Microsoft อวด Copilot+ PC รุ่นใหม่ โชว์ผล Benchmark เร็วแรงกว่า Mac
ไมโครซอฟท์ เปิดตัวโฆษณาใหม่พร้อมสโลแกน "เราเร็วกว่า Mac" อ้าง PC Copilot+ รุ่นท็อปเร็วกว่า MacBook Air M3 ถึง 58% และบางรุ่นยังเหนือกว่า M4 โดยอิงผล Cinebench
SHORT CUT
- ไมโครซอฟท์ เปิดศึกอีกครั้งด้วยการอ้างว่า Copilot+ PC รุ่นใหม่มีความเร็วเหนือกว่า MacBook Air ทั้งชิป M3 (ถึง 58%) และบางรุ่นยังเร็วกว่าชิป M4 โดยใช้ผลทดสอบ Cinebench 2024 เป็นเกณฑ์
- การเปรียบเทียบกับ M3 อ้างอิงข้อมูลจากเดือนพฤษภาคม 2024 ในขณะที่การอ้างถึงความเหนือกว่า M4 ระบุในรายละเอียดปลีกย่อย ซึ่งผู้บริโภคควรพิจารณารายละเอียดการทดสอบประกอบ
- Apple ยังคงเน้นย้ำจุดเด่นด้านประสิทธิภาพต่อวัตต์ดีที่สุดในอุตสาหกรรมของชิป M4 ซึ่งส่งผลดีต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่และการออกแบบที่บางเบา
ไมโครซอฟท์ เปิดตัวโฆษณาใหม่พร้อมสโลแกน "เราเร็วกว่า Mac" อ้าง PC Copilot+ รุ่นท็อปเร็วกว่า MacBook Air M3 ถึง 58% และบางรุ่นยังเหนือกว่า M4 โดยอิงผล Cinebench
ไมโครซอฟท์ ได้เผยแพร่โฆษณาใหม่ผ่านทาง YouTube โดยมีข้อความหลักคือ "เราเร็วกว่า Mac" (we're faster than a Mac) เพื่อโปรโมทคอมพิวเตอร์พีซี Windows รุ่นใหม่ภายใต้แบรนด์ Copilot+
ในวิดีโอดังกล่าว ไมโครซอฟท์ อ้างว่าพีซี Copilot+ ระดับบนสุด สามารถทำความเร็วได้มากกว่า MacBook Air รุ่นก่อนหน้าที่ใช้ชิป M3 ถึง 58%
โดยอ้างอิงจากผลการทดสอบ CPU ด้วยโปรแกรม Cinebench 2024 ตัวเลขดังกล่าวเป็นข้อมูลที่เคยมีการรายงานตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2024
แม้โฆษณาจะใช้ MacBook Air รุ่นเก่าเพื่อการเปรียบเทียบ ไมโครซอฟท์ ยังเผยว่า Copilot+ PC บางรุ่นยังคงเร็วกว่า MacBook Air รุ่นล่าสุดที่ใช้ชิป M4 โดยใช้เกณฑ์การทดสอบ Cinebench 2024 เดียวกัน
สำหรับ Copilot+ PC รุ่นที่ถูกนำมาทดสอบ ประกอบด้วย Lenovo Yoga Slim 7x ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Snapdragon X Elite จาก Qualcomm, Microsoft Surface Laptop ที่ใช้ Snapdragon X Elite เช่นกัน และ HP OmniBook Ultra 14 ที่มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ Ryzen AI 9 HX 375 จาก AMD
แม้ว่าจะเป็นความจริงที่ชิป PC บางตัวสามารถทำความเร็วได้ดีกว่าชิป Apple Silicon ในการทดสอบบางประเภท แต่ทาง Apple ก็ได้เคยระบุว่าชิปตระกูล M4 ยังคงให้ประสิทธิภาพต่อวัตต์ ที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม
ส่งผลให้ MacBook Air มีทั้งความเร็ว, แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน และดีไซน์ที่บางเบาโดยไม่ต้องมีพัดลมระบายความร้อนภายใน
ท้ายที่สุดแล้ว การเลือกใช้งานระหว่าง Windows และ macOS ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจสำหรับผู้ใช้งานบางกลุ่ม โดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับผลการทดสอบความเร็วเพียงอย่างเดียว
ผู้สนใจสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างของ Microsoft ได้จากเอกสารทางกฎหมายของบริษัท https://learn.microsoft.com/th-th/legal/windows/copilotplus-claims?tabs=amd
ที่มา : MacRumors, CPU-Monkey, Microsoft
