svasdssvasds

รมว.ดีอีเอส เข้ากระทรวงวันแรก ย้ำปิดเฟซบุ๊กไม่ใช่ทางออก ขอเจรจาก่อน

รมว.ดีอีเอส เข้ากระทรวงวันแรก ย้ำปิดเฟซบุ๊กไม่ใช่ทางออก ขอเจรจาก่อน

ประเสริฐ จันทรรวงทอง แถลงแนวทางการทำงานวันแรก เร่งปรับภาพรวมให้เป็นรัฐบาลดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและประชาชน ตามแนวทางท่านนายกฯ มั่นใจแม้ไม่ได้จบด้านเทคโนโลยีแต่มีทีมงานเก่ง เชื่อทำงานได้ดีครบเทอม

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้เดินทางเข้าศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะเป็นวันแรกหลังได้รับตำแหน่ง และได้แถลงข่าวร่วมกับหน่วยงานภาครัฐส่วนอื่นๆ ว่า สิ่งแรกที่อยากทำหลังเข้ารับตำแหน่ง คือ การดำเนินการเรื่องการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น แก๊งคอลเซนเตอร์ ข่าวปลอม ภัยไซเบอร์ต่างๆ ที่สร้างปัญหาให้แก่ประชาชน ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องยกระดับความเข้มข้นในการทำงานอย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้ ในเรื่องของกระแสข่าวการปิดเฟซบุ๊กนั้น ทางรมว.ดีอีเอสคนใหม่ ระบุชัดว่า ยังไม่ได้คิดเรื่องนั้น เพราะมองว่าเป็นประเด็นที่อ่อนไหว เพราะเฟซบุ๊กเป็นแพลตฟอร์มที่มีทั้งประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับประโยชน์ในการใช้งานที่สุจริต

ถึงแม้ว่าจะมีมิจฉาชีพใช้เฟซบุ๊กในทางทุจริตก็ตาม ซึ่งผมก็เคยเป็นหนึ่งในเหยื่อที่เคยโดนมิจฉาชีพนำรูปไปทำบัญชีปลอมและขอบริจาคเพื่อทอดกฐิน ทำให้คนรู้จักผมโอนเงินและสูญเงินไปหลายหมื่นบาท ซึ่งปัญหาเหล่านี้ผมต้องเร่งแก้ไข และจะเชิญทางเฟซบุ๊กมาหารือเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ก่อน ค่อยตัดสินใจ เพราะต้องยอมรับว่าโซเชียลมีเดียต่างๆ ถือว่าเป็นช่องทางการสื่อสารยอดนิยมและยังใช้ในการทำธุรกิจได้ด้วย และเป็นเรื่องใหญ่หากคิดจะปิดไม่ให้ใช้งาน

ส่วนเรื่องของข่าวปลอมหรือใช้สื่อโซเชียลมีเดียเพื่อปลุกปั่นสร้างความขัดแย้งในสังคมนั้น มองว่าเป็นเรื่องของทัศนคติและเรื่องส่วนบุคคล คงไม่สามารถไปสั่งปิดบัญชีใครได้ แต่ถ้ามีการกลั่นแกล้งกัน ก็เชื่อว่ามีกฎหมายคุ้มครองเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว

รมว.ดีอีเอส เข้ากระทรวงวันแรก ย้ำปิดเฟซบุ๊กไม่ใช่ทางออก ขอเจรจาก่อน

อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงฯ ก็มีแผนจัดตั้งศูนย์ป้องกันและปราบปรามภัยไซเบอร์ด้านการทำธุรกรรม เพื่อดูเรื่องโจรกรรมไซเบอร์อย่างเร่งด่วน จากเดิมที่มี สกมช. ดูแลในเรื่องของภัยไซเบอร์อยู่แล้ว แต่จะทำหลังเกิดเหตุแล้ว ซึ่งต้องทำงานต่อเนื่องและเชื่อมโยงกัน อาจจะต้องมีการตรวจสอบในเรื่องของการดูดเงินจะไปในแหล่งไหน เอากลับคืนมาอย่างไรได้บ้าง และประชาชนที่เดือดร้อนควรทำอย่างไร คิดว่าภายใน 3 เดือน หรือก่อนปีใหม่จะเห็นเป็นรูปเป็นร่าง

นอกจากนี้ ที่มองไว้คือการสร้างรัฐบาลดิจิทัล ที่ต้องการจะลดขั้นตอนการทำงานระหว่างประชาชนกับรัฐบาลในการติดต่อหรือกระบวนการทำงานระหว่างประชาชนกับรัฐก็ต้องกำหนดทิศทางให้เป็นดิจิทัลด้วย การเชื่อมโยงระบบทำงานกับกระทรวงอื่นๆ จะเป็นฐานข้อมูลเดียวกันได้หรือไม่ รวมทั้งดูงานของกระทรวงในเครือว่าทำอะไรไปบ้างแล้ว มีส่วนไหนที่จะเพิ่มจะลด

ทั้งนี้ ยังต้องรอแถลงนโยบายรัฐบาลครั้งใหญ่ช่วง 13-14 ก.ย.นี้ก่อน หลังจากนั้นค่อยมีการชี้แจงรายละเอียดอีกครั้ง แต่สิ่งที่ทำแน่ๆ คือการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยประชาชนให้มีชีวิตที่ดี ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียม อยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข

Credit Pic : Unsplash

นอกจากนี้ เรื่องของดิจิทัลวอลเล็ต ก็ยืนยันว่าต้องทำผ่านระบบบล็อกเชนเท่านั้น ทางกระทรวงอาจช่วยดูแลเรื่องของระบบ แต่เจ้าภาพใหญ่ต้องเป็นเรื่องของกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ เป็นคนจัดการหลัก หากมีข่าวหลอกว่าใช้ผ่านแอปเป๋าตังนั้น อย่าไปเชื่อ ไม่ใช่เรื่องจริง 

นอกจากทางรัฐมนตรีจะเร่งแก้ปัญหาภัยไซเบอร์แล้ว ยังมีแผนจะทำซูเปอร์แอป เชื่อมหลังบ้านของทุกกระทรวงให้ใช้งานผ่านแอปเดียว ซึ่งต้องคุยกับหน่วยงานต่างๆ ก่อนว่าพอจะเป็นไปได้หรือไม่ เพราะอนาคตของประเทศเป็นเรื่องของดิจิทัล การทำงานทุกอย่างง่ายและสะดวกสบายด้วยปลายนิ้ว คือสิ่งที่รัฐต้องพัฒนาให้ตอบสนองต่อความคาดหวังของประชาชน
 

อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม