สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลเยอรมนีเตรียมมอบทุนสนับสนุนการพัฒนาวัคซีนต้านโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แบบฉีดพ่นทางจมูก ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สำหรับเด็กในปัจจุบัน
เบ็ตตินา สตาร์ก-วัตซิงเกอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและวิจัยของเยอรมนี เผยกับหนังสือพิมพ์เอาก์สบวร์ก อัลล์เกไมน์ ว่าเนื่องจากวัคซีนดังกล่าวถูกฉีดพ่นด้วยสเปรย์เข้าสู่เยื่อบุจมูกโดยตรง มันจึงจะออกฤทธิ์ในจุดที่เชื้อไวรัสฯ เข้าสู่ร่างกาย พร้อมระบุว่าโครงการวิจัยซึ่งดำเนินงานโดยโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยมิวนิก จะได้รับเงินทุนเกือบ 1.7 ล้านยูโร (ราว 61.97 ล้านบาท) จากกระทรวงฯ
โจเซฟ โรเซเนกเกอร์ หัวหน้าโครงการวิจัย อธิบายว่าวัคซีนนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เข็ม จึงไม่สร้างความเจ็บปวด อีกทั้งสามารถฉีดพ่นได้โดยไม่ต้องพึ่งบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจมีส่วนทำให้ผู้ป่วยเข้ารับวัคซีนมากขึ้น
สถิติทางการเผยว่าจากประชากรวัยผู้ใหญ่ในเยอรมนีที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 69.4 ล้านคน มีผู้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ราวร้อยละ 85 ฉีดวัคซีนโดสกระตุ้นหนึ่งโดสเกือบร้อยละ 72 และฉีดวัคซีนโดสกระตุ้นสองโดสเกือบร้อยละ 10
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
4 นวัตกรรมสุดเจ๋ง ที่ช่วยดับเพลิงไฟได้ง่ายๆด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ
ผู้ป่วยโควิด สิทธิบัตรทอง พบแพทย์ Telemedicine ส่งยาฟรีถึงบ้าน
นักวิจัยอินเดียพัฒนา หน้ากาก N95 ใช้ได้กว่า 5 ปี โดยใช้เทคโนโลยีการพิมพ์
ร่างกฎหมายป้องกันการติดเชื้อฉบับใหม่ของเยอรมนี ซึ่งร่วมออกโดยกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงยุติธรรม ระบุว่าทางการอาจกลับมาบังคับใช้คำสั่งสวมหน้ากากอนามัยบนรถไฟ รวมถึงพื้นที่ในอาคารบางแห่ง เช่น โรงพยาบาล ขณะสหพันธรัฐของเยอรมนีจะได้รับอนุญาตให้ดำเนินมาตรการรอบด้านมากขึ้น ซึ่งอาจรวมถึงการบังคับตรวจโรคที่หลายสถาบันของรัฐ อย่าง โรงเรียนและสถานรับเลี้ยงเด็ก
ด้านคาร์ล เลาเทอร์บัค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเยอรมนี กล่าวขณะนำเสนอร่างกฎหมายฯ ว่าเยอรมนีควรเตรียมรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงฤดูหนาวนี้ให้ดีกว่าช่วงปีที่ผ่านมา