จ่อเรียก "หมอบอนด์-น้ำผึ้ง" สอบ รีวิวสินค้า "เมจิก สกิน"

วันนี้ (29 เม.ย.61) ที่ห้องประชุมกองบังคับการปราบปราม พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนคดีเมจิก สกิน ออกหมายเรียก นายแพทย์ ปิยะพงษ์ โหวิไลลักษณ์ หรือหมอบอนด์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม และภรรยา ซึ่งอาจมีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายเมจิก สกิน มาสอบปากคำ หลังพบว่าสองสามีภรรยาได้ร่วมรีวิวและโฆษณาเชิญชวนในรับประทานผลิตภัณฑ์ในเครือเมจิก สกิน ในรายการของหญิงย้วย ซึ่งอาจเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 มาตรา 40 ผู้ใดโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหาร อันเป็นเท็จ หรือเป็นการหลอกลวงให้เกิดความหลงเชื่อโดยไม่สมควร มีอัตราโทษตาม มาตร 70 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 41 โฆษณาคุณประชน์ คุณภาพหรือสรรพคุณ เพื่อประโยชน์ทางการค้าโดยไม่รับอนุญาต มีอัตราโทษตามมาตรา 71 ปรับไม่เกินห้าพันบาท ซึ่งหมอบอนด์และภรรยากลายเป็นที่รู้จักของประชาชนจากรายการ Take Me Out Thailand และมีผู้ติดตามบนโลกโซเชี่ยลเป็นจำนวนมาก

ในการนี้ พนักงานสอบสวนจะใช้หลักเกณฑ์เดียวกันกับเหล่าดารานักแสดงในการพิจารณาว่ามีส่วนเกี่ยวช้องกับบริษัท เมจิกสกิน มากน้อยเพียงใด แต่เนื่องจากหมอบอนด์เป็นผู้ที่ประกอบวิชาชีพเวชกรรม จึงอาจเข้าข่ายเป็นความผิดจริยธรรมและจรรยาบรรณแพทย์อีกด้วย จึงต้องตรวจสอบและพิจารณาเป็นพิเศษทั้งในด้านของใบประกอบวิชีพทั่วไป และใบประกอบวิชาชีพเฉพาะทาง ว่ามีคุุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่ หากไม่มี ก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ ขอฝากไปยังดารานักแสดง เน็ตไอดอล และประชาชนทั่วไปว่า ไม่ว่าจะเป็นดาราหรือประชาชนทั่วไปก็ตาม ในการจะสามารถรีวิวสินค้าประเภทนี้ได้ ท่านต้องไปขอนุญาตจาก อย. และได้รับอนุญาตจาก อย.เสียก่อน หากรีวิวสินค้าโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต ก็จะถือเป็นความผิด

นอกจากนั้น พล.ต.อ.วิระชัย ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังได้ฝากเตือนไปยังประชาชน ถึงอันตรายของผลิตภัณฑ์ "ลีน" หรือ "LYN" ซึ่งคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ตรวจพบสารต้องห้ามที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตหากรับประทานต่อเนื่องเพียงแค่ 2 สัปดาห์ โดยล่าสุด พบว่ามีผู้ที่รับประทานอาหารเสริมยี่ห้อนี้เสียชีวิตแล้วถึง 4 ราย เบื้องต้นพบว่าผู้ตายทุกคนมีอาการต่างๆ คล้ายผลข้างเคียงของสารต้องห้ามที่ตรวจพบในผลิตภัณฑ์ยี่้ห้อนี้

ทั้งนี้ ยังต้องรอผลตรวจพิสูจน์ที่แช่ชัดต่อไป จึงขอฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนให้ใช้ความระมัดระวังในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมประเภทควบคุมน้ำหนักและเสริมความงามทั้งหลายให้มาก ต้องมีการตรวจสอบเลขที่ อย. ก่อนตัดสินใจซื้อทุกครั้ง ต้องไม่ซื้อเพราะมีคำโฆษณาสรรพคุณอย่างชัดเจน เนื่องจากอาหารเสริมไม่ใช่ยา ไม่สามารถโฆษณาสรรพคุณว่ารักษาอาการใดๆ ได้ และยี่ห้อใดที่รับประทานแล้วเห็นผลเร็วอย่างน่าประหลาดใจ อาจเป็นเพราะมีสารต้องห้ามที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเป็นส่วนผสมอยู่ หรืออาจใส่สารที่ได้รับอนุญาตในปริมาณที่มากเกินไปก็เป็นได้ จึงควรใช้วิจารณญาณให้มากในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ และขอเน้นย้ำไปยังผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการผลิต จำหน่าย หรือโฆษณา หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าที่มีสารอันตรายเหล่านี้จะมีความผิดตามกฎหมาย และถูกดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด และฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนว่า หากพบเห็นการกระทำผิดในเรื่องดังกล่าว สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ที่สถานีตำรวจท้องที่ที่พบการกระทำผิดได้ทันที