SHORT CUT
ผลการศึกษา 4 เดือนจาก MIT เผยผู้ใช้ ChatGPT กว่า 83% จำสิ่งที่เขียนไม่ได้ การเชื่อมต่อใยสมองลดลงเกือบครึ่ง นักวิจัยชี้คือ "ภาวะฝ่อของสมอง" จากการปล่อยให้ AI คิดแทน
MIT ติดตามสมองคนที่ใช้ Chat GPT เป็นประจำ พบว่า ทักษะการคิดวิเคราะห์ “ด้อยลงมาก”
การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในชีวิตประจำ สามารถเป็นได้ทั้งของ “ขวัญ” และ “คำสาป” ล่าสุด สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ หรือ MIT เปิดเผยผลการศึกษาเกี่ยวกับสมองของผู้ใช้งาน Chat GPT พบแง่มุมที่น่าห่วงหลายอย่าง
ตลอดระยะเวลา 4 เดือน ทีมวิจัยได้ติดตามสมองของผู้เข้าร่วมการศึกษา 54 ราย อายุระหว่าง 18-39 ปี ในรัฐบอสตัน สหรัฐอเมริกา แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม โดยให้โจทย์ว่าต้องเขียนเรียงความขึ้นมา โดยใช้ Chat GPT เครื่องมือค้นหาของ Open AI
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ใช้งาน Chat GPT กว่า 83% ไม่สามารถจำข้อความที่ตัวเองเพิ่งเขียนได้ ทั้งที่เพิ่งลงมือเขียนไปไม่กี่นาที นอกจากนี้ การเชื่อมต่อของเส้นใยสมอง หรือ Neural Connectivity ลดลงเฉลี่ยเกือบครึ่ง จาก 79 จุด เหลือเพียง 42 จุด
นักวิจัยจาก MIT อธิบายว่านี่เป็นผลลัพธ์ของการปล่อยให้ AI คิดแทน แทนที่เราจะขบคิดและวิเคราะห์ด้วยความรู้ที่เรามีด้วยตัวเอง
และเมื่อนักวิจัยทดลองให้เขียนเรียงความโดยไม่ใช้ AI ช่วย ผลปรากฏว่ากลุ่มที่เคยใช้ AI กลับทำได้แย่กว่าคนที่ไม่เคยใช้ AI มาก่อนเลย นักวิจัยเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า ภาวะฝ่อของสมอง หรือ Cognitive Atrophy คล้าย ๆ กล้ามเนื้อที่ไม่ได้ใช้งานนาน พอจะใช้กลับอ่อนแรงปวกเปียกทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ
กลุ่มอาจารย์ที่ร่วมสังเกตการศึกษานี้เสนอทรรศนะไว้ว่า แม้เรียงความที่เขียนขึ้นโดย Chat GPT จะมีภาษาที่สละสลวย อ่านรื่น แต่ยังขาดมุมมองส่วนตัวที่กลั่นมาจากประสบการณ์ชีวิต จิตวิญญาณ และความเชื่อ
MIT ตั้งชื่อปรากฏการณ์นี้ว่า “หนี้สินทางความคิด” หรือ Cognitive Debt คอนเซปต์คล้ายกับหนี้สินทางเทคโนโลยี แต่หนนี้ ผู้ที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยกลับไม่ใช่บรรดาบริษัทเทคโนโลยี แต่เป็นผู้ที่ใช้งาน AI ฟังแบบนี้แล้วก็ดูน่าหวั่นไม่น้อยเลยใช่ไหม
ในข่าวร้าย ยังมีเรื่องดี การศึกษาครั้งนี้ นักวิจัยพบอีกว่า คนที่มีระบบตรรกะแข็งแรง มีพื้นฐานทางสมองที่แข็งแรง และมีการจัดเรียงความคิดอย่างเป็นระบบ เขาเหล่านี้จะสามารถใช้ AI ต่อยอดศักยภาพของตัวเองให้สูงขึ้นไปกว่าเดิมอีกทวีคูณ ต่างจากคนที่ใช้ AI เป็นประจำที่เมื่อปราศจากมันแล้ว ผลงานดูจะด้อยกว่าที่ AI คิดและทำให้
น่ากลับมาตั้งคำถามว่า เมื่อ AI เป็นสิ่งที่เราไร้หนทางปฏิเสธ เราจะยังคิดได้ด้วยตัวเองอยู่หรือเปล่า หรือจะพึ่งพา AI ให้เป็นผู้ช่วยไปตลอดชีวิต ย้ำอีกครั้ง AI เป็นทั้งของขวัญและคำสาป !!
ที่มา: time
ข่าวที่เกี่ยวข้อง