svasdssvasds

หัวเว่ย เปิดตัว Xinghe Intelligent Fabric ขับเคลื่อนสู่ยุค AI

หัวเว่ย เปิดตัว Xinghe Intelligent Fabric ขับเคลื่อนสู่ยุค AI

หัวเว่ยเปิดตัว Xinghe Intelligent Fabric ในงาน Huawei Network Summit 2025 ที่ฮ่องกง มุ่งสร้างโครงสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับยุค AI

SHORT CUT

  • หัวเว่ย ได้เปิดตัวโซลูชัน Xinghe Intelligent Fabric รุ่นอัปเกรดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายที่แข็งแกร่งสำหรับรองรับการใช้งาน AI โดยเฉพาะ 
  • Xinghe Intelligent Fabric ใช้สถาปัตยกรรม 3 ชั้น คือ AI Brain, AI Connection และ AI Network Element ซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการฝึกฝน AI ได้มากกว่า 10% และแก้ไขปัญหาเครือข่ายได้อัตโนมัติถึง 80%
  • หัวเว่ย มุ่งมั่นที่จะส่งมอบเครือข่ายศูนย์ข้อมูลที่ปลอดภัยและมีเสถียรภาพสูง เพื่อช่วยให้องค์กรธุรกิจทั่วทั้งภูมิภาคสามารถขับเคลื่อนนวัตกรรมและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในยุคดิจิทัล

หัวเว่ยเปิดตัว Xinghe Intelligent Fabric ในงาน Huawei Network Summit 2025 ที่ฮ่องกง มุ่งสร้างโครงสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับยุค AI

หัวเว่ย ได้เปิดตัวโซลูชัน “Xinghe Intelligent Fabric” รุ่นอัปเกรดสำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ภายในงาน Huawei Network Summit 2025 (Asia Pacific) 

CREDIT : Huawei

นายหวัง อี้ตง ผู้บริหารของหัวเว่ย กล่าวว่า บริษัทได้สร้างเครือข่ายศูนย์ข้อมูลที่ทันสมัยให้กับองค์กรมากมายทั่วเอเชียแปซิฟิกแล้ว 

โดยโซลูชันนี้จะช่วยให้ลูกค้า "มีประสิทธิภาพ ความเสถียร และความปลอดภัยขั้นสูง" เพื่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ

นายอาเธอร์ หวัง ผู้เชี่ยวชาญจากหัวเว่ยอธิบายว่า เทคโนโลยี AI และคลาวด์กำลังทำให้เครือข่ายต้องพัฒนาไปอีกขั้น Xinghe Intelligent Fabric จึงถูกออกแบบด้วยสถาปัตยกรรม 3 ชั้นที่ทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาด

CREDIT : Huawei

Xinghe Intelligent Fabric คืออะไร มีอะไรน่าสนใจบ้าง?

นายอาเธอร์ หวัง ชี้ว่าความก้าวหน้าของ AI และสถาปัตยกรรมคลาวด์ทำให้เครือข่ายศูนย์ข้อมูลมาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญ 

CREDIT : Huawei

โซลูชัน Xinghe Intelligent Fabric เวอร์ชันใหม่จึงได้รับการออกแบบบนสถาปัตยกรรม 3 ชั้น เพื่อสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งและรองรับการเชื่อมต่อกับพลังประมวลผลขนาดใหญ่ได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย

AI Brain (สมองกลอัจฉริยะ) : เปรียบเสมือน "ผู้ควบคุม" ของระบบ มันมีแผนที่ดิจิทัลของเครือข่ายทั้งหมดและใช้ระบบอัตโนมัติ (NetMaster) ในการจัดการ จุดเด่นคือสามารถตรวจจับและแก้ไขปัญหาได้เองถึง 80% ช่วยลดภาระงานดูแลระบบได้อย่างมหาศาล

AI Connection : ใช้อัลกอริทึม NSLB ของหัวเว่ย เพิ่มประสิทธิภาพการฝึกฝน AI ได้มากกว่า 10% พร้อมด้วยระบบ iReliable ที่ช่วยให้การบริการดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด 

AI Network Element : คือ "อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์" เช่น สวิตช์ (CloudEngine) และโมดูลออปติคัล (StarryLink) อุปกรณ์เหล่านี้สามารถตรวจสอบข้อมูลได้แบบละเอียด และรายงานปัญหาความหน่วงหรือข้อมูลที่สูญหายได้ทันที

ภายในงานเปิดตัว ยังมีตัวแทนจากองค์กรชั้นนำมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ เช่น ธนาคาร Chong Hing และบริษัท Hong Kong Broadband Network ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงการใช้งานจริงในภาคธุรกิจ

นอกจากนี้ ดร. ดาริโอ รอสซี ผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการจากศูนย์วิจัยหัวเว่ย กรุงปารีส ยังได้ร่วมบรรยายถึงทิศทางการพัฒนาเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์ในยุค AI 

หัวเว่ย ยืนยันว่าจะไม่หยุดนิ่งในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมด้านเครือข่าย โดยจะทำงานร่วมกับพันธมิตรและลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างเครือข่ายอัจฉริยะและผลักดันทุกอุตสาหกรรมให้พร้อมสำหรับอนาคตดิจิทัล

ที่มา : Huawei

related