ตำรวจ ปปป. นำสำนวนคดีที่อดีตผู้บังคับการจังหวัดกาญจนบุรี แก้สำนวนหวย 30 ล้านช่วยครูปรีชา ให้ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว ยืนยันมีหลักฐานเอาผิดชัดเจน
พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนนำแฟ้มเอกสารสำนวนคดีที่ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล อดีตผู้บังคับการจังหวัดกาญจนบุรี ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีสั่งแก้สำนวนการสอบสวนข้อพิพาทคดีสลากกินแบ่งรัฐบาล มูลค่า 30 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา จำนวน 2 แฟ้ม 798 แผ่น มาส่งมอบให้ นายสุทธิ บุญมี ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช. เป็นตัวแทนรับสำนวนคดีไปดำเนินการชี้มูลความผิดตามกระบวนการทางกฎหมาย
พล.ต.ต.กมล กล่าวว่า นอกจาก พล.ต.ต.สุทธิ แล้ว ในสำนวนคดียังมี ครูปรีชา เจ๊บ้าบิ่น และเจ๊พัช ที่พนักงานสอบสวนลงความเห็นว่าควรดำเนินคดีฐานให้การสนับสนุนด้วย ซึ่งในเอกสารที่นำมามอบ มีรายละเอียดการสอบสวนพยาน 13 ปาก อาทิ คำให้การของร้อยเวร และรองผู้กำกับการสอบสวนที่รับผิดชอบคดีในฐานะพยาน หลักฐานการติดต่อสื่อสารผ่านโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาทุกคน รวมถึงผลการตรวจสอบเครื่องคอมพิวเตอร์ที่พบมีการแก้ไขข้อมูลสำนวนคดี รวมอยู่ในหลักฐานให้ ป.ป.ช. พิจารณาด้วย
ซึ่งพยานหลักฐานทางทั้งหมด ปปป. ได้ดำเนินการส่งให้ ป.ป.ช. ครบทั้งหมดแล้ว และไม่มีหลักฐานใดที่ต้องส่งเพิ่มหลังจากนี้ ส่วนกรณีที่ พล.ต.ต.สุทธิ ขอให้สอบสวนพยานเพิ่มเติม 10 ปาก ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานไว้แค่ 3 ปาก ส่วนที่เหลือต้องให้เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. รับไปดำเนินการต่อ ส่วนจะมีหลักฐานใดเพิ่มเติมอีก ก็สามารถนำส่งให้ ป.ป.ช.รับไปพิจารณาได้ทันที หรือหากจะส่งไปที่ ปปป. ก็สามารถทำได้ แต่ก็จะรับไว้ส่งต่อให้กับ ป.ป.ช.เท่านั้น จะไม่มีการพิจารณาหลักฐานใดเพิ่มอีก
ขณะที่ด้านนายสุทธิ เปิดเผยว่า กระบวนการหลังจากนี้ ป.ป.ช.ก็จะเริ่ม นำสำนวนคดีที่มีอยู่เกือบ 800 หน้า ไปพิจารณาแสวงหาข้อเท็จจริงตามเอกสารที่ส่งมาให้ จากนั้นจะเร่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง ก่อนส่งผลให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหญ่ ลงมติชี้มูลความผิดต่อไป ซึ่งเชื่อว่าเอกสารที่นำมามอบมีหลักฐานค่อนข้างสมบูรณ์ ประกอบกับเรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาชนอยู่แล้ว ก็จะใช้เวลาในการพิจารณาคดีนี้ไม่นาน