svasdssvasds

AI โชว์ล้ำ! พัฒนา-ชิมรสชาติเครื่องดื่มชูกำลังได้ด้วยตัวเอง ชนิดแรกของโลก

AI โชว์ล้ำ! พัฒนา-ชิมรสชาติเครื่องดื่มชูกำลังได้ด้วยตัวเอง ชนิดแรกของโลก

ปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (AI) ปฏิวัติวงการเครื่องดื่มชูกำลังทั่วโลก เพราะไม่เพียงสร้างสรรค์ส่วนผสมที่คิดว่าดีที่สุดเท่านั้น แต่ยังชิมรสชาติได้ด้วย โดยจะวางจำหน่ายในกว่า 60 ประเทศทั่วโลกเริ่มตั้งแต่ฤดูร้อนของปี 2566

เฮลล์ เอ็นเนอร์จี (HELL ENERGY) ผู้ผลิตเครื่องดื่มชูกำลังจากฮังการี เปิดตัวเครื่องดื่มชูกำลังชนิดแรกของโลกที่มาจากการสร้างสรรค์ของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (AI) โดยระบบเอไอที่ล้ำสมัยนี้ออกแบบผลิตภัณฑ์ คิดส่วนผสม รวมถึงชิมและประเมินรสชาติต่าง ๆ ได้อย่างพิถีพิถัน นอกจากนี้ ยังสามารถทำนาย รักษามาตรฐานความปลอดภัย และใช้เครื่องมือทางการตลาดได้อีกด้วย ทั้งหมดนี้รังสรรค์ขึ้นอย่างเชี่ยวชาญโดยใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์อันก้าวล้ำ

เอไอ (AI) นำข้อมูลและความรู้จำนวนมหาศาลที่อยู่บนโลกออนไลน์มาใช้ประโยชน์ ทั้งในกระบวนการดำเนินงานและความสามารถในการเชื่อมโยงจุดต่าง ๆ ด้วยความเร็วในระดับที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าใจได้ นอกจากนี้ เอไอยังมีความรู้กว้างขวางในธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งครอบคลุมถึงส่วนผสม ยอดขาย งานวิจัยสุขภาพ รวมถึงคำแนะนำและเสียงตอบรับจากลูกค้า ยิ่งไปกว่านั้น เอไอยังรวบรวมข้อมูลและเทรนด์ล่าสุดมาวิเคราะห์ได้อย่างราบรื่น

เฮลล์ เอ็นเนอร์จี จึงมอบหน้าที่ให้ AI พัฒนาเครื่องดื่มชูกำลังแบบใหม่ได้ตามความต้องการ เทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนแปลงโลกอยู่ในปัจจุบันนี้ ก็ได้รวบรวมข้อมูลจำนวนมหาศาล จากนั้นจึงคิดค้นสูตรที่น่าจะถือว่าเป็นส่วนผสมที่ดีที่สุด โดยเอไอไม่เพียงคำนึงถึงความคาดหวังของผู้บริโภคที่มีต่อเครื่องดื่มชูกำลัง แต่ยังให้ความสำคัญกับเป้าหมายในการสร้างสรรค์เครื่องดื่มที่เหนือกว่าและสนุกกว่าคู่แข่ง

AI โชว์ล้ำ! พัฒนา-ชิมรสชาติเครื่องดื่มชูกำลังได้ด้วยตัวเอง ชนิดแรกของโลก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (AI) ได้รับการขนานนามว่าเป็นสิ่งที่มีความเฉลียวฉลาดมากที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน จึงสามารถคิดค้นส่วนผสมที่ดีที่สุดสำหรับเครื่องดื่มชูกำลัง ด้วยการเติมวิตามิน กรดอะมิโน และสมุนไพรชนิดต่าง ๆ ในขณะที่ยังปฏิบัติตามข้อบังคับและกฎหมายในอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งรวมถึงคำแนะนำของหน่วยงานตรวจสอบความปลอดภัยด้านอาหารแห่งสหภาพยุโรป (EFSA) และมาตรฐานสารอาหารที่มนุษย์ควรได้รับในแต่ละวัน (RDA)

