”คลายล็อก”พรรคการเมืองขยักแรกคลอดออกมา 9 ข้อใหญ่ ดูๆไปแล้วพรรคการเมืองน่าจะได้อานิสงส์ไปบ้างบางส่วน แต่...ประชาชนยังดูเหมือนจะฝันค้าง อดมีส่วนร่วมในการคัดเลือกตัว ผู้แทน ในดวงใจ
หลังปล่อยให้นักการเมืองหยิบยกเป็นข้ออ้างและเรียกร้องให้”ปลดล็อก”พรรคการเมืองมานาน ในที่สุด คสช.ก็ประกาศเตรียม”คลายล็อก” เปิดช่องหายใจให้พรรคการเมืองถึง 9 ข้อใหญ่ และยังมีข้อย่อยแถมให้อีกหลายข้อ
จากเดิมที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯและมือกฎหมายคนสำคัญของรัฐบาล ดำริจะผ่อนปรนให้เพียง 6 ข้อ แต่กระนั้น ยังจำกัดมีข้อห้ามเรื่องการหาเสียงเลือกตั้ง หรือกิจกรรมอื่นที่มีรูปแบบคล้ายกัน แต่สุ่มเสี่ยงและอาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง ยังไม่อนุญาตให้ทำ ต้องรอไปขยักที่ 2
เนื้อหาหลักในการ”คลายล็อก”ขยักแรก ไล่เรียงตั้งแต่เรื่องพื้นฐานทั่วไปของพรรคการเมือง คือเปิดประชุมพรรค การแก้ไขข้อบังคับพรรค การหาสมาชิกและขยายเวลาตั้งกองทุนประเดิมพรรค ซึ่งต้องมีไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท การตั้งกรรมการสรรหาผู้สมัครส.ส.ของพรรค ที่จะเชี่อมโยงกับการทำไพรมารีโหวต ที่กำหนดไว้ในพ.ร.ป.พรรคการเมือง เป็นอาทิ
แต่ประเด็นไพรมารีโหวต ที่เป็นข้ออ้างแต่ต้นของพรรคการเมืองว่าอาจทำไม่ทัน และบางพรรคเสนอให้งดเว้นในการเลือกตั้งส.ส.ครั้งหน้านั้น มีแนวโน้มสูงที่จะไม่ถูกนำมาใช้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยให้เลี่ยงไปทำตามมาตรา 45 ของรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ซึ่งระบุไว้เพียงให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ดังที่นายวิษณุ เครืองาม ได้เปิดโมเดลใหม่ออกมา คือให้พรรคการเมืองตั้งกรรมการสรรหา 11 คน มาจากตัวแทนกรรมการบริหาร 4 คน และจากสมาชิกพรรค 7 คน ลงไปพบปะกับสมาชิกในแต่ละเขต แล้วรวบรวมรายชื่อผู้สมัครเสนอให้กรรมการบริหารพรรคพิจารณาแทน
วิธีการนี้ไม่ใช่ไพรมารีโหวต แต่นายวิษณุย้ำว่า นี่เป็นต้นร่างเดิมของกรธ.ที่เสนอต่อสนช. ก่อนที่ในชั้นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ จะไปใส่ระบบไพรมารีโหวตไว้ใน พ.ร.ป.พรรคการเมือง
ถึงขณะนี้ สาระส่วนใหญ่ที่นายวิษณุ ร่างและเสนอต่อ คสช. คาดว่า แทบจะไม่มีส่วนไหนแก้ไขเปลี่ยนแปลงไปจากที่ปรากฏบนหน้าสื่อ เพียงแค่คำสั่งคลายล็อค ซึ่งจะออกมาโดยใช้อำนาจตามมาตรา 44 จะประกาศออกมาวันไหน แต่นั่นก็ไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะกว่าจะมีผลบังคับใช้ ต้องรอให้ พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.และ พ.ร.ป.การได้มาซึ่ง ส.ว. ประกาศในราชกิจจานุเบกษาอยู่ดี คาดหมายกันว่า น่าจะประกาศในราววันที่ 13-14 กันยายน 2561 ครบกำหนด 90 วัน ในขั้นตอนนำ พ.ร.ป.ทั้ง 2 ฉบับขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย
ผลของประกาศคลายล็อคเมื่อคำสั่งมีผลบังคับใช้ สำหรับฝ่ายการเมือง สิ่งที่จะได้ คือสามารถทำกิจกรรมทางการเมืองหลายอย่างได้ทันที ตาม 9 ข้อใหญ่ แม้ในทางทฤษฎี จะมีนักวิชาการบางคนตั้งข้อสังเกตว่า อาจยังไม่คล่องตัวนัก ตราบใดที่ประกาศ 57/2557 ที่ห้ามพรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมือง และคำสั่งที่ 3/2558 ว่าด้วยข้อห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน ยังไม่ประกาศยกเลิก แต่ในทางปฏิบัติ น้อยคนจะเชื่อว่าจะเป็นอุปสรรคต่อการหาสมาชิกพรรค หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ที่จะเป็นประโยชน์ของพรรคการเมือง เพราะดูจะเป็นเรื่องที่นักการเมืองช่ำชองชำนาญอยู่ก่อนแล้ว จึงไม่มีอะไรต้องห่วง
อย่างเดียวที่อาจเป็นปัญหา คือเรื่องแบ่งเขตเลือกตั้งในแต่ละจังหวัดที่มี ส.ส.ได้มากกว่า 1 คน เพราะจะมีผลต่อการวางตัวผู้สมัคร ส.ส. เพื่อความได้เปรียบพรรคการเมืองอื่น จนกว่า กกต.จะแบ่งพื้นที่เขตเลือกตั้งแล้วเสร็จ ซึ่งจะต้องใช้เวลาพอสมควร นับจากการคลายล็อคเป็นต้นไป แต่เชื่อกันว่า ท้ายที่สุด นักการเมือง จะสามารถพิชิตอุปสรรคนี้ไปได้อยู่ดี
ส่วนผลพลอยได้สำคัญ คือผู้บริหารพรรค หรือผู้มีบารมีในพรรค ยังสามารถกำหนดหรือชี้ตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ได้เหมือนเดิม จากการเปลี่ยนแปลงวิธีการคัดเลือกผู้สมัครไปจากวิธีไพรมารีโหวต กลับไปใช้วิธีที่สามารถเอื้อต่อขาใหญ่ได้ดังเดิม
ขณะที่ประชาชน สถานภาพแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แม้นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธาน กรธ.จะพูดย้ำหลายครั้งว่า เป็นรัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูป เพื่อประชาชนเป็นใหญ่ แต่ท้ายที่สุด ยังจะเป็นเหยื่อที่โดนหลอกล่อเช่นเดิม โดนนักการเมืองขายฝันคุยฟุ้งเรื่องนโยบายสวยหรู ยกย่องให้เป็นเป็นผู้มีพระคุณและเป็นพี่เป็นน้องกับนักการเมือง ที่จะผลัดเปลี่ยนเวียนหน้าตากันลงพื้นที่ และย้ำคำพูดคล้ายๆ กันว่า พวกเขาจะต้องทุ่มเท ทำทุกอย่างเพื่อพี่น้องทุกคน แค่ให้โอกาสกับเขาเท่านั้น
ไม่เพียงเท่านั้น หากประชาชนคนใดสนใจอยากมีส่วนร่วม โดยเข้าเป็นสมาชิกของพรรคการเมือง ยังต้องเสียค่าบำรุงพรรค อย่างน้อยปีละ 50 บาท
แม้จะต้องเสียเงินบำรุงพรรค แต่การมีส่วนร่วมคัดเลือกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในเขตเลือกตั้ง ที่อุตส่าห์ดีใจ หลังจากฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการร่างรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ต่างคุยเป็นคุ้งเป็นแควมาตั้งแต่ต้น แต่สุดท้าย กลับกลายเป็นฝันค้าง
อย่างดีที่สุด แค่ถูกแอบอ้างว่ามีคณะกรรมการสรรหาของพรรคลงพื้นที่มาสอบถามความเห็น เรื่องว่าที่ผู้สมัครส.ส.แล้ว
อนิจจา!