รวบ "จ่าบอล" หัวหน้าแก๊งข่มขู่เรียกเก็บค่าคุ้มครองแรงงานต่างด้าว

เมื่อวานนี้ (17 ม.ค.62) เวลาประมาณ 17.30 น. ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม นำกำลังจับกุม นายอุระ เสนาะ หรือบอล อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ

ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ 312/2560 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2560 ข้อหา “ร่วมกันกรรโชกทรัพย์” และ หมายจับของศาลจังหวัดจันทบุรี ที่ 355/2560 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2560 ข้อหา “ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกระทำการเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยตนเองมิได้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีอำนาจกระทำการ และร่วมกันพยายามกรรโชกทรัพย์” ได้ที่ ห้างสรรพสินค้าเอสพลานาด สาขาแคราย ต.บางกะสอ อ.เมืองนนทบุรี จว.นนทบุรี

ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2560 เวลาประมาณ 10.00 น. ผู้ต้องหา กับพวกอีก 4 คน ซึ่งถูกจับกุมไปแล้ว ได้ใช้รถยนต์กระบะ จำนวน 2 คัน ขับเข้าไปแคมป์คนงานก่อสร้างโกดังสินค้าใน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ที่ผู้เสียหายทำงานอยู่ โดยรถคันแรกจอดหน้าทางเข้าแคมป์ ส่วนรถอีกคันหนึ่งจะขับเข้าไปจอดด้านในแคมป์ จากนั้นผู้ต้องหากับพวกลงจากรถทำทีเข้าไปตรวจคนงานก่อสร้างที่เป็นคนต่างด้าว แล้วได้พูดจาข่มขู่ผู้เสียหายให้มอบเงิน จำนวน 12,000 บาท พร้อมกับเรียกเก็บรายเดือนอีกเดือนละ 1,000 บาท จนกว่าก่อสร้างเสร็จสิ้น ผู้เสียหายกลัวจึงได้มอบเงินให้ หลังจากนั้นผู้เสียหายจึงได้ไปแจ้งความกับ พนักงานสอบสวน สภ.บางปะกง ต่อมา พนักงานสอบสวน สภ.บางปะกง จึงได้ขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหากับพวกดังกล่าว

และ ส่วนอีกคดีหนึ่ง เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 เม.ย.60 เวลาประมาณ 13.00 น. ผู้ต้องหากับพวกอีก ๒ คนซึ่งถูกจับกุมไปแล้ว ได้เข้าไปก่อเหตุพยายามกรรโชกทรัพย์ เหตุเกิดในพื้นที่ อ.สอยดาว จ.จันทบุรี โดยมีพฤติการณ์ก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน คือ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปพูดจาข่มขู่ผู้เสียหายในแคมป์งานก่อสร้างซึ่งมีแรงงานคนต่างด้าวทำงานอยู่ แล้วเรียกให้ผู้เสียหายมอบเงินให้ แต่ผู้เสียหายไม่หลงเชื่อ และได้ไปแจ้งความกับ พงส.สภ.สอยดาว ต่อมา พงส.สภ.สอยดาว ได้ขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหากับพวกดังกล่าว

โดยทั้ง 2 เหตุการณ์ ผู้ต้องหาจะอ้างตัวว่ามีหน้าที่ เข้าไปตรวจแรงงานเพื่อนบ้านตามไชต์งานต่างๆ และใช้ชื่อว่า "จ่าบอล"

เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่า ได้ร่วมกับพวกก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยจะพากันตระเวนไปตามแคมป์งานก่อสร้างที่มีคนต่างด้าวทำงานอยู่ โดยในแต่ละครั้งผู้ต้องหาจะได้รับเงินค่าจ้างประมาณ 500-1000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวส่ง พนักงานสอบสวนสภ.บางปะกง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป