เปิดสาเหตุ ทำไม USB ยังใช้งานอยู่ ไม่สูญพันธุ์แม้ส่งข้อมูล-ชาร์จไร้สายได้

คำตอบง่าย ๆ ของคำถามนี้คือ เทคโนโลยีไร้สายยังไปไม่ถึงจุดที่จะมาเทียบเท่าสาย USB และการใช้งานที่แตกต่างกัน

สำหรับเด็กรุ่นใหม่อาจมองว่า USB มันก็แค่สายธรรมดา แต่ประวัติศาสตร์ของมันไม่ธรรมดา เพราะว่า USB นี้เกิดจากการรวมตัวกันของผู้พัฒนานับสิบ ๆ เจ้า มาตกลงกันราวกับอนุสัญญาสหประชาชาติ ยุติยุคทีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีหัว(Port) อะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด

USB ย่อมาจาก Universal Serial Bus เกิดขึ้นเมื่อปี 1996 หรือ 26 ปีก่อน ซึ่งผู้พัฒนาบริษัทต่าง ๆ มาตกลงร่วมกันว่าจะทำหัวเสียบกลาง ที่ใช้ได้กับทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น คีย์บอร์ด , เม้าท์ , เครื่องพิมพ์ , ไมโครโฟน เพราะในอดีต แทบจะทุกอุปกรณ์มีหัวเสียบเป็นของตัวเองหมดเลย

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

• อีก 5-10 ปี “สาย USB” จะล้าสมัย “ไร้ค่าและไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป”
• O.MG cable อันตรายจากสายชาร์จ USB แค่เสียบก็โดนแฮกล้วงข้อมูลได้ง่ายๆ
• Apple เลิกใช้รูเสียบหูฟัง 3.5 มม. ใน iPad คาดอนาคตเปลี่ยนเป็น USB-C ทั้งหมด

สาย USB มีวิวัฒนาการมากมายตั้งแต่ USB-A หรือหัวสีเหลี่ยมใหญ่ ๆ ไปจนถึงหัว Type-C ในมือถือเราในปัจจุบัน ซึ่งความเร็วในการส่งข้อมูลก็ถูกพัฒนาให้รวดเร็วมากขึ้นตามลำดับ

แม้ปัจจุบันเราจะสามารถสั่งพิมพ์ผ่าน Wi-Fi ได้แล้ว , ส่งไฟล์ผ่านเน็ตฯ ได้แล้ว และชาร์จไร้สายได้แล้ว แต่การส่งแบบไร้สายก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ เช่น อุปกรณ์อยู่ไกลเกินกว่าที่สัญญาณจะเสถียรส่งผลให้การเชื่อมต่อมีปัญหา ระยะเวลาที่ใช้ในการโหลดไฟล์ ระยะเวลาการชาร์จ

ข้อได้เปรียบหนึ่งที่สายยังชนะไร้สายคือกำลังส่งที่เยอะกว่า เช่น การชาร์จโทรศัพท์มือถือ ที่สามารถส่งกำลังไฟผ่านสายได้ โทรศัพท์บางเครื่องใช้เวลาเพียง 15-20 นาทีเท่านั้นในการชาร์จ ซึ่งแต่กต่างกันเมื่อเทียบกับชาร์จไร้สาย

ส่วนเรื่องการส่งไฟล์ระดับผู้บริโภคปกติอาจไม่รู้สึกถึงข้อจำกัดนี้มากนัก แต่นระดับอุตสาหกรรม เช่น การส่งไฟล์ตัดต่อที่ต้องส่งไฟล์ขนาดหลายร้อย GB การส่งผ่านสายยังได้เปรียบอยู่ ทั้งความเสถียร ความเร็วและค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า

ขณะที่ความเสถียรของสายเมื่อเทียบกับไร้สายแล้ว ถือว่าอยู่ในระดับที่แตกต่างกัน ทั้งในแง่ของราคาแค่ความสม่ำเสมอ ยกตัวอย่างให้เห็นง่ายที่สุดคือไมโครโฟนไร้สาย กับ ไมโครโฟนสาย โอกาสที่ไมค์ไร้สายราคาถูกจะถูกรบกวนก็มีสิทธิ์เกิดขึ้นได้ ส่วนไมค์สายแทบจะมีโอกาสเกิดขึ้นน้อย ซึ่งถ้าหากต้องการสัญญาณที่เสถียรและคุณภาพดีก็ต้องใช้อุปกรณ์ราคาแพงขึ้น ซึ่งในคอมพิวเตอร์ก็เช่นเดียวกัน

ดังนั้นในระยะเวลาอันสั้นสาย USB อาจยังไม่สูญพันธุ์ในทันที แต่หากการส่งไร้สายเริ่มมีประสิทธิภาพสูงขึ้นในราคาที่ถูกลง ก็อาจมาทดแทนได้ในวันหนึ่ง