Green Book หนังสือคู่มือคนผิวสีในยุคแห่งการแบ่งแยกคนด้วยสีผิว

07 Nov 2021

กรีนบุ๊ค หนังปี 2018 ภาพยนตร์แรงบันดาลใจดีๆที่สร้างจากเรื่องจริงของนักเปียโนดนตรีแจ๊สชาวผิวสี แม้ว่าจะมีเงินทองมากมายแต่ก็ซื้ออิสรภาพและการยอมรับจากการแบ่งแยกสีผิวไม่ได้

‘อย่าถาม ว่าคุณทำอะไรให้ประเทศชาติได้บ้าง แต่จงถามว่าทำอะไรให้ตัวเองได้บ้าง’

Green Book 2018

ชวนดู กรีนบุ๊ค Green Book ภาพยนตร์ชีวประวัติสัญชาติอเมริกัน แนวตลกดราม่า ที่จะพาคุณผู้ชมย้อนไปสู่ปีค.ศ.1962 ยุคแห่งการเหยียดสีผิวยังเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า แม้บางส่วนจะยอมรับคนผิวสีให้อยู่ในสังคมได้ แต่อีกด้านหนึ่งก็มีคนคอยจ้องทำร้ายพวกเขาและไม่ชอบที่คนผิวดำจะมีหน้ามีตามากกว่าพวกตนหรือต้องการให้คนผิวสีเทียบเสมอตนเองได้

ภาพยนตร์ปี 2018 ที่ได้รับรางวัลสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2018 จากสมาคมนักวิจารณ์แห่งอเมริกา และรางวัลอีกเพียบ กรีนบุ๊ค ออกฉายรอบปฐมทัศน์ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโทรอนโต เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2018และได้รับรางวัลพีเพิลชอยส์ (People Choices) ติดไม้ติดมือกลับไป รวมไปถึงกวาดรายได้ภาพยนตร์ไปกว่า 191.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราวๆ 63 พันล้านบาทไทยเลยทีเดียว

อาลี กำลังสอนโทนี่เขียนจดหมายถึงภรรยา ด้วยถ้อยคำที่สระสรวย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรีนบุ๊ค สมุดปกเขียวที่จะเป็นสัญลักษณ์ของความต่างชั้นระหว่างคนดำและคนขาว โทนี่ วัลเลลองกา (รับบทโดย วิกโก มอร์เทนเซน) ผู้ทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแข่งกินจุ พนักงานรักษาความปลอดภัย คนขับรถและบอดีการ์ด เขามีนิสัยโผงผาง ตรงๆซื่อๆ ชอบกินจุเป็นชีวิตจิตใจ และมีสัญชาติอิตาลี-อเมริกัน เขาไม่ชอบคนผิวสีสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรมาก ก่อนหน้านี้เขาทำงานเป็นบอดี้การ์ดในบาร์แห่งหนึ่ง แต่บาร์ต้องปิดปรับปรุงชั่วคราว ทำให้เขาตกงานกะทันหัน และครอบครัวของโทนี่ ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมาก เขาจึงต้องเดินสายหางานทำ และบังเอิญมีคนติดต่อเขามาให้ไปลองสัมภาษณ์งานที่หนึ่ง เมื่อไปถึงจึงทำให้เขาพบกับ ดอน เชอร์ลีย์ (รับบทโดย มาเฮอร์ชาลา อาลี) นักเปียโนแนวแจ๊สและคลาสสิกแห่งยุค ที่มีเชื้อสายจาไมกา-อเมริกัน

อาลีมีเงินร่ำรวยมากมายจากการเดินสายออกทัวร์ในดีปเซาท์ และเขากำลังมองหาคนขับรถที่เป็นได้ทั้งคนขับรถ บอดี้การ์ดและคอยดูแลทุกอย่างเหมือนพ่อบ้าน ในตอนแรกโทนี่ปฏิเสธ เนื่องจากว่าเขาไม่ได้อยากรับใช้ใครถึงขนาดรีดผ้าหรือขัดรองเท้าให้ แต่ด้วยความที่เงินดีเขาจึงตกปากรับคำไปด้วยเงื่อนไขที่โทนี่เคยขออาลีไว้ การออกทัวร์เป็นการเดินทางที่ยาวนานถึง 2 เดือนนั่นทำให้ทั้งคู่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา การเรียนรู้ซึ่งกันและการและการผูกมิตรภาพของคนผิวสีจึงเริ่มต้นขึ้น

พวกเขานั่งอยู่ที่บาร์ของคนผิวสี และสนทนากันเรื่องความกล้าที่ขัดขืนต่อการจำยอมทำตามกฎของคนอเมริกัน

Green Book ถูกตั้งขึ้นตามชื่อของหนังสือที่ชื่อว่า “The Negro Motorist Green Book” เป็นคู่มือในยุคศตวรรษที่ 20 สำหรับนักเดินทางชาวผิวสีแอฟริกัน-อเมริกัน ที่เขียนขึ้นโดย วิกเตอร์ ฮิวโก กรีน โดยในกรีนบุ๊คจะประกอบไปด้วยโมเตลและร้านอาหารของคนผิวสีที่พร้อมจะเปิดต้อนรับพวกเขาในช่วงที่บ้านเมืองยังมีการแบ่งแยกสีผิวกันอยู่

เรื่องราวทั้งหมดอิงมาจากเรื่องจริงของ Donald Walbridge Shirley ซึ่งเป็นนักเปียโนและนักแต่งเพลงคลาสสิกและแจ๊สชาวอเมริกัน ที่ตลอดชีวิตของเขาที่พยายามเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่เหยียดหยามสีผิวของเขา แต่เขาก็พยายามเงียบและทำตามในแบบสันติวิธีเพื่อให้ผู้คนรับรู้ว่าเขายินดีต่อความแตกต่างและอยากให้รู้ว่าคนผิวสีเป็นมนุษย์คนหนึ่งเฉกเช่นพวกเขา โดนัลด์ เชอร์ลีย์เสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2556 ในแมนแฮตตัน นิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา แต่ดนตรีและเรื่องราวของเขายังคงไม่จางหายและฝากไว้ในผลงานภาพยนตร์ชิ้นนี้เพื่อให้ผู้คนจดจำเรื่องราวที่น่าเศร้าของคนผิวสี แม้ว่าจะร่ำรวยเงินทองแต่สีผิวก็ยังเป็นตัวปิดกั้นเสรีระหว่างมนุษย์อยู่ดี ฉะนั้นสังคมที่เป็นประชาธิปไตยควรมองการเป็นมนุษย์เหมือนกันจะดีกว่ามองกันที่สีผิวและรูปร่าง และจงอย่ายอมก้มหัวให้กับความไม่เท่าเทียมเหล่านี้ รับชมเรื่องราวของพวกเขาใน Green Book ได้แล้วทาง Netflix