ช่วง เทศกาลตรุษจีน ประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนมีความเชื่อว่า การสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และบรรพบุรุษโดยการจุดประทัด ถือเป็นการขับไล่สิ่งชั่วร้ายและทำให้กิจการเจริญรุ่งเรืองนั้น ขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอุบัติเหตุจากการจุดประทัด ซึ่งอาจทำให้ได้รับบาดเจ็บจากความประมาทและความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้
คำแนะนำในการจุดประทัด ดอกไม้ไฟ ควรปฏิบัติดังนี้
- ไม่เล่นผาดโผน ไม่ควรจุดใกล้วัตถุไวไฟหรืออาคารบ้านเรือน
- ผู้ปกครองไม่ควรให้เด็กนำประทัดมาเล่นเด็ดขาด
- ควรจุดให้ห่างจากตัวประมาณ 1 ช่วงแขน
- ห้ามพยายามจุดประทัดที่จุดแล้วไม่ติดหรือไม่ระเบิดอย่างเด็ดขาด
- ไม่เก็บประทัด ดอกไม้ไฟ ไว้ในกระเป๋าเสื้อ กางเกง หรือที่มีอากาศร้อน เพราะอาจเกิดการเสียดสีและระเบิดได้
- ควรเตรียมภาชนะบรรจุน้ำไว้ใกล้บริเวณที่เล่น
- ห้ามประกอบหรือดัดแปลงประทัด ดอกไม้ไฟ และพลุไว้เล่นเองเด็ดขาด
- ให้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 อย่างเคร่งครัด
- หากเกิดอุบัติเหตุ ให้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยให้รีบห้ามเลือดและใช้ผ้าสะอาดปิดบาดแผลหรือพันแผลบริเวณเหนือแผลให้แน่นเพื่อป้องกันเลือดออก ไม่ควรใช้เชือกหรือสายรัดเพราะจะทำให้เส้นประสาทหรือหลอดเลือดเสียได้ และขอให้รีบโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพ โทร.1669
นายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวเตือนคนที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวหรือไปไหว้ขอพรญาติผู้ใหญ่ ให้ระมัดระวังอุบัติเหตุทางถนน โดยให้ปฏิบัติ ดังนี้
- ก่อนออกเดินทางให้ตรวจสภาพรถอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ศึกษาเส้นทาง และหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงที่ทัศนวิสัยไม่ดี
- ช่วงเวลาขณะเดินทาง ให้คาดเข็มขัดนิรภัยทั้งคนขับและผู้ร่วมเดินทาง
- ขับรถด้วยความเร็วตามกฎหมายกำหนด เคารพกฎจราจร ไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถโดยเด็ดขาด หากจำเป็นต้องใช้ ควรหยุดรถในจุดที่ปลอดภัย
- ในการขับขี่ช่วงพลบค่ำ ควรเปิดไฟหน้ารถเพื่อเพิ่มการมองเห็นและป้องกันอุบัติเหตุ ที่สำคัญหากขับรถระยะทางไกล ควรมีคนช่วยเปลี่ยนกันขับ ถ้าง่วงนอน ให้จอดพักบ่อยๆ หรือจอดพักเพื่องีบสัก 15-20 นาที
- ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งก่อนและขณะขับขี่ หากรู้ว่าต้องเดินทางไปสังสรรค์และดื่มสุรา ให้หลีกเลี่ยงการขับรถไปเอง และให้ผู้ที่ไม่ดื่มสุราขับรถไปส่ง หรือใช้บริการรถโดยสารหรือแท็กซี่
หากมีปัญหาอยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถโทรมาได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422