เร่งยกระดับ “รถเมล์ไทย”ขึ้นเบอร์1 ของโลก ทันสมัยปลอดภัย ใช้ AI คุม

แน่นอนว่าหากประเทศไหนมีระบบขนส่งมวลชนที่ดีย่อมส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตประชากรที่ดี และพร้อมที่จะพัฒนาไปสู่ระบบขนส่งมวลชนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก อย่างเช่นประเทศไทยก็เช่นกันที่กำลังพัฒนาระบบขนส่งมวลชน ในทุกๆด้านเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน และให้ทัดเทียมกับนานาชาติ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ เมืองหลวงของไทยที่กำลังเร่งพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทั้งทางบน และทางน้ำ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ รถเมล์ และเรือเมล์ ที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของจำนวนที่ให้บริการที่เพิ่มขึ้น เส้นทางที่เพิ่มขึ้น เทคโนโลยี นวัตกรรมสมัยใหม่ที่นำมาใช้เพื่อให้สะดวก สบาย ปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงราคาที่เป็นธรรมผู้คนเข้าถึงได้ ที่เห็นได้ชัดเจนคือ บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ผู้นำด้านการให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนนวัตกรรมขนส่งสาธารณะ

ล่าสุดมีการเปิดบ้าน จัดงาน The Shift Hub: A New Era of Transport for All หรือ “ศูนย์กลางแห่งการเปลี่ยนผ่าน จุดเริ่มของระบบขนส่งมวลชนยุคใหม่เพื่อทุกคน” ที่รวบรวมเทคโนโลยีควบคุมการเดินรถ-เรือ อันล้ำสมัยเข้ามาอยู่ใน ศูนย์ควบคุมอัจฉริยะ Transit Smart Hub หรือ TS-HUB เพื่อพัฒนาการบริการขนส่งมวลชนของ TSB ให้ได้รับการยกระดับอย่างแท้จริง ทั้งคุณภาพ ความปลอดภัย ซึ่งงานวันนี้ได้รับเกียรติจากท่านจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เป็นประธานในพิธีเปิดงาน

โดย อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ประธานเปิดงาน กล่าวว่า วันนี้เป็นอีกก้าวสำคัญของระบบขนส่งมวลชนของคนไทย เราได้เห็นการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจาก ไทย สมายล์ บัส การนำเทคโนโลยีมาใช้ภาคขนส่งสาธารณะ ศูนย์ควบคุมอัจฉริยะ อันเป็นหลักฐานของความตั้งใจ ความมุ่งมั่น ในการยกระดับมาตรฐานการให้บริการอย่างแท้จริง ซึ่งตนเชื่อว่าการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะเป็นส่วนสำคัญที่เข้ามาช่วยให้การบริการขนส่งสาธารณะของคนไทยดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ด้าน นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด (TSB) เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมา คือช่วงเวลาที่เราเดินทางด้วยความตั้งใจ มุ่งมั่น และทุ่มเท ในบทบาทของผู้ให้บริการระบบขนส่งสาธารณะแห่งยุค ที่ยึดมั่นในพลังของเทคโนโลยี ความโปร่งใส และหลักธรรมาภิบาล เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกคน ด้วยคำมั่นสัญญาว่า “TSB จะไม่หยุดพัฒนา พร้อมได้ตั้งเป้าหมายว่าจะยกระดับรถเมล์สาธารณะไทยที่มีความสะดวก สบาย ปลอดภัย เบอร์ 1 ของโลกให้ได้

ทั้งนี้เพี่อประสบการณ์ตลอดเส้นทางให้ผู้โดยสารทุกคน ได้รับการเดินทางที่สะดวก ปลอดภัย เข้าถึงง่าย และตอบโจทย์การใช้ชีวิต จึงนำมาสู่การก่อตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะแห่งนี้ TS-HUB ศูนย์กลางการควบคุมการเดินรถทั้งทางบกและทางน้ำครบวงจรแห่งแรกของประเทศไทย ที่จะกลายเป็นหัวใจสำคัญในการยกระดับการบริการ ด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) คอยมอนิเตอร์รวบรวมข้อมูลการเดินทางตลอด 24 ชม. ทำให้สามารถตรวจสอบ บริหารจัดการคุณภาพการให้บริการได้อย่างเรียลไทม์ ตัวอย่างเช่น ...

