svasdssvasds

10 เรื่องน่ารู้ เงินดิจิทัล 10,000 บาท เมื่อนายกฯ เศรษฐา บอก ก.พ. 67 ได้ใช้แน่

10 เรื่องน่ารู้ เงินดิจิทัล 10,000 บาท  เมื่อนายกฯ เศรษฐา บอก ก.พ. 67 ได้ใช้แน่

SPRiNG ชวนติดตาม เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับ เงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่คนไทยเฝ้ารอ เมื่อนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน อัปเดตบอก ก.พ. 67 ได้ใช้แน่ เตรียมตัวกันได้เลย

ประเด็น เงินดิจิทัล 10,000 บาท หรือ "นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต" ของพรรคเพื่อไทย ได้รับความสนใจอีกครั้ง เมื่อ เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว. การคลัง ยืนยันล่าสุดว่า 1 ก.พ. 2567 คนไทยจะได้ใช้ประโยชน์จากนโยบายนี้ สักที  

โดย เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เผยว่าในเบื้องหลังการทำงานของรัฐบาลเพื่อไทย ได้ประสานกับหน่วยงานทุกหน่วยงาน เพื่อให้นโยบายนี้ออกมาโดยเร็ว ยืนยัน  เงินดิจิทัล 10,000 บาท หรือ Digital Wallet  จะแจกเงินหนเดียว และคิดว่าจะทำได้ภายใน 1 ก.พ.2567 พร้อมย้ำว่า ตอนนี้ ไม่มีเวลาฮันนีมูน และ รัฐบาลเพื่อไทย ครม. เศรษฐา 1 ได้ถวายสัตย์ฯ แล้ว หลังจากนี้ก็ต้องทำงานต่อเนื่องแบบใส่เต็มเหนี่ยว

ขณะที่  นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานกรรมการนโยบายพรรคเพื่อไทย เมื่อถามถึง นโยบายดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท ได้ให้ความคิดเห็นว่า คณะทำงานกำลังทำงานเรื่อง  Digital Wallet  อยู่ ค่อยไปดูรายละเอียดวันที่ออกมาพร้อมแน่นอน ส่วนการจะตอบคำถามต่อสภานั้น จะต้องขอปรึกษาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อะไรที่ยังครึ่งๆ กลางๆ วอนสื่ออย่าเพิ่งเอาไปวิจารณ์ เพราะพรรคเพื่อไทยเชื่อมั่นว่า ทำสำเร็จแน่นอน และพร้อมเมื่อไหร่ พรรคเพื่อไทยบอกประชาชนทันที แต่คาด ทัน 1 ก.พ. 2567

10 เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับ เงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่คนไทยเฝ้ารอ เมื่อนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน อัปเดตบอก ก.พ. 67 ได้ใช้แน่

ทั้งนี้ ข้อมูล รายละเอียด ดิจิทัลวอลเล็ต Digital Wallet 10,000 บาท จากพรรคเพื่อไทยนั้น เคยได้รับการเปิดเผยในช่วงเวลาที่ผ่านมา จาก เผ่าภูมิ โรจนสกุล โฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย 

โดยสรุปแล้ว ว่า บางคนอาจมองว่านี่คือการแจก แต่นี่คือการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้กับประเทศ เมื่อจบจากโครงการนี้ประเทศไทยเราจะมี Blockchain  และจะมีระบบการชำระเงินแบบใหม่ ซึ่งแตกต่างจาก แอปพลิเคชั่น "เป๋าตัง" อย่างสิ้นเชิง

10 เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับ เงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่คนไทยเฝ้ารอ เมื่อนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน อัปเดตบอก ก.พ. 67 ได้ใช้แน่

• เงินดิจิทัล 10,000 บาท คืออะไร ?
 เงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้หาเสียงไว้ตั้งแต่ช่วงก่อนการเลือกตั้ง 2566 โดยรัฐบาลจะแจกเงินจำนวน 10,000 บาทให้กับประชาชนผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) ที่ถูกสร้างขึ้นโดยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยมีระบบบล็อกเชน (Blockchain) ที่มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้อยู่เบื้องหลัง เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนและกระตุ้นเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทยยืนยันว่า จะแจกงวดเดียว 10,000 เพื่อสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจ

• ใครได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาทบ้าง?
คนไทยทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป และมีบัตรประชาชนเลข 13 หลัก จะได้รับสิทธิดังกล่าว และประชาชนที่มีสวัสดิการอื่นๆ เช่น คนพิการ และคนชรา ก็จะได้รับเต็มจำนวนไม่โดนหักลด ซึ่งคาดว่าปัจจุบันมีคนทั่วประเทศที่เข้าข่ายได้รับเงินอยู่ราว 50 ล้านคน

• เงินดิจิทัล 10,000 บาทต้องลงทะเบียนหรือไม่?
ประชาชนที่เข้าข่ายรับสิทธิไม่ต้องลงทะเบียนเพราะระบบผูกกับบัตรประชาชน โดยเงินดิจิทัลจำนวน 10,000 บาทจะถูกส่งตรงถึงกระเป๋าเงินดิจิทัลของประชาชน แม้ไม่มีสมาร์ทโฟนหรือแอปพลิเคชันก็ยังสามารถใช้ผ่านเลขบัตรประชาชน 13 หลักได้

10 เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับ เงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่คนไทยเฝ้ารอ เมื่อนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน อัปเดตบอก ก.พ. 67 ได้ใช้แน่

• เงินดิจิทัล 10,000 บาท ใช้ซื้ออะไรได้บ้าง?
ประชาชนสามารถใช้เงินดิจิทัล 10,000 บาท จากนยโบายรัฐบาลเพื่อไทย ในการจับจ่ายซื้อสินค้าต่างๆ ที่จำเป็นในการดำรงชีวิต เช่น อาหาร, น้ำดื่ม, ยารักษาโรค, เครื่องมือทำกิน ฯลฯ ณ ร้านค้าในรัศมี 4 กิโลเมตรจากที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน หรือกรณีที่บ้านอยู่ในพื้นที่ห่างไกลรัศมีอาจขยายเพิ่มเป็น 20 กิโลเมตร แต่จะไม่สามารถใช้ซื้อสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอบายมุข เช่น ยาเสพติด การพนัน เป็นต้น

พรรคเพื่อไทยคาดการณ์ว่า จาก เงินดิจิทัล 560,000 ล้านบาทที่ใส่ลงไป จะไปกระตุ้นการบริโภค - ลงทุน ทั่วประเทศ  และหมุนได้ประมาณ 2.7 ครั้ง นั่นหมายความว่า ไทยจะมีเงินสะพัดจากโครงการนี้เพิ่มขึ้นเป็น 1.512 ล้านล้านบาท  และจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยโตเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 2-3% ที่สำคัญจะทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และมั่นใจที่จะใช้จ่ายมากขึ้น

โดย เงินดิจิทัล 10,000 บาท สามารถสรุปได้เป็น 10 ข้อสั้นๆ ดังนี้ 

1. นายกฯ เศรษฐา บอก 1 ก.พ.67 ได้ใช้ เงินดิจิทัล (Digital Wallet)   
2. แจกงวดเดียว 10,000 เพื่อสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจ
3. คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป 
4. โอนตรงเข้าบัญชี 
5. ซื้อของร้านค้ารัศมี 4 กม.จากที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน (กรณีห่างไกลรัศมีอาจขยายเพิ่มเป็น 20 กม.)
6. กดเป็นเงินสดไม่ได้ 
7. ใช้ซื้อของออนไลน์ไม่ได้
8. ระบบผูกกับบัตรประชาชน  (ไม่มีสมาร์ทโฟนก็ใช้ได้) 
9. ไม่ใช่ คริปโทเคอร์เรนซี  
10. งบประมาณ 5.6 แสนล้านบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related