svasdssvasds

คนในออฟฟิศกลายเป็นซอมบี้! ผลวิจัยเตือนภัยองค์กรยุค AI

คนในออฟฟิศกลายเป็นซอมบี้! ผลวิจัยเตือนภัยองค์กรยุค AI

"ซอมบี้ในออฟฟิศ: เมื่อ AI กลืนกินความคิดมนุษย์ องค์กรของคุณจะต้านทานหายนะสมองตายได้อย่างไร? ในวันที่ทุกคนใช้ AI ทำแทนทุกอย่าง

SHORT CUT

  • การใช้ AI มากเกินไปลดการทำงานของสมองในส่วนความจำ ความคิดสร้างสรรค์ และสมาธิถึง 55% และสมองฟื้นตัวช้า อาจนำไปสู่ภาวะสมองเสื่อมได้
  • การพึ่งพา AI ในระยะยาวทำให้ทีมขาดความคิดริเริ่ม การแก้ปัญหา และพลังสร้างสรรค์ ซึ่งส่งผลเสียต่อการเติบโตและความยั่งยืนขององค์กร
  • ควรฝึก "วิธีคิดแบบรีอินเวนต์" เพื่อมอง AI เป็นเครื่องมือ, เสริมพลังให้ทีมใช้ AI อย่างชำนาญพร้อมส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์, ย้ำเตือนว่า AI เป็นเพียงเครื่องมือ, และสร้างบรรยากาศสนุกสนานในที่ทำงานเพื่อกระตุ้นสมอง

"ซอมบี้ในออฟฟิศ: เมื่อ AI กลืนกินความคิดมนุษย์ องค์กรของคุณจะต้านทานหายนะสมองตายได้อย่างไร? ในวันที่ทุกคนใช้ AI ทำแทนทุกอย่าง

เราอาจเคยคิดว่าซอมบี้เป็นเรื่องไกลตัว เป็นแค่ภาพยนตร์แฟนตาซีที่ร่างไร้สติเดินเพ่นพ่านไล่ล่าความมีชีวิตในโลกที่ล่มสลาย แต่วันนี้ “ซอมบี้” อาจอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด มันกำลังแฝงตัวอยู่ในออฟฟิศ ในห้องประชุม และหน้าจอคอมพิวเตอร์ ในรูปแบบของ AI ที่ถูกใช้แทนการคิดของมนุษย์ !

งานวิจัยล่าสุดจาก MIT Media Lab เผยผลลัพธ์ที่น่ากังวล เมื่อให้ผู้คนใช้ AI เขียนเรียงความ สมองของพวกเขาทำงานน้อยลงถึง 55% ในส่วนที่เกี่ยวกับความจำ ความคิดสร้างสรรค์ และสมาธิ และที่แย่กว่านั้นคือ แม้หลังจากเลิกใช้ AI แล้ว สมองของพวกเขายังฟื้นตัวช้าจนน่าตกใจ มีประสิทธิภาพแย่ลงทั้งในด้านการคิดวิเคราะห์และการจดจำ นี่อาจไม่ใช่แค่ปัญหาการทำงาน แต่มันยังโยงไปถึงความเสี่ยงของ โรคซึมเศร้า อัลไซเมอร์ และภาวะสมองเสื่อม ด้วย

AI ทำให้พนักงานเป็นซอมบี้ !

AI อย่าง ChatGPT เติบโตอย่างก้าวกระโดด เพียงสองเดือนหลังเปิดตัวในปี 2022 ก็มีผู้ใช้งานมากกว่า 100 ล้านรายทั่วโลก เป็นการเติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์แอปพลิเคชันผู้บริโภค

แน่นอน หลายคนวิตกว่า AI จะทำลายงานนับล้าน และลดระดับมนุษย์ให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่ "ผู้ฉลาดที่สุดในจักรวาล" อีกต่อไป ฉันยังเชื่อในศักยภาพของมนุษย์ในการปรับตัว แต่ผลวิจัยนี้ก็น่าจะเป็นสัญญาณเตือนว่า เราไม่ควรประมาท

ในระยะสั้น การใช้ AI อาจทำให้งานไวขึ้น กำไรงอกงาม แต่ในระยะยาว เราอาจกำลังสร้างทีมงานที่ “ไร้สมอง” คนที่ไม่กล้าคิด ไม่กล้าแก้ปัญหา และไม่มีพลังสร้างสรรค์เหลืออยู่เลย

ซอมบี้ ไม่ได้มาจากโลกแฟนตาซี แต่มันกำลังก่อตัวขึ้นในระบบที่พึ่งพา AI อย่างไม่ลืมหูลืมตา

4 วิธีไม่ให้ AI กินสมองเรา 

1.ฝึกฝน "วิธีคิดแบบรีอินเวนต์" (Reinvention Mindset)


การปรับตัวใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันสำคัญมากในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เริ่มจากการทบทวนจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเอง แล้วตัดสินใจอย่างมีสติเกี่ยวกับสิ่งที่ควรพกติดตัวไปในโลกยุคใหม่ และอะไรที่ควรทำเอง อะไรที่ควรใช้เทคโนโลยีช่วย  มอง “ความเปลี่ยนแปลง” เป็น “โอกาส” มอง “ความล้มเหลว” เป็น “บทเรียน” และมอง “ความยืดหยุ่น” เป็น “พลังพิเศษ”

เปลี่ยนจากความกลัวว่า AI จะมาทำแทนมนุษย์ทุกอย่าง ไปสู่การมองว่า AI คือ เครื่องมือทรงพลัง ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของเรา เราไม่จำเป็นต้องต่อต้าน AI แต่ควรร่วมมือกับมันในฐานะเครื่องมือ เพื่อยกระดับความความสามารถของเราให้สูงขึ้น และรักษาคุณค่าที่แท้จริงของตัวเราไว้ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

คนในออฟฟิศกลายเป็นซอมบี้! ผลวิจัยเตือนภัยองค์กรยุค AI

2.เสริมพลังให้ทีมของคุณ


เมื่อ AI กลายเป็นเรื่องปกติใหม่ ทีมของคุณต้องปรับทักษะเพื่อมองเห็นและรับมือกับโอกาสใหม่ ๆ การฝึกให้พวกเขาใช้งาน AI อย่างชำนาญ พร้อมกับส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์แบบมนุษย์และการใช้ตรรกะส่วนบุคคล จะช่วยรักษาสมดุลที่ดีระหว่างเทคโนโลยีกับความเป็นมนุษย์

3.อดทนและเดินหน้าต่อ


เราเรียนรู้ เติบโต และสร้างภูมิคุ้มกันจากการล้มเหลว การลงมือทำ และความต่อเนื่อง สร้างแนวทางการใช้ AI ในที่ทำงานให้ชัดเจน และย้ำเสมอว่า AI เป็นเพียง “เครื่องมือ” ไม่ใช่ “คำตอบสุดท้าย” ของทุกปัญหา

4.อย่าลืมความสนุก 

 

เวลาทำงานเครียด ๆ สมองเราจะทำงานได้ไม่ดี คิดอะไรไม่ออก เพราะร่างกายเข้าสู่โหมดเอาตัวรอดแบบอัตโนมัติ วิธีช่วยให้หลุดจากความเครียดคือ “การสร้างความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ” เช่น การหัวเราะ เล่น หรือใช้เวลาผ่อนคลายกับเพื่อนร่วมงาน

การได้สนุกบ้างระหว่างวันจะช่วยให้สมองหลั่งโดปามีน ทำให้เราคิดได้ดีขึ้น มองโลกกว้างขึ้น และพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง

สุดท้ายแล้ว ทีมที่มีความสุข คือทีมที่พร้อมจะปรับตัว และไม่กลายเป็น “ซอมบี้ในออฟฟิศ” อย่างแน่นอน

ที่มา fastcompany

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

related