SHORT CUT
Google เตรียมจับมือ TSMC ผลิตชิป Tensor G5 สำหรับ Pixel 10 ถึง Pixel 14 คาดดีลยาว 3-5 ปี หวังแก้ปัญหาประสิทธิภาพและเสริมแกร่ง AI บนอุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ
Google กำลังเจรจาข้อตกลงระยะยาวกับ TSMC เพื่อผลิตชิปประมวลผล Tensor G5 สำหรับสมาร์ทโฟน Pixel รุ่นอนาคต
โดยคาดว่าความร่วมมือนี้จะครอบคลุมตั้งแต่ Pixel 10 ไปจนถึง Pixel 14 เป็นระยะเวลา 3 ถึง 5 ปี นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญหลังจากที่ Google พึ่งพา Samsung Foundry มาโดยตลอดนับตั้งแต่เปิดตัวชิป Tensor รุ่นแรก
การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางรายงานปัญหาการผลิต ของ Samsung Foundry กับชิป Exynos 2500 ของตนเอง ทำให้ Google มองหาทางเลือกที่มั่นคงกว่า
โดย Tensor G5 ซึ่งเป็นชิปรุ่นแรกภายใต้ความร่วมมือใหม่นี้ จะผลิตบนสถาปัตยกรรม N3E ของ TSMC ซึ่งเป็นโหนด 3 นาโนเมตรที่ล้ำสมัยกว่า เมื่อเทียบกับกระบวนการ 4 นาโนเมตรของ Samsung ที่ใช้ใน Tensor G4
คาดว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดการใช้พลังงาน และจัดการความร้อนได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นจุดที่ชิป Tensor ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอด
Tensor G5 หรือที่รู้จักกันภายในโค้ดเนม "Laguna" จะมาพร้อมกับการจัดเรียงคอร์ CPU แบบมาตรฐาน ประกอบด้วย Cortex-X4 หนึ่งคอร์สำหรับงานหนัก, Cortex-A725 ห้าคอร์สำหรับงานระดับกลาง และ Cortex-A520 สองคอร์สำหรับงานเบา
อย่างไรก็ตาม จุดเน้นหลักยังคงอยู่ที่ TPU ซึ่งเป็นฮาร์ดแวร์ AI ที่ Google พัฒนาขึ้นเอง เพื่อขับเคลื่อนฟีเจอร์ Machine Learning บนอุปกรณ์ เช่น การพิมพ์ด้วยเสียง การประมวลผลภาพถ่าย
โดยมีเป้าหมายให้งานเหล่านี้ประมวลผลบนเครื่องโดยตรงมากขึ้น แทนที่จะพึ่งพาคลาวด์ นอกจากนี้ Google ยังใช้เทคโนโลยีการแพ็กเกจชิป InFO-POP ของ TSMC ซึ่งช่วยให้ชิปบางลงและระบายความร้อนได้ดีขึ้น
ไม่เพียงแต่โรงงานผลิตเท่านั้นที่เปลี่ยนไป Tensor G5 ยังมีการเปลี่ยนแปลงส่วนประกอบสำคัญอื่นๆ โดย Google ได้ออกแบบหน่วยประมวลผลสัญญาณภาพ (ISP) เอง, ใช้คอนโทรลเลอร์จอแสดงผลจาก VeriSilicon, วิดีโอโคเดกจาก Chips&Media และโมเด็มจาก MediaTek
ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนว่า Google ต้องการควบคุมสแต็กฮาร์ดแวร์ของตนเองมากขึ้น และค่อยๆ ลดการพึ่งพาระบบนิเวศของ Samsung
รายงานจาก DigiTimes ระบุว่า ผู้บริหารระดับสูงของ Google จากสหรัฐฯ ได้เดินทางเยือน TSMC ในไต้หวันเพื่อหารือเกี่ยวกับการเปลี่ยนไปใช้ชิปที่ผลิตโดย TSMC
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า Google ต้องการเพิ่มกำลังการผลิตชิปเหล่านี้เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด Generative AI เช่น ChatGPT ของ OpenAI
ที่มา : gizmochina