SHORT CUT
รู้จัก "อุปกรณ์แปลภาษาเอไอ" จากไอฟลายเทก (iFLYTEK) ยักษ์ใหญ่ด้านเอไอและเสียงพูดอัจฉริยะของจีน โดยอุปกรณ์ขนาดเท่ามือถือนี้สามารถแปลได้ถึง 85 ภาษา จากกว่า 200 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก
ในยุคที่ธุรกิจข้ามพรมแดนไม่ใช่แค่เรื่องของยักษ์ใหญ่ แต่รวมถึงผู้ประกอบการตัวเล็กตัวน้อยจากจีนที่อยากปักหมุดบนแผนที่โลก “กำแพงภาษา” จึงกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจที่ต้องจัดการ — และผู้ช่วยที่มาแรงสุดตอนนี้คือ AI แปลภาษาแบบพกพา
ลองนึกถึงอุปกรณ์ขนาดเท่ามือถือที่แปลภาษาได้แบบเรียลไทม์ ครอบคลุม กว่า 85 ภาษา จาก 200 ประเทศทั่วโลก รวมถึง ภาษาถิ่นในจีนกว่า 200 แบบ นี่คือผลงานของบริษัท iFLYTEK แห่งแดนมังกรที่เชี่ยวชาญด้าน AI และเสียงพูดอัจฉริยะ
ซุน จิ้งถิง ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ AI แปลภาษาของ iFLYTEK บอกว่า กลุ่มลูกค้าหลักไม่ใช่บริษัทยักษ์ใหญ่ แต่คือเจ้าของธุรกิจ SME ที่ไม่มีงบจ้างล่ามมือโปร เวลาจะไปออกบูธต่างประเทศต้องให้พนักงานขายหรือนักเทคนิคทำหน้าที่แปลไปด้วย
ปัญหาคือจุดหมายปลายทางใหม่ของธุรกิจจีนกระจายไปในประเทศที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษ เช่น เวียดนาม รัสเซีย หรือไทย — การใช้เครื่องมือแปลจึงกลายเป็นทางรอดที่สะดวกและคุ้มทุน
“แม้ภาษาอังกฤษจะยังถูกใช้มากที่สุด แต่สัดส่วนลดลงจาก 60% เหลือแค่ 30% เพราะความต้องการแปลภาษาอื่นๆ พุ่งสูงขึ้น” ซุน จิ้งถิงให้ความเห็น
ข้างในอุปกรณ์คือ หน่วยประมวลผลประสาท (NPU) ที่จีนพัฒนาขึ้นเอง ทำให้แปลได้แม้ไม่ต่ออินเทอร์เน็ต แถมยังมีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนระดับสูง ใช้งานได้ดีในสถานการณ์เสียงดัง เช่น งานแสดงสินค้าหรือโรงงาน
นอกจากนี้ AI แปลภาษาไม่ได้จำกัดแค่ธุรกิจส่งออก iFLYTEK ยังพัฒนา ระบบสั่งงานด้วยเสียงในรถยนต์ ที่รองรับ 23 ภาษา ใช้กับรถยนต์แบรนด์จีนกว่า 100 รุ่นที่ส่งออกไปทั่วโลก
แม้เทคโนโลยีจะแปลได้ดีขึ้น แต่ซุนย้ำว่า AI ไม่ได้มาแทนที่ล่ามมืออาชีพ - “การเจรจาทางธุรกิจไม่ใช่แค่เรื่องภาษา แต่ยังเกี่ยวกับอารมณ์และความเข้าใจวัฒนธรรม ซึ่งมนุษย์ยังทำได้ดีกว่า AI”