จากกรณีที่ นายนพดล ธรรมวัฒนะ นักธุรกิจชื่อดัง ผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในการลงมือสังหาร นายห้างทอง ธรรมวัฒนะ อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชากรไทย ซึ่งพี่ชายภายในบ้านพัก ย่านสะพานใหม่ ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งแพทยสภาเกี่ยวกับการลงโทษ ภาคทัณฑ์ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ เนื่องจากประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม จากการชันสูตรศพ นายห้างทอง โดยระบุว่าการเสียชีวิตของพี่ชายเป็นการถูกฆาตกรรม มิใช่เป็นการฆ่าตัวตาย ตามผลชันสูตรครั้งแรก จนทำให้ นายนพดล ถูกฟ้องดำเนินคดีอาญา จนเสียเกียรติยศชื่อเสียง และอยากให้แพทยสภาลงโทษโดยการเพิกถอนใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมแทน
ซึ่งคดีนี้ ศาลปกครองชั้นต้น มีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาเนื่องจาก นายนพดล ไม่ใช่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย จากคำสั่งดังดังกล่าว พร้อมให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ โดยนายนพดล ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด
กระทั่งเมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาแล้วว่า ผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย จากผลการชันสูตรที่ออกมา อีกทั้งนายนพดลทราบถึงผลการลงโทษและไม่พอใจใจคำสั่งดังกล่าว โดยเห็นว่าเป็น การลงโทษที่ไม่เหมาะแก่พฤติกรรมแห่งความผิดที่ถูกร้องเรียน และให้เพิกถอนคำสั่งแพทยสภาดังกล่า จึงหมายความว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย นายนพดลจึงเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย ดังนั้นการที่ศาลปกครองชั้นต้น มีคำสั่งไม่รับคำห้องไว้พิจารณา และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ นั้นศาลปกครองสูงสุดไม่เห็นพ้องด้วยจึงมีคำสั่งให้รับพิจารณาคดีพร้อมส่งสำนวนคืนไปยังศาลปกครองชั้นต้น เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับเงื่อนไขการฟ้องคดี แล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี