ชายแดนภาคตะวันออก สวรรค์ของคนหนีคดี

การไล่ล่านายปัญญา ยิ่งดัง อายุ 39 หรือ เสี่ยอ้วน ผู้ต้องหาตามหมายจับบงการฆ่า น.ส.ปวีณา หรือสปาย นาเมืองรักษ์ อายุ 20 ปี และ นายอนันตชัย หรือฟอส จริตรัมย์ อายุ 20 ปีเพื่อนสนิท อย่างโหดเหี้ยม ก่อนที่ชุดสืบสวนของตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และตำรวจสืบสวนภูธรภาค 2 จะตามแกะรอย จนพบว่าเสี่ยอ้วนกับลูกน้องน่าจะหลบหนีเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชาแล้ว เนื่องจากรู้ช่องทางการหลบหนี ตามป่าเส้นทางธรรมชาติตามแนวชายแดนเป็นอย่างดี เพราะเกิดและเติบโตที่นี่ และสามารถสื่อสารกับชาวกัมพูชาได้เป็นอย่างดีด้วย นอกจากนั้นจากการการตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์ ล่าสุดพบว่าอยู่ในเขตประเทศกัมพูชาแล้วเช่นกัน ทำให้ความหวังที่จะได้ตัวเสี่ยอ้วนมาดำเนินคดี ยากลำบากมากยิ่งขึ้น

ทีมข่าวสปริงนิวส์ สอบถามข้อมูลไปยัง พ.ต.อ.ชาญชัย เชาวน์เกษม ผกก.ด่านตม.สุรินทร์ เปิดเผยว่าการที่คนร้ายในคดีสำคัญจะหลบหนีออกตามช่องทางตรวจคนเข้าเมือง มีความเป็นไปได้น้อยมาก เพราะหากเกิดคดีสำคัญตำรวจตรวจคนเข้าเมืองแต่ละด่าน จะตื่นตัว เพราะตำรวจก็เหมือนกับประชาชนทั่วไปที่รับข้อมูลข่าวสาร เพียงแต่เมื่อตำรวจได้รับข้อมูลแล้วก็จะมาปรับการทำงานด้วยการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจบุคคลต้องสงสัยว่าจะเป็นคนร้าย เพื่อป้องกันไม่ให้หลบหนีออกนอกประเทศ เพราะหลายคดีที่เกิดขึ้นกว่าที่ตำรวจท้องที่จะรู้ตัวคนร้าย หรือ มีการออกหมายจับ การประสานงานแบบเป็นทางการก็อาจจะช้าเกินไป

ผู้บังคับบัญชาต้องตื่นตัวและปรับตัวให้ทันกับยุคข้อมูลข่าวสารเพราะหากเกิดคดีสำคัญ การสั่งงานผู้ใต้บังคับบัญชา ให้เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังบุคคลต้องสงสัยจะเป็นคนร้ายหลบหนี เป็นเรื่อสำคัญที่สุด เพราะแม้ว่าจะยังไม่มีการออกหมายจับ แต่หากพบว่าบุคคลที่ต้องสงสัยจะเป็นคนร้ายผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ก็สามารถใช้อำนาจในการกักตัว เพื่อสอบถามข้อมูลได้โดยไม่ต้องมีหมายจับ โดยการกักตัวไว้สอบถามข้อมูลจะทำไปพร้อมๆกับการประสานตำรวจเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุให้เข้าตรวจสอบว่าผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่

พ.ต.อ.ชาญชัย กล่าวอีกว่าปกติการทำงานของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จะมีระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย ในการประสานข้อมูลบุคคลต้องห้าม และบุคคลหลบหนีคดี โดยขั้นตอนการปฎิบัติ เมื่อตำรวจเจ้าของพื้นที่ได้ข้อมูลเกี่ยวกับคนร้าย ที่ก่อเหตุก็จะประสานไปยังศูนย์สืบสวนของแต่ละสังกัด จากนั้นศูนย์สืบสวนของตำรวจพื้นที่ จะประสานข้อมูลมายังศูนย์สืบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อกระจายข้อมูลของบุคคลต้องห้าม และบุคคลหลบหนีคดี ไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองที่มีอยู่ทั่วประเทศ เพื่อป้องกันการเดินทางหลบหนี ซึ่งเป็นขั้นตอนการปฎิบัติที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำมาอย่างต่อเนื่อง แต่ในความเป้นจริงแล้ว คนร้ายที่หนีคดีมักจะไม่เข้ามายังด่านตรวจคนเข้าเมือง เพราะมีความเสี่ยงต่อการถูกจับกุม ดังนั้นคนกลุ่มนี้จึงเลือกที่จะหลบหนีออกนอกประเทศ โดยอาศัยช่องทางธรรมชาติ ที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากต่อการป้องกั้น แม้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเฝ้าระวังก็ตาม

ซึ่งตรงกับข้อมูลที่ทีมข่าวสปริงนิวส์ ได้รับจากแหล่งข่าวชายแดนที่ระบุว่า ประเทศไทยมีพรหมแดน ที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านถึง 4 ประเทศ ระยะทางหลายพันกิโลเมตร แต่จุดที่มักจะตกเป็นข่าวมาที่สุดคือ ชายแดนด้านทิศตะวันออก ที่ติดกับประเทศกัมพูชา สาเหตุเนื่องจากเป็นชายแดนที่อยู่ใกล้เมืองหลวง อย่างกรุงเทพมหานครมากที่สุด และที่สำคัญคือชายแดนฝั่งประเทศกัมพูชา มีบ่อนการพนัน ซึ่งเป็นสถานที่ให้ "ค้นหนีคดี" ไปอาศัยซุกตัวได้เป็นอย่างดี เพราะในบ่อนกาสิโนจะการันตี ว่าจะไม่มีใครกล้าเข้ามาจับ เพราะอิทธิพลของเจ้าของบ่อนครอบคลุมพื้นที่อยู่แล้ว ยิ่งถ้ามีเงินเยอะ การดูแลจะอยู่ในระดับ วีไอพี คือมีรถมารับ-ส่ง เมื่อผ่านด่านตรวจก็นั่งอยู่บนรถอย่างเดียว ไม่ต้องลงมาแสดงหลักฐาน รอให้คนของบ่อนและเจ้าหน้าที่เคลียร์กันเอง

ปกติการบริการลักษณะนี้จะเป็นที่นิยมของกลุ่มข้าราชการ และบุคคลที่มีชื่อเสียง ที่เป็นทาสพนันแต่ไม่อยากให้มีประวัติว่าผ่านเข้าออกด่านชายแดนที่มีการพนัน จนเป็นที่ผิดสังเกตุ การเรียกใช้บริการนี้ราคาจะเริ่มต้นที่คนละ 3,000 บาท การันตีทั้งขาไปและขากลับ เรียกได้ว่าอยากไปอยากกลับเวลาไหน ก็มีบริการให้ทันที ซึ่งการติดต่อขอใช้บริการจะมีนายหน้าคอยบริการ ซึ่งคนในบ่อนพนันจะรู้่ดีว่าใครเป็นนายหน้าพาลูกค้ามาบ่อนพนันบ้าง เพราะคนกลุ่มนี้ไม่ได้เงินจากคนว่าจ้างเพียงอย่างเดียว แต่ยังได้ค่าหัวในการพาคนเข้าบ่อนพนันอีกด้วย ส่วนการลักลอบข้ามไปยังบ่อนพนันนั้น จะใช้เส้นทางลัดเลาะไปตามหมู่บ้าน หรือพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านตามแนวชายแดน เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับด่านตรวจทั้งของตำรวจและทหาร ซึ่งคนกลุ่มนี้จะรู้เส้นทางหลบหลีกเป็นอย่างดี

แต่หากใครไม่อยากเสียเงินก็ต้องยอมเสี่ยงด้วยการ แอบหนีข้ามไป-กลับเอง ซึ่งส่วนใหญ่ด้านหลังบ่อนบางแห่งจะติดกับชายแดนฝั่งไทย ใครไม่มีเส้นสาย ไม่มีเงิน ก็เสี่ยงมุดรั้วข้ามกลับมาเอง แต่ช่วงนี้น่าจะทำได้ยาก เพราะหลังมีเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ และการหลบหนีคดีของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้เจ้าหน้าที่ก็เข้มงวดตรวจตราหนักขึ้น

แหล่งข่าวยังบอกกับทีมข่าวสปริงนิวส์อีกว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้งสองคดี ไม่ว่าจะเป็นเสี่ยอ้วน หรือ นายอัศยา หรือโก้ ชัยภา อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาฆ่าโหด น.ส.ธิติมา หรือเชอรี่ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ ไฮโซสาวเจ้าของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ก็ไม่อาจจะหลบหนีในประเทศกัมพูชาได้นาน เพราะการจะหลบหนีต้องใช้เงินมาก และยิ่งเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และเป็นข่าวดังระดับประเทศ บ่อนพนันก็คงไม่ยินดีให้คนแบบนี้อาศัยอยู่ได้นานอย่างแน่นอน ยกเว้นพวกเขาจะมีเงินจ่ายค่าปิดปากที่มากพอ