ByteDance บริษัทแม่ TikTok แอบใช้เครื่องมือของผู้พัฒนา ChatGPT ทำ AI ตัวเอง
บริษัทแม่ของ TikTok อย่าง ByteDance ถูกสื่อนอกแฉ แอบใช้เครื่องมือของ OpenAI ผู้พัฒนา ChatGPT ทำ AI ของตัวเอง ซึ่งผิดข้อตกลงการใช้งาน
TikTok บริษัทลูกของ ByteDance ได้ขึ้นมาอยู่ในแถวหน้าของวงการปัญญาประดิษฐ์ (AI) เมื่อพวกเขาสามารถพัฒนาระบบที่คัดเลือกคลิปได้ตรงใจผู้ชมและทำให้คนดูติดงอมแงมได้ ถึงขนาดที่แพลตฟอร์มเจ้าตลาดอื่น ๆ ต้องออกฟีเจอร์มาเลียนแบบ
แต่เบื้องหลังความชาญฉลาด ยังมีอีกหนึ่งเรื่องที่ถูกเปิดออกมา คือ การที่ ByteDance แอบใช้เครื่องมือของ OpenAI เจ้าของ ChatGPT มาพัฒนา AI ของตนเอง ซึ่งผิดข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานที่ระบุว่า "ห้ามนำเครื่องมือของ OpenAI ไปพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ตัวอื่น"
Alex Heath รองบรรณาธิการของ Command Line newsletter ภายใต้สำนักข่าว The Verge รายงานว่า เขามีโอกาสได้เห็นเอกสารหลายชุดที่ระบุว่า ByteDance ใช้งานเครื่องมือของ OpenAI เจ้าของ ChatGPT มาพัฒนา AI ของตนเอง ภายใต้ชื่อ Project Seed และยังมีการใช้งานอยู่แม้ว่าจะใช้ในปริมาณลดลงแล้วก็ตาม
Project Seed เป็นโครงการที่ ByteDance ต้องการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ของตนเอง โดยในช่วงแรกมีการใช้งาน เครื่องมือของ OpenAI ในการพัฒนา จนถึงช่วงกลางปีที่ผ่านมา จีนอนุญาตให้ Project Seed ทดลองใช้งานได้อย่างถูกกฎหมาย ภายใต้ชื่อ Doubao
Doubao เป็นระบบปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถให้บริการได้ทั้ง แชตบอต , ให้ความช่วยเหลือด้านการเขียนและการสนับสนุนการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยสามารถใช้ได้ทั้งเว็บไซต์และในแอปพลิเคชัน
Jodi Seth โฆษกของ ByteDance ระบุว่า ในช่วงแรกมีการใช้งานเครื่องมือของ OpenAI จริงและอยู่ภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้งาน เพื่อพัฒนาฟีเจอร์ตัวอื่น ๆ นอกประเทศจีน และเมื่อพัฒนาฟีเจอร์ต่าง ๆ เสร็จในระดับหนึ่งก็ลบข้อมูลที่ใช้เครื่องมือของ OpenAI ที่ฝึกระบบออกไป ส่วน Doubao เป็นการใช้ AI ที่พัฒนาขึ้นเอง ไม่เกี่ยวข้องกับเครื่องมือของ ChatGPT
ขณะที่หลังจากบทความของ Command Line newsletter ถูกเผยแพร่ออกไป Niko Felix โฆษกของ OpenAI ระบุกับ รองบรรณาธิการของ Command Line ว่า ไอดีของ ByteDance ได้ถูกระงับการใช้งานชั่วคราวแล้ว เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงซึ่งหากผิดจริงก็จะยกเลิกการใช้งานไอดีดังกล่าวทันที
Alex Heath รองบรรณาธิการของ Command Line newsletter ตั้งข้อสังเกตุว่า ทำไมบริษัทที่มีทรัพยากรมากมายขนาดนี้ อย่าง ByteDance ถึงเลือกที่จะแอบใช้เครื่องมือของ OpenAI พัฒนาต่อยอดทั้งที่ผิดข้อตกลงการใช้งาน หรืออาจเกิดจากทีมพัฒนา Project Seed ถูกกดดันอย่างหนักว่าให้พัฒนาโปรเจกต์ให้สำเร็จโดยเร็ว จึงทำให้ต้องหันไปพึ่งพากระบวนการที่ไม่ถูกต้องมากนัก ?
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