• Bus Stop Distribution แสดงความหนาแน่นของจำนวนรถที่ผ่านป้าย

• Passenger Flow Statistics การแสดงจำนวนผู้โดยสารตามป้ายต่าง ๆ 

• Dispatching การปล่อยรถแต่ละสาย แสดงตำแหน่งรถแต่ละคันในเส้นทาง

• Alarm Report การแจ้งเตือนพฤติกรรมคนขับขณะให้บริการ

• Realtime CCTV ตรวจสอบกล้องเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ

• Data Dashboard สามารถติดตามตัวชี้วัดสำคัญขององค์กรสร้างความโปร่งใสและวัดผลได้ 

สำหรับระบบของห้อง TS-HUB ยังเข้ามาช่วยเสริมการบริหารงานหลังบ้านได้อีกด้วย เพราะตนมองว่า บริษัทรถเมล์จะเติบโตได้ต้องขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เพื่อลดข้อผิดพลาด ไม่ใช้ความรู้สึกตัดสิน หรือ เรียกว่าเป็น “Data-Driven Company” เรานำข้อมูลมาวิเคราะห์ว่าผู้โดยสารอยู่ตรงไหน ขึ้น-ลงป้ายใด ความต้องการใช้รถคือเท่าใด ระยะห่างของรถ อัตราการใช้พลังงาน กระทั่งปัญหารถไปกองสะสมด้วยสภาพจราจร สิ่งเหล่านี้เมื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์จะหาได้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน

จากนั้นจึงนำข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์มากำหนดกลยุทธ์ พัฒนาบริการให้ลูกค้าได้ตรงจุด เช่น ข้อมูลจำนวนผู้ใช้บริการ เราต้องแยกประเภทให้เข้าใจแนวโน้ม รูปแบบการเดินทาง แล้วปรับปรุงคุณภาพบริการให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงกำหนดเป้าที่สามารถวัดผลได้จริงกับทีมงาน หากผลสำเร็จหรือไม่สำเร็จ เราก็รู้ได้จากข้อมูลว่าจะต้องพัฒนาตรงจุดไหนเพิ่มเติม 

อย่างไรก็ตามแม้ “TS-HUB” จะเป็นก้าวสำคัญในการวางรากฐานสู่ระบบขนส่งมวลชนอัจฉริยะที่สอดรับกับเป้าหมายด้านการลดคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรม และมีความพร้อมในการเชื่อมต่อกับโครงข่ายขนส่งสาธารณะรูปแบบอื่น ๆ เพื่อรองรับการเป็นสมาร์ทซิตี้ในอนาคต แต่ความเป็นจริงของธุรกิจรถเมล์มีหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้บริการผู้โดยสารวันละหลายแสนคน มีพนักงานอีกกว่า 5,000 คน ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงใดย่อมต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ เพราะ TSB เชื่อว่าต้องพัฒนา “คน” ไปพร้อมกับ “เทคโนโลยี” สร้างงานก่อเกิดอาชีพให้คนไทย เศรษฐกิจไทย เติบโตไปคู่กันถึงจะเป็นการยกระดับที่ยั่งยืน

นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวท่าเรือ “สยามเจริญนคร” เป็นจุดจอดเรือแห่งที่ 10 ให้บริการรับส่งผู้โดยสารในเส้นทางสยามเจริญนคร-วัดวรจรรยาวา –สาทร-ไอคอนสยาม-ราชวงศ์-ราชินี - วัดอรุณฯ-ท่าช้าง-พรานนก–พระปิ่นเกล้า รองรับการเดินทางท่องเที่ยวของพี่น้องประชาชน ที่สามารถเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญริมน้ำเจ้าพระยาได้แบบไม่ต้องเผชิญกับปัญหารถติดอันจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำพร้อมกับลดปัญหามลพิษของกรุงเทพมหานครได้อีกด้วย

ความพยายามของไทยสมายล์ บัส ที่นำนวัตกรรมมาใช้ เพื่อยกระดับให้บริการรถเมล์สาธารณะไทย โดยเฉพาะเปิดตัว Transit Smart Hub ศูนย์ควบคุมอัจฉริยะครบวงจรแห่งแรกของไทย เพื่อยกระดับรถเมล์เทียบชั้นหอบังคับการบิน นับได้ว่าเป็นเรื่องที่สุดยอดมากๆ พร้อมทั้งมีการใช้ระบบเอไอ (AI) ในขับเคลื่อนการเป็นบริษัท Data-Driven Company พัฒนาธุรกิจรถเมล์อย่างยั่งยืน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• รถเมล์ไฟฟ้า TSB เปิดรับสแกนจ่ายผ่าน QR-Promt Pay ได้ทุกสาย 100% เริ่มทันที มี.ค.2568

• ขึ้นรถไฟฟ้า-รถเมล์ฟรี 7 วัน แก้ฝุ่น PM 2.5 กทม. ดีเดย์ 25 ม.ค. ลดใช้ยานพาหนะ

• ชัชชาติ ขอให้ขสมก.ตรวจเข้มสภาพรถเมล์ป้องกันก่อฝุ่น PM2.5