ขยายฐานสู่คนรุ่นใหม่รับเลือกตั้ง แนวรุกล่าสุด"บิ๊กตู่-ดิจิตอล"

ขยายฐานสู่คนรุ่นใหม่รับเลือกตั้ง แนวรุกล่าสุด"บิ๊กตู่-ดิจิตอล"

เมื่อชัดเจนแล้วว่า เดินหน้าต่อบนเส้นทางการเมืองแน่นอนแล้ว "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงต้องเปิดแนวรบเต็มที่และรอบด้าน อย่างล่าสุดเปิดแฟนเพจ ไอจี และทวิตเตอร์ Prayut Chan-o-cha เรียกมวลชน

ตามอย่างนักการเมืองอาชีพในไทย หรือแม้แต่ผู้นำประเทศทั่วโลก ต่างก็มีช่องทางออนไลน์สำหรับสื่อสารไปถึงแฟนคลับและมวลหมู่ประชาชนด้วยกันทั้งนั้น

แม้นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเคยพูดย้ำกับสื่อเมื่อ 2558 หลังรัฐประหารรัฐบาลรักษาการได้ 1ปีว่า ไม่จำเป็นต้องเปิดเฟซบุ๊กแฟนเพจ เพราะหากจะรักกัน ก็ให้รักตัวตนจริงๆ ดีกว่าจะไปผ่านเฟซบุ๊ก

และก่อนหน้า "บิ๊กตู่"ก็ยืนยันมาตลอดว่า แฟนเพจที่มีอยู่ อย่าง "Gen Prayut Chan-o-cha ทีมงาน" ก็มีคนอื่นทำให้ ตนไม่ได้ทำเอง

รวมทั้งการปรากฏตัวของเพจต่างๆที่สนับสนุน"บิ๊กตู่"ซึ่งมีอยู่มากมาย อาทิ ไทยคู่ฟ้า เพจเปรี้ยง เพจ ลุงตู่ตูน เพจ ขอล้านไลค์ให้พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ

แต่ครั้งนี้"บิ๊กตู่"ยอมรับว่าเปิดแฟนเพจเอง และเป็นแอดมินเอง โดยมีจุดมุงหมายสำคัญคือต้องการสื่อสารและรับฟ้งความเห็นของประชาชน

ซึ่งหากเป็นเหตุผลอย่างที่ว่าจริง ตอนนี้ Gen. Prayut คงได้รู้แล้วว่า ความต้องการและความรู้สึกของประชาชนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นอย่างไร

เพราะด้านหนึ่ง ได้รับเสียงเชียร์และให้กำลังใจจากแฟนคลับที่ชื่นชมชื่นชอบอยู่ก่อนแล้วล้นหลาม แต่อีกด้านหนึ่ง ปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นความเห็นและท่าทีจากคนอีกกลุ่มหนึ่งที่อาจไม่ชอบ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ก่อนแล้ว และอาจรวมถึงกลุ่มที่เฉยๆ ไม่รักไม่เกลียด แต่มักชอบส่งคอมเมนท์หรือความเห็นแบบตามอำเภอใจ ส่งเข้าไปท้าทาย และกระแหนะกระแหนกึ่งๆจัดหนักต่อเนื่องเช่นกัน

กระทั่งแฟนๆส่วนหนึ่ง อดไม่ได้ที่ต้องลุ้นระทึกว่า จะไปกระตุ้นให้ปรอทอารมณ์"บิ๊กตู่"พุ่งปรี๊ดถึงจุดเดือดหรือเปล่า?

เพราะทราบกันดีว่า นี่เป็นจุดด้อยของ"ท่านผู้นำ"อย่างแท้จริง บ่อยครั้งที่แสดงให้เห็นถึงอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน เมื่อเจอเรื่อง หรือคำถามที่ไม่พอใจจากสื่อ

อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้หลายคนได้เห็นการเก็บอารมณ์ได้ดี พร้อมคำยืนยันเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นทุกด้าน แม้จะมีคอมเมนต์หนักๆ เล็ดลอดเข้าไปไม่ขาดสาย แต่ยังบอกกล่าวกับสื่อในทำนองว่าเป็นเรื่องชิวๆ สบายๆ

กระทั่งคอการเมืองพันธุ์แท้บางส่วนวิจารณ์ว่า เริ่มปรับตัวเข้าสู่โหมดการเมืองได้แล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ ทั้งในการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและประชุมครม.ต่างจังหวัด หรือแม้แต่วาระงานที่ทำเนียบ และในกรุงเทพฯ "บิ๊กตู่"ทำได้ไม่แพ้ หรืออาจจะมากกว่านักการเมืองอาชีพ ประเภทมาจากการเลือกตั้งเสียด้วยซ้ำ

ขนาดคุยกับหมูเห็ดเป็ดไก่ ยังทักทายกันเป็นคุ้งเป็นแควมาแล้ว ฉะนั้น เมื่อตัดสินใจพร้อมเดินหน้าสู่เวทีการเมืองขนาดนี้ จะมีอะไรที่ไม่กล้าทำหรือทำไม่ได้บ้าง

เพราะนี่จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ในบรรดาสิ่งที่ต้องเผชิญหน้าต่อไปบนเส้นทางการเมือง โดยเฉพาะแรงเสียดทาน ซึ่งจะถาโถมเข้าใส่และหนักหน่วงมากขึ้นเป็นลำดับ

ยังไม่นับรวม เรื่องต้องรับมือคูเหลี่ยมทางการเมือง กับขาใหญ่มากบารมี ทั้งที่แสดงท่าทีจะมาร่วมหอลงโรงด้วยในพรรคหรือฝ่ายเดียวกัน และกลุ่มที่อยู่ฝ่ายตรงข้าม

แต่สิ่งที่ท้าทายที่สุดของ"บิ๊กตู่"ไม่ใช่เพียงปมปริศนาว่า จะสามารถประคับประคองตนเองกับอารมณ์ความรู้สึกที่ต้องหนักแน่นได้ยาวนานแค่ไหนเท่านั้น

แต่ยังขึ้นอยู่การใช้สื่อออนไลน์ และแอพพลิเคชั่นต่างๆเหล่านี้ สื่อสารไปยังประชาชนเพื่อให้เป็นเชิงบวกกับ"บิ๊กตู่"ได้แค่ไหน ในยุคสมัยที่คนหายใจเข้า หายใจออกล้วนเป็นเรื่องของโลกโซเชียลทั้งนั้น

ตรงนี้จะมีความหมายและสำคัญกว่าตัวเลขคนติดตาม คนกดไลค์ และกดแชร์