svasdssvasds

เปิดแผนลงทุนใหม่! ไทยเบฟ ปี’69 ทุ่ม 9 พันล้าน ลุยโรงเบียร์กัมพูชา รับนักดื่มเบอร์1อาเซียน

เปิดแผนลงทุนใหม่! ไทยเบฟ ปี’69 ทุ่ม 9 พันล้าน ลุยโรงเบียร์กัมพูชา รับนักดื่มเบอร์1อาเซียน

พาเปิดแผนลงทุนใหม่! ไทยเบฟ ปี’69 ทุ่ม 9 พันล้าน ลุยโรงเบียร์กัมพูชา รับนักดื่มเบอร์1ของอาเซียน ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างการเติบโตระยะยาว

SHORT CUT

  • เดินทางมาถึงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้แล้ว หลายธุรกิจเริ่มออกมาเปิดแผนลงทุนธุรกิจใหม่แล้ว ว่าปี2569 จะเดินในทิศทางไหน
  • บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) แถลงทิศทางการดำเนินธุรกิจ พร้อมตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างการเติบโตระยะยาว แม้สภาวะเศรษฐกิจยังคงมีความท้าทาย
  • พาเปิดแผนลงทุนใหม่! ไทยเบฟ ปี’69 ทุ่ม 9 พันล้าน ลุยโรงเบียร์กัมพูชา รับนักดื่มเบอร์1อาเซียน

พาเปิดแผนลงทุนใหม่! ไทยเบฟ ปี’69 ทุ่ม 9 พันล้าน ลุยโรงเบียร์กัมพูชา รับนักดื่มเบอร์1ของอาเซียน ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างการเติบโตระยะยาว

วันนี้ 1 ตุลาคม 2568 เป็นวันแรกของไตรมาสที่4 ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ หลายธุรกิจเริ่มออกมาเปิดแผนลงทุนธุรกิจใหม่แล้ว ว่าปี2569 จะเดินในทิศทางไหน อย่างล่าสุดเมื่อเร็วๆนี้ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) แถลงทิศทางการดำเนินธุรกิจ พร้อมตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างการเติบโตระยะยาว แม้สภาวะเศรษฐกิจยังคงมีความท้าทาย กลุ่มยังเดินหน้าพัฒนาองค์กรภายใต้โครงการทรานส์ฟอร์เมชัน ควบคู่ไปกับการดำเนินกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน

 

นำทัพการแถลงทางการดำเนินธุรกิจประจำปี 2568 โดยแม่ทัพใหญ่อย่าง ‘ฐาปน สิริวัฒนภักดี’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) พร้อมเป้าหมายนำไทยเบฟสู่การเติบโตที่แข็งแกร่ง พร้อมสร้างสรรค์คุณค่าผ่าน PASSION 2030 โดยเขาฉายภาพว่าในช่วงต้นปี 2568 ภาวะเศรษฐกิจไทยจะยังมีความท้าทายทั้งในระดับโลก และระดับภูมิภาคยังคงเผชิญความท้าทายจากการเติบโตที่ชะลอตัว ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงการท่องเที่ยวและการบริโภคที่ยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่จึงทำให้กำลังซื้อลด

เปิดแผนลงทุนใหม่! ไทยเบฟ ปี’69 ทุ่ม 9 พันล้าน ลุยโรงเบียร์กัมพูชา รับนักดื่มเบอร์1อาเซียน

สำหรับผลประกอบการปีบัญชีของบริษัทในช่วง 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 2568 ไทยเบฟมีรายได้จากการขายรวม 258,621 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้การบริโภคจะชะลอตัวลง และถึงแม้จะมีการลงทุนในตราสินค้าและการตลาดที่เพิ่มขึ้นตามแผนงานที่วางไว้เพื่อเสริมศักยภาพในการแข่งขันให้แก่ตราสินค้าต่าง ๆ แต่กลุ่มมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าใช้จ่ายตัดบัญชี (EBITDA) ลดลง 4% จากปีก่อน เป็น 45,026 ล้านบาท

หากแยกเป็นธุรกิจหลัก อย่าง สุรา ทำรายได้ 92,778 ล้านบาท EBITDA ลดลงเป็น 22,161 ล้านบาทเนื่องจากค่าใช้จ่ายการตลาดที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนเพื่อเสริมแกร่งตราสินค้าและสนับสนุนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ส่วนธุรกิจต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงเมียนมา ยังคงมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง  และจะเน้นสร้างแบรนด์พรีเมียม แบรนด์ PRAKAAN และ ZATO มาดูกันที่ ธุรกิจเบียร์ ทำรายได้ 96,497 ล้านบาท  EBITDA 12,573 ลบ. เพิ่มขึ้น 4.8% โดยจะเน้นการทำตลาดเสริมแบรนด์ช้าง ในไทย , ซาเบโก้ ในเวียดนาม ซึ่งเน้นนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์พรีเมียม และขยายช่องทางขาย

สลับมาดูที่ธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ทำรายได้ 49,326  ล้านบาท  ลดลง 0.7%   EBITDA  8,718 ล้าน หรือลดลง 6.3% โดยจะตอกย้ำแบรนด์หลัก โออิชิ, คริสตัล และ เอส สำหรับธุรกิจอาหาร ทำรายได้ 16,563 ล้านบาท  ลดลง 1.4%  EBITDA ลดลงเหลือจำนวน 1,578 ล้านบาท โดยจะมุ่งเดินหน้าขยายสาขาใหม่, พัฒนาเมนูและเน้นความยั่งยืน

เปิดแผนลงทุนใหม่! ไทยเบฟ ปี’69 ทุ่ม 9 พันล้าน ลุยโรงเบียร์กัมพูชา รับนักดื่มเบอร์1อาเซียน

จากทิศทางเศรษฐกิจไทย และเศรษฐกิจโลกที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก ทำให้ไทยเบฟต้องตั้งการ์ดรับมือพอสมควร โดยได้วางแผนไว้ 2 แกนหลักเพื่อการเป็นผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างยั่งยืนและมั่นด้วย 2 แกนหลักคือ  1.Reach Competitively  ขยายการเข้าถึงผู้บริโภคทุกช่องทาง ด้วยต้นทุนแข่งขันได้  2.Digital for Growth  ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลยกระดับประสิทธิภาพและการเชื่อมโยงผู้บริโภค–คู่ค้า รวมถึงการเตรียมแผนออกหุ้นกู้เงินตราต่างประเทศ 2,000 ล้านดอลลาร์ รองรับการขับเคลื่อนธุรกิจ ลดสัดส่วนการกู้ สร้างเสถียรภาพการเงิน

ส่วนการลงทุนในของไทบเบฟในปี2569 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 9,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสุรา 2,000 ล้านบาท เบียร์ 2,0000 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนฝั่งเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ยังสูงอยู่ เพราะต้องใช้เงินจำนวนมากในการลงทุนฟาร์มโคนม แบ่งเป็นธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 4,000 ล้านบาท และสุดท้ายคือธุรกิจอาหาร 1,000 ล้านบาท 

มาฟังผู้บริหารวิสัยทัศน์อีกหนึ่งท่าน อย่าง ‘ไมเคิล ไชน์ ฮิน ฟา’ ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มธุรกิจเบียร์ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท เบียร์โค ลิมิเต็ด เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการลงทุนสร้างโรงงานเบียร์แห่งใหม่ที่ จังหวัดกันดาล กัมพูชา ใกล้สนามบินนานาชาติแห่งใหม่ ซึ่งมีกำลังการผลิต 50 ล้านลิตรต่อปี มูลค่าการลงทุน 2,000 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อรองรับตลาดกัมพูชาที่มีการดื่มเบียร์เป็นอับดับหนึ่งของภูมิภาคต่อหัวกว่า 50 ลิตรต่อคนต่อปี นับได้ว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยการบริโภคเบียร์ในไทยถึงสองเท่า สะท้อนโอกาสเติบโตของตลาดกัมพูชาในระยะยาว

โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 2 เดือนข้างหน้า เชื่อว่าจะช่วยให้ไทยเบฟในการสร้างรากฐานในตลาดกัมพูชา ส่วนเหตุการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา มองเพียงเป็นแค่ระยะสั้นมากกว่า ส่วน นายฐาปน กล่าวว่า ความขัดแย้งในกัมพูชานั้นทางไทยเบฟได้ทำตลาดผ่านธุรกิจเบียร์โค ยอมรับว่าช่วงนี้ได้รับผลกระทบบ้างสำหรับเครื่องดื่มช้าง แต่ตลาดกัมพูชาเป็นตลาดเล็กมาก และที่กระทบเป็นเรื่องการเมืองมากกว่า การเติบโตจึงต้องมองในระยะยาว

ทั้งหมด คือ ความเคลื่อนไหวของไทยเบฟบิ๊กธุรกิจเครื่องดื่ม และอาหารของไทยที่โด่งดังไกลไปทั่วโลก ซึ่งได้เดินเครื่องลุยธุรกิจมากมายในปี2569 นับได้ว่าเป็นความท้าทายอย่างมากบนพื้นฐานเศรษฐกิจแบบนี้!

 

 

 

related