AI ได้สร้างสรรค์รสชาติที่แตกต่างกันขึ้นมา 3 แบบ ไว้เพื่อเลือกรสชาติที่ดีที่สุด จากนั้นจึงเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลด้วยการใช้เทคโนโลยีของบริษัทแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในนครนิวยอร์ก หลังจากเอไอได้ชิมรสชาติทั้งหมดแล้วจึงวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติอย่างละเอียด โดยใช้ความสามารถในการทำนายพฤติกรรมลูกค้าเลือกรสชาติที่ชนะเลิศ ด้วยเหตุนี้ รสชาติที่สร้างความสดชื่นและเป็นเอกลักษณ์ของผลไม้และเบอร์รีหลากหลายชนิดจึงถือกำเนิดขึ้น

นวัตกรรมครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เอไอรับหน้าที่พัฒนาสินค้าที่มีความซับซ้อนในธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง

AI โชว์ล้ำ! พัฒนา-ชิมรสชาติเครื่องดื่มชูกำลังได้ด้วยตัวเอง ชนิดแรกของโลก

สูตรดังกล่าวไว้ในคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียวที่โรงงานของเฮลล์ เอ็นเนอร์จี ในประเทศฮังการี ซึ่งมีระบบรักษาความปลอดภัยอันล้ำสมัย เอไอ (AI) ยังเป็นผู้ออกแบบห้องที่คอมพิวเตอร์เครื่องดังกล่าวตั้งอยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อคำนึงถึงความสำคัญในการสำรองข้อมูล ส่วนผสมของเครื่องดื่มรสชาติใหม่นี้ได้ถูกทำสำเนาและเก็บไว้อย่างปลอดภัยที่ห้องนิรภัยในสวิตเซอร์แลนด์

จากที่กล่าวมาทั้งหมด ไม่น่าแปลกใจที่เอไอจะเป็นผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชูกำลังรสชาติใหม่นี้ด้วยการประมวลเทรนด์ใหม่ ๆ รวมถึงอารมณ์และความรู้สึกทันสมัยของวัยหนุ่มสาว โดยเอไอยังใช้สไตล์ของตัวเองที่มีความเป็นดิจิทัลในการออกแบบ ในขณะที่ยังไม่ทิ้งสีดั้งเดิมของแบรนด์เฮลล์ เอ็นเนอร์จี

ผลิตภัณฑ์ใหม่เฮลล์ เอไอ (HELL A.I.) เป็นผลจากกระบวนการที่พิเศษและมีเอกลักษณ์ในแบบที่ไม่มีใครเหมือน แต่พนักงานของเฮลล์ เอ็นเนอร์จี ยังกระตือรือร้นที่จะทดสอบเครื่องดื่มชูกำลังรสชาติใหม่นี้ภายใต้เงื่อนไขที่เคยปฏิบัติกันมา ผลก็คือเฮลล์ เอไอ ผ่านกระบวนการควบคุมคุณภาพและการทดสอบรสชาติแบบไม่บอกยี่ห้อมาได้ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันความสามารถของเอไอได้เป็นอย่างดี

เอไอยังเปิดมุมมองใหม่อันน่าตกตะลึงในแง่ของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เนื่องจากมีความสามารถในการก้าวข้ามขอบเขตเดิม ๆ ที่ไม่อาจเป็นไปได้ นำมาซึ่งยุคสมัยใหม่ในอุตสาหกรรมอาหาร

ด้วยความสามารถของเอไอที่สามารถแยกแยะประเภทและวิเคราะห์ข้อมูลมหาศาลบนอินเทอร์เน็ตได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาทีหรือวินาที จนทำให้วงจรการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากเดิมที่ใช้เวลา 1 ถึง 2 ปี หรือเร็วที่สุดคือครึ่งปี ลดลงเหลือเพียงแค่ 1 เดือนเท่านั้น ซึ่งผลของการดำเนินงานในครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือกันของระบบเอไอจำนวนมาก โดยแต่ละระบบก็จะรับผิดชอบในส่วนงานที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็ยังร่วมมือกันในการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยรวม โดยการทำงานร่วมกันของระบบเอไอนับร้อยตัวที่ถูกติดตั้งไว้ทั่วโลก ทำให้นวัตกรรมนี้อยู่ในระดับที่สูงขึ้นไปอีก

ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ผลิตขึ้นที่โรงงานเครื่องดื่มที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป และจะวางจำหน่ายในกว่า 60 ประเทศทั่วโลกเริ่มตั้งแต่ฤดูร้อนของปี 2566 เป็นต้นไป

ที่มา : hellenergy

related