แซม อัลท์แมน ซีอีโอของ OpenAI ออกโรงเคลียร์ชัด ผ่านบล็อกส่วนตัว ยืนยันว่า AI ของเขาไม่ได้กระหายน้ำหรือกินไฟอย่างที่หลายคนกังวล 1 คำถามใช้น้ำแค่ 1/15 ช้อนชา
ChatGPT ไม่ได้กินไฟอย่างที่คิด—ใช้พลังงานแค่นิดเดียว แต่เปลี่ยนโลกได้
1/15 ของช้อนชา นั่นคือปริมาณ “น้ำ” ที่ ChatGPT ใช้ในการตอบคำถามคุณหนึ่งครั้ง
#แซมอัลท์แมน ซีอีโอของ OpenAI ออกโรงเคลียร์ชัด ผ่านบล็อกส่วนตัว ยืนยันว่า AI ของเขาไม่ได้กระหายน้ำหรือกินไฟอย่างที่หลายคนกังวล
“เพียง 0.000085 แกลลอน หรือแค่จิบเดียวเท่านั้น”
ส่วนการใช้พลังงาน - เฉลี่ยแค่ 0.34 วัตต์-ชั่วโมงต่อคำสั่ง
เทียบเท่ากับการเปิดเตาอบแค่ 1 วินาที หรือเปิดหลอดไฟ LED ไม่กี่นาที — ฟังดูไม่มากมาย แต่โลกกำลังพูดถึงมันอย่างจริงจัง
แซม อัลท์แมน ซีอีโอของ OpenAI อธิบายต่อว่า เรากำลังเข้าสู่จุดที่ “มนุษย์อาจไม่ได้ฉลาดที่สุดอีกต่อไป”
ChatGPT และระบบรุ่นใหม่ ๆ กำลังช่วยให้มนุษย์:
-คิดได้ไวขึ้น
-ทำงานได้มากขึ้น
-วิจัยได้ลึกขึ้น
“ความมหัศจรรย์ของ AI กำลังกลายเป็นมาตรฐานขั้นต่ำในชีวิตประจำวัน”
.
ปี 2025 คือการเริ่มต้นของ “AI agents” ที่คิดและตัดสินใจได้
ปี 2026 อาจเห็น AI คิดค้นองค์ความรู้ใหม่ด้วยตัวเอง
ปี 2027 อาจมีหุ่นยนต์ที่ทำงานร่วมกับมนุษย์ในโลกจริงได้แบบไม่ต้องควบคุม
ลองนึกภาพตามด
-หุ่นยนต์ที่สามารถสร้างหุ่นยนต์
-ศูนย์ข้อมูลที่สร้างศูนย์ข้อมูล
-ระบบที่ออกแบบและบริหารห่วงโซ่อุปทานเองแบบครบวงจร
เมื่อกระบวนการผลิต AI ถูกทำให้เป็นอัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบ
ต้นทุน “ความฉลาด” ก็จะถูกลง
การเข้าถึง AI ขั้นสูงจะไม่ใช่สิ่งพิเศษเฉพาะกลุ่มอีกต่อไป
เราอาจเข้าสู่ยุคที่ปัญญา “ราคาถูกจนไม่ต้องวัด”
แน่นอน มันไม่ใช่ทางตรงสู่ดินแดนยูโทเปีย แซม อัลท์แมน เตือนว่า สิ่งที่สำคัญไม่ใช่แค่พัฒนา AI ให้ฉลาด — แต่ต้องทำให้ “ปลอดภัย” และ “สอดคล้องกับเจตจำนงของมนุษย์” ด้วย
Alignment คือหัวใจ: AI ต้องเข้าใจว่า “มนุษย์ต้องการอะไรในระยะยาว”
การกระจายคือทางรอด: อย่าให้พลังนี้ตกอยู่ในมือของคนกลุ่มเดียว
มนุษย์อาจไม่ได้ฉลาดที่สุดอีกต่อไป แต่เรายังเป็นเผ่าพันธุ์ที่ “แคร์กันและกัน” และมองโลกด้วยความรู้สึก
หากเราใช้ AI เพื่อเสริมศักยภาพของกันและกัน ไม่ใช่เพื่อลดทอนความเป็นมนุษย์ อนาคตก็จะไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว — แต่น่าตื่นเต้นที่สุดในประวัติศาสตร์
ที่มา : blog.samaltman
ข่าวที่เกี่ยวข้อง