"มะหมี่ นภคปภา" อดีตนางเอกหนัง "แม่เบี้ย" เล่าเหตุการณ์ระทึกขวัญ โจรบุกขึ้นบ้านยามวิกาล เตือนหมู่บ้านที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุด แพงที่สุด ไม่ได้การันตีความปลอดภัยที่แท้จริง
กลายเป็นเรื่องราวที่หลายคนให้ความสนใจในขณะนี้ สำหรับเหตุการณ์ระทึกขวัญที่เกิดขึ้นกับนักแสดงสาวเซ็กซี่ "มะหมี่ นภคปภา" อดีตนางเอกหนัง "แม่เบี้ย" ที่เจอโจรบุกเข้าบ้านตัวเองที่ จ.ภูเก็ต ในช่วงกลางดึก เพื่อขโมยทรัพย์สินมีค่า
โดยสาว "มะหมี่" ได้ออกมาโพสต์เล่าเหตุการณ์ พร้อมเตือนทุกคนว่าถึงหมู่บ้านจะขึ้นชื่อว่ามีมาตรการการรักษาความปลอดภัยสุดแพง แต่ก็ไม่ได้การันตีถึงความปลอดภัยที่แท้จริง โดยเธอเล่าว่า
"เหตุการณ์ระทึกขวัญเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 17 ที่ภูเก็ต เข้านอนตอนตี 1:30 ได้ยินเสียงคนทำของหล่น ประมาณตอนตี 4 ใจก็คิดว่าพี่เลี้ยงหรือแม่บ้านลุกขึ้นออกมาหาอะไรกิน แต่อีกใจก็รู้สึกแปลกๆ ว่าทำไมตื่นเร็วเกิน เพราะเราเพิ่งเข้านอน เลยคิดว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวพรุ่งเช้าตื่นมาถามก็ได้ เพราะตัวเราเองก็ง่วงมาก"
"แต่ร่างกายและปฏิกิริยาบอกให้เราเอามือคว้าโทรศัพท์มือถือ ทั้งๆ ที่ตาก็หลับอยู่ ไม่สามารถลืมตาหาโทรศัพท์ได้ สุดท้ายมือก็คลำไปเจอโทรศัพท์ เลยเปิดกล้องออกมาดู สิ่งที่เห็นคือตกใจมากเลย เพราะไม่ใช่พี่เลี้ยงและแม่บ้าน แต่เป็นผู้ชายรูปร่างใหญ่ มีผ้าปิดหน้า กำลังยืนค้นหาของมีค่าภายในบ้าน"
"เชื่อไหมจากที่ง่วงๆ ตอนนั้นดวงตาเบิกโพลงขึ้นมาในทันที ไม่มั่นใจว่าสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า เป็นความจริงหรือความฝัน จึงตัดสินใจเปิดกล้องอีกตัว เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่เห็นคือความจริง โจรมีความสุขุม ค่อยๆ เดินสำรวจทรัพย์สินและส่งของมีค่าภายในบ้านอย่างสุขุม"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ส่วนเรามือไม้สั่น หัวใจเต้นเร็วยิ่งกว่ากลองรัว ให้ตายเหอะ ในชีวิตนี้ไม่เคยได้สัมผัสหัวใจตัวเองที่เต้นได้ระทึกขนาดนี้ บอกกับตนเองให้ตั้งสติหายใจเข้าลึกๆ ใจรู้ดีที่สุด ว่าโทร.หาเพื่อนๆ ละแวกนี้คงไม่มีใครรับสายเป็นแน่"
"ใจก็กลัวว่าโจรจะเดินมาที่ห้อง ล็อกประตูห้องแล้ว จึงตัดสินใจกดสปีกเกอร์ในกล้องถามว่า 'มึงเข้ามาทำอะไรในนี้' ในใจแม่-โคตรกลัวเลย จิตใต้สำนึกบอกให้เราต้องทำอะไรสักอย่างก่อน ที่มันจะเข้ามาถึงห้องเรา"
"หลังจากนั้น โทร. แจ้งความ ด้วยความที่เคยชินกับการอยู่ต่างบ้านต่างเมืองบ่อยๆ จึงกดโทร. ฉุกเฉินไปเบอร์ 911 ซึ่งควรจะเป็นเบอร์ 191 เราก็คิดว่าเหมือนกันทั่วโลก เราพยายามบอกเขาว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ด้วยความที่เสียงเราเบามาก กลัวโจรมันได้ยิน คู่สายไม่ได้ยินเสียงเรา เราเลยวางสาย"
"และโทร. หาเพื่อนบ้านที่อยู่ถัดไปไม่กี่หลัง เป็นสามีเพื่อนชาวนิวซีแลนด์ โทร. ไปหลายสาย ไม่รับเสียที จนภรรยาได้ยินเสียง และคิดว่าน่าจะเป็นสายสำคัญที่ โทร. มาจากต่างประเทศ จึงรับสาย แล้วเล่าให้เขาฟังว่าตอนนี้มีโจรอยู่ในบ้าน ให้มาช่วยหน่อยได้โปรด เพราะตอนนี้ชั้นมองไม่เห็นมันแล้ว ไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน มันเอาผ้ามาคลุมกล้องไว้"
"สามีเพื่อนรีบขับรถมอเตอร์ไซค์มาแล้วตะโกนว่า 'เช็กแล้วด้านนอกไม่มีใคร คิดว่าโจรมันคงหนีไปแล้ว' จึงตัดสินใจลงไปหาสามีเพื่อน ถึงรู้ว่าโจรได้เข้าไปค้นตู้เซฟ ค้นทุกมุมห้อง ภาพจากกล้องวงจรทางตำรวจและเจ้าหน้าที่ สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นต่างชาติ แต่ว่าตอนนี้ก็ยังสรุปไม่ได้เลย ส่วนหลังอื่นอีก 3 หลัง มารู้อีกทีว่าโดนปล้นตอนเที่ยง 2 หลัง และตอนบ่าย 3 อีก 1 หลัง ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ววันด้วยค่ะ"
นอกจากนี้ มะหมี่ ยังเขียนแคปชั่นเตือนภัยอีกรอบด้วยว่า
"มันคือเหตุการณ์ระทึกขวัญ ที่ที่เราว่าปลอดภัยที่สุด อาจจะไม่ใช่ที่ที่ปลอดภัย หมู่บ้านที่เราว่ามีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุด แพงที่สุด ก็ไม่ได้การันตีว่าเป็นหมู่บ้านที่ปลอดภัย อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ"