svasdssvasds

ร่างกายเราก็ต้องดูแล แต่วิตามินเสริมจำเป็นจริงหรือ

ร่างกายเราก็ต้องดูแล แต่วิตามินเสริมจำเป็นจริงหรือ

ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th

เคยบ้างไหม เดินเข้าร้านเพื่อซื้อครีมบำรุงผิว แต่ขากลับมีวิตามินเสริมหลายขวดติดมือมาด้วย ในยุคที่เราหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น การกินวิตามินเสริมดูเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับร่างกาย กินแล้วอุ่นใจว่าเราดูแลร่างกายนะเออ แต่ก็มีหลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า จริงๆแล้วเราจำเป็นต้องกินวิตามินเสริมไหม และควรกินวิตามินประเภทใดบ้าง

วันนี้ เราลองมาดูแนวทางการกินวิตามินเสริมที่รวบรวมจากการศึกษาล่าสุดกัน โดยเป็นข้อมูลทั่วไปสำหรับผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงโดยรวม

วิตามินรวม ไม่จำเป็นต้องกินเสริม คุณได้รับสารอาหารครบถ้วนเมื่อรับประทานอาหารอย่างสมดุล ในหลายทศวรรษที่ผ่านมา มีข้อสันนิษฐานว่าการกินวิตามินรวมเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพโดยรวม วิตามินซี “กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน” วิตามินเอบำรุงสายตา และวิตามินบีเสริมพลังงานให้กับร่างกาย แต่มีผลการศึกษาที่บ่งชี้ว่า แท้จริงแล้ว การกินวิตามินรวมมากเกินไปก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกาย ผลการศึกษาผู้หญิงอายุเกิน 25 ปีจำนวน 39,000 คนที่กินวิตามินรวมอย่างต่อเนื่องยาวนาน ปรากฎว่ามีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตในภาพรวมสูงกว่าคนที่ไม่ได้กิน

วิตามินดี คนเมืองหนาวได้รับคำแนะนำให้กินวิตามินดีเสริม เพราะช่วยให้กระดูกแข็งแรงและเป็นวิตามินที่ยากจะได้รับจากอาหาร แต่สำหรับคนในประเทศไทยที่เป็นเมืองร้อน อาจจะไม่มีปัญหานี้ เนื่องจากเราได้รับวิตามินดีจากแสงแดดอยู่แล้ว จึงควรหาโอกาสสัมผัสกับแสงแดดอ่อนๆเพื่อให้ได้รับวิตามินดีอย่างสม่ำเสมอ

วิตามินที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ไม่จำเป็นต้องกินเสริม คุณสามารถกินลูกเบอร์รี่และผักบางชนิดทดแทนได้ ผลการศึกษาหลายชิ้นงานพบว่าการได้รับสารต้านอนุมูลอิสระมากเกินไป มีความเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งบางชนิด

ร่างกายเราก็ต้องดูแล แต่วิตามินเสริมจำเป็นจริงหรือ

วิตามินซี ไม่จำเป็นต้องกินเสริม แท้จริงแล้ว ผลจากการศึกษาหลายชิ้นพบว่า วิตามินซีมีส่วนน้อยมากในการป้องกันโรคหวัด นอกจากนี้ การกินวิตามินซีมากเกินไป (2,000 มิลลิกรัมขึ้นไป) ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นนิ่วอีกด้วย ร่างกายของเราจึงควรได้รับวิตามินซีจากอาหารโดยตรง โดยคุณสามารถกินผลไม้รสเปรี้ยวและผลไม้ประเภทเบอร์รี่ เช่นสตรอเบอร์รี่ ทดแทนได้

วิตามินบี 3 ไม่จำเป็นต้องกินเสริม และให้กินแซลมอน ทูน่า หรือบีท (Beet) แทน วิตามินบี 3 ได้รับการโปรโมทอยู่นานหลายปีว่าสามารถรักษาทุกโรค จากโรคอัลไซเมอร์ถึงโรคหัวใจ แต่การศึกษาผู้ป่วยโรคหัวใจมากกว่า 25,000 คนในปีค.ศ. 2014 พบว่าวิตามินชนิดนี้ไม่ได้ช่วยลดอาการหัวใจล้มเหลว หัวใจวาย หรือการเสียชีวิตลง นอกจากนี้ ยังพบว่าคนไข้ที่กินวิตามินบี 3 มีโอกาสเกิดการติดเชื้อ ตับมีปัญหา และทำให้เลือดออกภายในได้มากกว่าคนที่ไม่ได้กินวิตามินบี 3 เสียอีก

โปรไบโอติก  ไม่จำเป็นต้องกินเสริม เรายังไม่มีงานวิชาการที่มีความก้าวหน้ามากพอที่จะรองรับว่าโปรไบโอติกมีประโยชน์อย่างมากต่อร่างกาย และคุณสามารถกินโยเกิร์ตแทนได้

สังกะสี (Zinc) ควรกินเป็นวิตามินเสริม มีการศึกษาในปีค.ศ. 2011 พบว่า สังกะสี (Zinc) เป็นหนึ่งในส่วนประกอบที่ช่วยทำให้หายหวัดเร็วขึ้น และลดความรุนแรงของอาการหวัดลงได้

วิตามินอี  ไม่จำเป็นต้องกินเสริม จากการศึกษาหลายชิ้นพบว่าการได้รับวิตามินอีมากเกินไป มีความเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งบางชนิด คุณจึงสามารถลดความเสี่ยงด้วยการกินผักสีเขียวเข้ม เช่นผักโขม แทนได้

กรดโฟลิก ควรกินเป็นวิตามินเสริม หากคุณกำลังตั้งครรภ์หรือคิดจะตั้งครรภ์ เพราะเป็นสารที่ร่างกายใช้ในการสร้างเซลล์ใหม่ จึงจำเป็นสำหรับคุณแม่และลูกน้อยนั่นเอง

แน่นอนว่า ร่างกายของแต่ละคนอาจมีความต้องการวิตามินที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ ผลของการศึกษาและการค้นพบใหม่ๆอาจจะแตกต่างไปจากความเชื่อเดิม จึงควรอ่านเพื่อนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับคุณให้มากที่สุด ไม่ว่าอย่างไร การดูแลสุขภาพในเบื้องต้นของเราก็คงหนีไม่พ้นการกินอาหารให้ครบหมู่ การทำจิตใจให้เบิกบาน การพักผ่อนนอนหลับให้พอเพียง และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง