svasdssvasds

สหรัฐฯ เผยผลชันสูตร เหตุฆาตกรรม 2 นศ.ไทยในซีแอตเทิล

สหรัฐฯ เผยผลชันสูตร เหตุฆาตกรรม 2 นศ.ไทยในซีแอตเทิล

ตำรวจสหรัฐฯ ตั้ง 2 ประเด็น คดีสองนักศึกษาไทยในเมืองซีแอตเทิล ถูกแทงเสียชีวิต ทั้งกรณีฆ่ากันเองและถูกฆาตกรรม ด้านพี่ชายน้องแอ๋ม ระบุทำเรื่องมอบอำนาจให้ญาติรับศพกลับไทยแทน

ความคืบหน้าคดี น.ส.กรกมล หลีนวรัตน์ หรือ "น้องแอ๋ม" อายุ 25 ปี นักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยวอชิงตัน และเพื่อนร่วมห้อง คือ น.ส.ฐิฏิอร โชติช่วงทรัพย์ อายุ 32 ปี ถูกแทงเสียชีวิตอยู่ภายใน “มัลลอย อพาร์ตเมนต์” ที่เมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา โดยน้องแอ๋มเป็นลูกสาวคนเล็กของ นายปภาวิน หลีนวรัตน์ หรือ "เฮียย้ง" อดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลธัญบุรี และเป็นหลานของ นายกฤษฎา หลีเนาวัรตน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลธัญบุรี และเป็นน้องสาวของ นายวีระศักดิ์ หลีนวรัตน์ สมาชิกสภาจังหวัดปทุมธานี โดยเหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 ก.ย. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับ เวลา 23.00 น. ของประเทศไทยนั้น

ล่าสุด นายวีระศักดิ์ หลีนวรัตน์ สมาชิกสภาจังหวัดปทุมธานี พี่ชายน้องแอ๋ม เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า ขณะนี้ครอบครัวเสียใจอย่างมาก โดยเฉพาะคุณพ่อยังทำใจไม่ได้ ประกอบกับสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง ทำให้ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด จึงไม่สามารถให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนได้ ส่วนเรื่องการดำเนินการในต่างประเทศนั้น คุณพ่อได้นำเอกสารหลักฐานเข้าพบเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อทำเรื่องมอบอำนาจให้ญาติที่อยู่ในสหรัฐ เป็นผู้ดำเนินการทุกอย่างแทน รวมทั้งการส่งศพกลับเมืองไทยเพื่อนำมาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดนาบุญ (คลอง 7) ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่า ก่อนเสียชีวิตน้องแอ๋มได้ติดต่อทางญาติ และบอกว่ารู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตนั้น ไม่เป็นความจริง ซึ่งอพาร์ตเมนต์ มีระบบความปลอดภัยที่ดี คนนอกไม่สามารถเข้าไปได้ รวมถึงน้องแอ๋มไปใช้ชีวิตอยู่ที่สหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2559 แล้ว ฉะนั้นจึงค้นเคยกับการใช้ชีวิตที่นั่น ส่วนประเด็นที่คาดว่าน้องแอ๋มและรูมเมทสาวทอมเป็นแฟนกันนั้น ครอบครัวไม่เชื่อเช่นกัน เพราะน้องสาวเพิ่งคบหาหนุ่มไทยมาประมาณ 2 เดือน และโทรศัพท์ติดต่อกันทุกวัน รวมถึงไม่เชื่อว่าคดีนี้จะเป็นการฆ่ากันเอง เพราะสาวทอมรู้จักกับน้องสาวและเป็นรูมเมท ตั้งแต่เรียนนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แล้ว

โดยช่วงก่อนพบศพเมื่อในวันเสาร์ที่ 1 ก.ย. ช่วงบ่ายน้องแอ๋มมีนัดกับเพื่อนและช่วงเย็นต้องไปทำงานที่ร้านอาหาร แต่น้องแอ๋มไม่ได้ไปทั้ง 2 แห่ง และขาดการติดต่อกับเพื่อนๆ กระทั่งวันอาทิตย์ครอบครัวจึงได้ให้เพื่อนไปแจ้งความกับตำรวจสหรัฐฯ และขอให้เพื่อนที่อยู่ใกล้กับอพาร์ตเมนต์ช่วยสอบถาม แต่ก็ไม่สามารถเข้าไปได้ กระทั่งเมื่อตำรวจมาจึงเข้าไปพร้อมกัน พบว่าน้องแอ๋มและเพื่อนเสียชีวิตแล้ว

 

นอกจากนี้นายวีระศักดิ์ ยังโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "สำหรับน้องแอ๋ม...ในความรู้สึกของพี่ เมื่อยามเป็นเด็ก หนูเป็นเทพธิดาองค์น้อยๆ ของพ่อ พอโตขึ้นมาก็เป็นนางฟ้าของครอบครัว เป็นคนจิตใจดี ร่าเริงแจ่มใส ฉลาด เก่ง มีความกล้า และเชื่อมั่นในตัวเองสูง อยากเรียนกฎหมายที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ทำได้ น้องกับพ่อวางแผนกันไว้ว่า เรียนจบแล้วจะขอไปเรียนเนติบัณฑิตไทย ก็จบภายใน 1 ปี แล้วจะขอไปเรียนต่อปริญญาโทกฎหมายต่างประเทศ ก็สำเร็จมา 1 ใบ เดินทางเรียนต่อปริญญาโทอีกใบ อีกเพียงแค่ 7 เดือน จะกลับมาสอบเป็นผู้พิพากษาสนามจิ๋ว..."

ขณะที่บ้านพักของ น.ส.ฐิฎิอร โชติช่วงทรัพย์ รูมเมมน้องแอ๋ม ที่ ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ปัจจุบันพบว่าได้ถูกปิดและประกาศขายมาตั้งแต่ปี 2554 โดยเพื่อนบ้านเล่าว่า ครอบครัวนี้มีสมาชิกทั้งหมด 6 คน คือ พ่อ แม่ ลูกสาว 2 คน และลูกชายอีก 2 คน คาดว่าผู้เสียชีวิตน่าจะเป็นลูกสาวคนโต

สำหรับทางด้านคดีนั้น ทางตำรวจของสหรัฐฯ ยังตั้งประเด็นการเสียชีวิตไว้ 2 ประเด็น คือ

  1. เป็นเหตุทะเลาะวิวาทจนฆ่ากันเอง เพราะพบศพทั้ง 2 คน อยู่ในห้องพัก ที่ปิดล็อกจากด้านใน
  2. เป็นการฆาตกรรม เพราะว่าเพื่อนของน้องแอ๋ม อ้างว่าผู้ตายเคยโทรศัพท์เล่าให้ฟังว่า รู้สึกไม่ปลอดภัย

related