ตามรายงานของเว็บไซต์ Korea JoongAng Daily ระบุว่า เริ่มเป็นกระแสตั้งแต่ปี 2021 ซึ่งเป็นเวลาที่ผู้คนส่วนใหญ่ยังต้องเผชิญกับการระบาดของ “ไวรัสโควิด-19 (Covid-19)” จึงทำให้การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนด้วยกันลดลง ทำให้หลังคลายล็อกดาวน์ชาวเกาหลีจำนวนมากจึงเริ่มซื้อหินมาเป็นสัตว์เลี้ยง โดยให้เหตุผลว่า “เพื่อนตัวกลม” ก้อนเล็กเหล่านี้ ช่วยให้พวกเขารับมือกับความเหงา ความเครียด และความเหนื่อยล้าที่เพิ่มขึ้นในชีวิตประจำวันได้

นอกจากนี้ การเลี้ยงหินของในหมู่คนหนุ่มสาว ยังได้รับอิทธิพลมาจากศิลปิน k-POP ชื่อดังหลายคน ที่ออกมาประกาศว่า พวกเขาเลี้ยงหินไว้เพื่อเป็นเพื่อนคุยยามเหงาด้วย

ความสุขของคนเลี้ยงหิน  : PHOTO Andrew Booth

ความสุขของคนเลี้ยงหิน

คนทั่วไปเลี้ยงหินเหล่านี้ มักจะแต่งหน้าแต่งตาให้พวกมัน ตามใจชอบ เช่นวาดเป็นรูปหน้ายิ้ม เพื่อสร้างตัวตนให้กับหินแต่ละก้อน รวมถึงเพิ่มความน่ารักให้พวกมัน ด้วยการสวมผ้า หรือทำที่นอนให้ จนเกิดเป็นมิตรภาพ ระหว่างคนกับก้อนหิน แถมพวกเขายังไม่อายที่จะโพสต์รูปคู่กับหินบนโซเชียล ไม่ต่างอะไรกับคนอวดลูกแมวของตัวเอง

ตามรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศ สาวเกาหลีวัย 29 ปีคนหนึ่งที่เลี้ยงหิน ออกมาเล่าว่า เธอซื้อก้อนหินมาเลี้ยงครั้งแรกในช่วงที่ ไวรัสโควิด-19 กำลังระบาด เพราะเธอแค่อยาก “มีบางอย่างอยู่ข้างๆ” เมื่อต้องทำงานนอกออฟฟิศ นอกจากนั้น เวลานอนบนเตียง เธอจะหยิบหินขึ้นมาดู แล้วตบเบาๆ ก่อนจะคุยกับมัน ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนการคุยกับตัวเอง

ส่วนสาวเกาหลีวัย 31 ปี ที่อาศัยอยู่ในกรุงโซลอีกคนหนึ่ง เผยถึงเหตุผลที่เลือกก้อนหินเป็นสัตว์เลี้ยงว่า เธอไม่สามารถเลี้ยงหมาหรือแมวได้เพราะต้องทำงานตลอดเวลา แต่การเลี้ยงหินนั้น ไม่ต้องกังวลเรื่องการให้อาหาร หรือต้องพามันออกไปเดินเล่น

ขณะที่ ศิลปินผู้วาดก้อนหินคนหนึ่ง ระบุว่า ดูเหมือนคนสมัยนี้จะยกให้หินเป็นสัตว์เลี้ยงที่ช่วยฝึกให้ “จิตใจสงบ” ได้ เพราะคนหนุ่มสาวส่วนใหญ่ก็เคยเล่นกับก้อนหินเมื่อตอนเป็นเด็ก จึงไม่แปลกที่พวกเขาจะรู้สึกเชื่อมโยงกับก้อนหินได้ง่าย และหลายคนที่มาเรียนรู้การวาดหน้าก้อนหินจากเขา ก็ล้วนมีจิตใจที่สดชื่นเมื่อได้ออกแบบหน้าตาให้พวกมัน

ความสุขของคนเลี้ยงหิน : PHOTO : Lactoso

อย่างไรก็ตาม แม้เวลานี้หินจะยังไม่ใช่สัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่ตามรายงานของร้านค้าหินออนไลน์ ระบุว่า มีผู้คน กำลังสนใจเลี้ยงหินมากขึ้นเรื่อยๆ โดยบางร้าน ขายหินได้ประมาณ 300 ก้อนต่อเดือน โดยมีลูกค้าหลักเป็นผู้หญิงในช่วงอายุ 30-30 ปี ซึ่งปัจจุบัน หินสำหรับเลี้ยง มีราคาอยู่ที่ประมาณ 6,000 –10,000 วอน (160-267บาท) เท่านั้น

ปรากฏการณ์เลี้ยงสิ่งที่ไม่มีชีวิตเป็นเพื่อนคุยยามเหงานี้ทำให้นึกถึง ภาพยนตร์เรื่อง “คนหลุดโลก (Cast Away)” ปี 2000 ในฉากสุดคลาสสิกที่ “ชัค โนแลน (นำแสดงโดย ทอมแฮงค์) ” ซึ่งติดเกาะร้างอยู่คนเดียวหลายปี ต้องพลัดพรากกับ “วิลสัน” เพื่อนที่เป็นลูกบอลวอลเลย์บอล ระหว่างลอยคออยู่กลางทะเล ซึ่งสะท้อนว่า มนุษย์ต้องมีเพื่อนเพื่อระบายความเหงาเสมอ ไม่ว่าเพื่อนคนนั้นจะมีชีวิต หรือไม่มีก็ตาม

สุดท้าย คนเราก็ต้องหาวิธีคลายเหงาในแบบของตัวเอง...

 

ที่มา : The Straits Times / GQ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

related