จะซื้อรถ EV ต้องอ่าน! ถ้าคนใช้เยอะขึ้น จะต้องแย่งกันจองสถานีชาร์จหรือไม่?

รถ EV (Electric Vehicle) กำลังจะทำให้ประเทศไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และอนาคตในอีกไม่กี่ปี คนใช้รถ EV จะสะดวกสบายยิ่งขึ้น

แต่ท่ามกลางปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เราจะแก้ไขปัญหามันอย่างไร? และแนวโน้มของวงการยานยนต์ไฟฟ้าจะเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งหากคุณทราบข้อมูลเหล่านี้ คุณอาจจะตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าได้โดยง่าย 

วงการยานยนต์ในประเทศไทยได้ถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ โดยเกิดมาจากสถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ค่าเชื้อเพลิงน้ำมันที่สูงขึ้น , เทคโนโลยีใหม่ๆที่เข้ามาทำให้คนไทยมีความสนใจในรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น

พูนพัฒน์ โลหารชุน ซีอีโอ บริษัท eVolt ประเทศไทย ได้เล่าถึงตัวเลขสถิติยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง ประจำปี 2565 วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565 ถึง วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ยอดรวมทั้งสิ้น 8,342 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้วถึง '360%'

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ร่วม 12 สถานีชาร์จ ชวนวางแผนการเดินทางช่วงปีใหม่
• Volvo ไทย นำร่อง สถานีชาร์จ EV พลังงานแสงอาทิตย์ ลดค่าไฟได้ปีละกว่าแสนบาท
• Tesla เปิดให้ลงทะเบียนเป็นเจ้าของสถานีชาร์จ Tesla Supercharger แล้ววันนี้

คุณ พูนพัฒน์ โลหารชุน CEO eVolt ประเทศไทย ได้กล่าวว่า 

สัดส่วนของสถานีชาร์จ EV ที่เพียงพอต่อการใช้งานในประเทศไทย คือ '0.1%' ต่อ 1 คัน หรือหากเปรียบเทียบง่ายๆคือ 'รถ 10 คัน ต้องมีสถานีชาร์จ 1 แห่ง'

หากพูดถึงในตัวเมืองกรุงเทพมหานครหรือปริมณฑล ส่วนใหญ่สถานีชาร์จ EV จะตั้งอยู่ตามห้างสรรพสินค้า , ปั้มน้ำมัน พื้นที่สาธารณะต่างๆ 'ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน' และไม่มีการต่อคิวหนาแน่น 

แต่ในต่างจังหวัด ตามหัวเมืองหรือจุดสำคัญต่างๆในการเดินทางเช่น นครสวรรค์ , พัทยา ยังมีความหนาแน่นจำนวนมากอยู่ ซึ่งปัญหานี้จะถูกแก้ไขโดยผู้ให้บริการโดยการเพิ่มสถานีชาร์จ ณ จุดนั้นๆ 

การขยายตัวของสถานีชาร์จในปัจจุบันจะขึ้นอยู่ตามจำนวนของรถ โมเดลของรถ ยิ่งมีรถเข้ามาทำการตลาดในประเทศไทยมากขึ้น สถานีชาร์จก็เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย 

เรายังได้มีโอกาสถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงปีใหม่ ไม่ว่าจะเป็น สถานีชาร์จหนาแน่น , ไม่สามารถชาร์จได้, หรือรถสันดาปเข้ามาจอดในจุดชาร์จ จึงได้คำตอบจากคุณพูนพัฒน์ ดังนี้

1.'สถานีชาร์จหนาแน่น' ต้องรอคิวชาร์จเป็นเวลานาน ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลที่คนต้องการเดินทางเป็นจำนวนมาก

• ทางสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยมีการวางแผนที่จะขยายสถานีชาร์จให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้คนใช้รถ EV วางแผนในการชาร์จได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม 

2.'หัวชาร์จชำรุด' หรือสถานีชาร์จเกิดปัญหาไม่สามารถชาร์จไฟได้

• การพกสายชาร์จฉุกเฉิน (Emergency Charge) ก็จะช่วยให้เดินทางต่อไปได้ 10-15 กิโลเมตร ซึ่งสามารถทำให้ขับต่อไปยังจุดชาร์จที่ใช้งานได้ 

 

 

• ติดต่อ Call Center ของผู้ให้บริการ เพื่อขอความช่วยเหลือและคำแนะนำก็อาจจะได้ทราบสถานีชาร์จที่ใกล้เคียง หรือสามารถใช้สถานีชาร์จของผู้บริการอื่นๆได้ 
• วางแผนเลือกสถานีชาร์จที่ได้มาตรฐาน ที่สามารถเช็กค่าแบบ Real-Time ได้ ซึ่งจะทำให้ไปถึงสถานีชาร์จและได้ชาร์จแน่นอน

3.รถสันดาปหรือรถอื่นๆที่เข้ามาจอดขวางในจุดชาร์จ

• ปัจจุบันได้มีการรณรงค์ให้คนไทยไม่จอดขวางในจุดชาร์จรถ EV ซึ่งขณะนี้เริ่มมีน้อยลงแต่ยังคงมีอยู่ และในอนาคตจุดชาร์จรถ EV จะคล้ายกับพื้นที่จอดของคนพิการ/คนท้อง นั่นเอง
• ทางผู้ให้บริการเอง ก็มีการป้องกันรถไม่ได้ใช้บริการชาร์จเข้า เช่น Barrier Gate หรือไม้กั้น หรือบางแห่งมีพนักงานคอยให้บริการดูแลที่สถานีชาร์จ ซึ่งจะช่วยป้องกันรถอื่นๆเข้ามาจอดขวางได้มากขึ้น

4.ความยุ่งยากของการใช้แอปพลิเคชั่น

• ปัจจุบันมีผู้ให้บริการสถานีชาร์จไม่ต่ำกว่า 10 เจ้า ทำให้ผู้ใช้งานต้องดาวน์โหลดแอปฯจำนวนมากเก็บไว้ในเครื่อง ในอนาคตทางผู้ให้บริการจะมีการแชร์ข้อมูลกันทำให้สามารถใช้บริการข้ามแอปฯได้ ซึ่งจะเพิ่มความสะดวกในการใช้งานยิ่งขึ้นกว่าเดิม

เทคโนโลยีการชาร์จในอนาคตจะพัฒนามากขึ้นแค่ไหน? 

ในอนาคตเมื่อมีรถรุ่นใหม่ๆเข้ามามากขึ้น รองรับการชาร์จไฟที่สูงขึ้น สถานีชาร์จ EV ก็จะถูกพัฒนาและเพิ่มจำนวนขึ้นไปพร้อมๆกัน เช่น สถานีชาร์จเดียวอาจมีหลายหัวให้บริการ ซึ่งอนาคตการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจะต้องเร็วขึ้นตามเทคโนโลยีที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน