“หัวอกแม่” ใจแทบขาด กลับมาบ้านเจอลูกผูกคอดับ ทิ้งข้อความแม่ไม่เคยเข้าใจ(มีคลิป)

23 มีนาคม 2563 ร.ต.อ.จิรศักดิ์ ดวงใจดี รองสารวัตรสอบสวน สภ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุคนผูกคอเสียชีวิตที่บ้าน หมู่ 1 ต.บ้านกร่าง จ.สุพรรณบุรี จึงไปตรวจสอบพร้อมกำลังฝ่ายสืบสวน แพทย์เวร โรงพยาบาลศรีประจันต์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี  ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนหนึ่งชั้นภายในห้องพระพบร่างนายเออายุ 15 ปีแต่งกายนุ่งกางเกงขาสั้นสีดำสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทาใช้เชือกไนลอนผูกคอติดกับไม้แปหลังคาบ้าน

เจ้าหน้าที่จึงนำร่างลงมาตรวจพิสูจน์เบื้องต้นไม่พบบาดแผลถูกทำร้ายและไม่พบร่องรอยการต่อสู้ จากการตรวจสอบภายในห้องพบกระเบื้องแผ่นฝ้าเพดานถูกถอดออก 1 แผ่นเพื่อผูกเชือก เก้าอี้พลาสติกสีแดง บันไดอลูมีเนียมตั้งอยู่และขดเชือกพร้อมมีดปอกผลไม้วางอยู่นอกจากนี้ยังมีจดหมายเขียนด้วยลายมือวางอยู่ข้างกองผ้าห่มมีข้อความ “แม่จะทำอะไรอะคิดถึงความรู้สึกคนอื่นด้วยนะไม่ใช่ยึดอารมณ์ของตัวเองเป็นหลักใจเขาใจเราแม่ ลาก่อน”

จากการสอบถามมารดาผู้เสียชีวิต อายุ 37 เล่าด้วยอาการโศกเศร้าว่าตนเองและสามีประกอบอาชีพเป็นช่างแอร์ ส่วนลูกชายนั้นเรียนอยู่ชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ศรีประจันต์โดยที่ผ่านมาช่วงเวลาที่ลูกอยู่บ้านตนเองจะปลุกเรียกให้ตื่นเพื่อกินข้าวก่อนจะชวนออกไปทำงานรับจ้างล้างแอร์ ด้วยกันซึ่งจะเป็นแบบนี้ประจำกระทั่งก่อนเกิดเหตุเป็นช่วงโรงเรียนปิดเทอม ตนเองได้ปลุกลูกให้ตื่นขึ้นมาช่วยเตรียมอุปกรณ์ล้างแอร์ขึ้นรถจนเสร็จกระทั่งได้เวลากินข้าวจึงเรียกลูกชายให้มากินข้าวเสร็จแล้วจะได้ออกไปทำงาน

แต่หลังจากเรียกไม่เห็นลูกชายจึงออกเดินหารอบบ้านทั้งในห้องนอนก็ไม่เห็นพร้อมตะโกนเรียกก็ไม่มีเสียงตอบ ตนจึงกินข้าวก่อนเสร็จแล้วได้ชวนสามีออกไปทำงานกันสองคนกระทั่งกลับมาจากทำงานไม่เห็นลูกจึงออกตามหารอบบ้านเมื่อมาดูที่ห้องพระเห็นประตูห้องเปิดอ้าไว้จึงเข้าไปดูเห็นลูกชายผูกคออยู่ในห้องและพบว่าลูกชายเสียชีวิตแล้วจึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

ซึ่งจากการสอบถามญาติทราบว่า ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นคนไม่ค่อยพูดชอบเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัวเป็นคนขี้น้อยใจช่วงก่อนเกิดเหตุผู้ตายก็ยังไปเล่นกับเด็กๆที่เป็นญาติข้างบ้านส่วนสาเหตุสันนิษฐานว่าเกิดจากความน้อยใจที่ถูกแม่เรียกให้ตื่นไปทำงานอยู่บ่อยๆทำให้ไม่มีเวลาไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนๆ หลังจากเจ้าหน้าที่ร่วมกับแพทย์ชันสูตรอย่างละเอียดแล้วญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตจึงมอบศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป