svasdssvasds

บุกโรงงาน! 'แคนนอน' ชม ‘สินค้าใหม่’ ใช้ AI- วัสดุรีไซเคิล เพียบ

บุกโรงงาน! 'แคนนอน' ชม ‘สินค้าใหม่’ ใช้ AI- วัสดุรีไซเคิล เพียบ

พาบุกเยี่ยมชม! โรงงานแคนนอน เปิดตัวเครื่องพิมพ์ imageFORCE Series 4 รุ่นใหม่ ชูฟีเจอร์อัจฉริยะ 4 แกนหลัก ใช้ AI- วัสดุรีไซเคิลเพียบ

SHORT CUT

  • ทุกวันนี้หลายธุรกิจกำลังปรับตัวเองเพื่อนำเสนอสินค้า และบริการใหม่ๆ ให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนไป เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปเร็ว โดยเฉพาะธุรกิจงานพิมพ์ไทยที่หลายองค์กรเริ่มรณรงค์ไม่ใช้กระดาษเพื่อเป็นการประหยัด และแก้ไขปัญหาโลกร้อน
  • ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการพิมพ์ไทยเองก็ต้องปรับตัวหันมาใช้เทคโนโลยีอิมเมจจิ้ง นวัตกรรมอื่นๆเข้ามาช่วย เช่น ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI

  • วันนี้จะพาบุกเยี่ยมชม! โรงงานแคนนอน เปิดตัวเครื่องพิมพ์ imageFORCE Series 4 รุ่นใหม่ ชูฟีเจอร์อัจฉริยะ 4 แกนหลัก ใช้ AI- วัสดุรีไซเคิล

พาบุกเยี่ยมชม! โรงงานแคนนอน เปิดตัวเครื่องพิมพ์ imageFORCE Series 4 รุ่นใหม่ ชูฟีเจอร์อัจฉริยะ 4 แกนหลัก ใช้ AI- วัสดุรีไซเคิลเพียบ

ปัจจุบันหลายธุรกิจกำลังปรับตัวเองเพื่อนำเสนอสินค้า และบริการใหม่ๆ ให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนไป เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปเร็ว โดยเฉพาะธุรกิจงานพิมพ์ไทยที่หลายองค์กรเริ่มรณรงค์ไม่ใช้กระดาษเพื่อเป็นการประหยัด และช่วยกันแก้ไขปัญหาโลกร้อน แต่…ก็ยังมีหลายองค์กรที่ยังคงต้องการใช้กระดาษ แต่คุณภาพจะต้องดี ทันสมัยกว่าเดิม ในส่วนของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการพิมพ์ไทยเองก็ต้องปรับตัวหันมาใช้เทคโนโลยีอิมเมจจิ้ง นวัตกรรมอื่นๆเข้ามาช่วย เช่น ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI

พามาดูอีกหนึ่งตัวอย่างที่มีการปรับตัวอย่างหนักเพื่อให้ได้สินค้าตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ และให้ทันเทรนด์โลกที่เปลี่ยนไป นั่นก็คือ บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด (Canon) ที่ได้พา #SPRiNG บุกเยี่ยมชมโรงงานแคนนอน ที่จังหวัดปราจีนบุรี พร้อมอัปเดตเทคโนโลยีใหม่ๆ สินค้าใหม่ๆตอกย้ำบทบาทผู้นำด้านเทคโนโลยีอิมเมจจิ้งระดับโลก เปิดเกมรุกธุรกิจงานพิมพ์ไทยเปิดตัวเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน Canon ตระกูล imageFORCE Series 4 รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมนวัตกรรม AI ล้ำสมัย พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งานในโลกธุรกิจภายใต้ 4 แนวคิดหลัก คือ 1.) ความน่าเชื่อถือในคุณภาพ 2.) ความมั่นคงปลอดภัยด้านข้อมูล 3.) การเชื่อมต่อที่ครอบคลุม

บุกโรงงาน! \'แคนนอน\' ชม ‘สินค้าใหม่’ ใช้ AI- วัสดุรีไซเคิล เพียบ

และ 4.) การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน เดินหน้าปฏิวัติโซลูชันงานพิมพ์กับก้าวสำคัญสู่การปรับภาพลักษณ์จากผู้จำหน่ายเครื่องถ่ายเอกสารแบบเดิม สู่การเป็นผู้ให้บริการโซลูชันที่ตอบโจทย์การทำงานในยุคไฮบริดมากยิ่งขึ้น พร้อมโชว์ศักยภาพโรงงานแคนนอน จังหวัดปราจีนบุรี สู่การสร้างฐานการผลิตเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันคุณภาพระดับโลกอีกด้วย

มาพูดคุยกับ…นายฮิโรชิ โยโกตะ ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด เขากล่าวว่า แคนนอนมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการพิมพ์อย่างแท้จริง ซึ่งไม่เพียงแค่ฟีเจอร์ใช้งานที่ทันสมัยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงโซลูชันการพิมพ์ที่ครบวงจรเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจในยุค AI ได้อย่างครับครัน เพราะในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ ความน่าเชื่อถือ ความมั่นคงปลอดภัย และการเชื่อมต่อออนไลน์ ได้กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในธุรกิจทุกประเภท

บุกโรงงาน! \'แคนนอน\' ชม ‘สินค้าใหม่’ ใช้ AI- วัสดุรีไซเคิล เพียบ

เราจึงได้พัฒนา imageFORCE Series เพื่อช่วยสนับสนุนงานพิมพ์ได้อย่างชาญฉลาด พร้อมกับผสานแนวคิดความยั่งยืนเข้ากับการออกแบบผลิตภัณฑ์ของเรา ทั้งในด้านวัสดุ การประหยัดพลังงาน และการใช้ทรัพยากรที่คุ้มค่าในระยะยาว เราจึงมั่นใจว่า imageFORCE Series จะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยยกระดับศักยภาพให้กับผู้ประกอบการไทยได้อย่างแท้จริง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทุกท่านในการเดินหน้าแคมเปญครั้งนี้ร่วมกัน

ทั้งนี้แคนนอนมีเป้าหมายในการพัฒนานวัตกรรมที่ดีที่สุดสู่ผู้คนทั่วโลก ผ่านการจัดตั้งศูนย์การผลิตระดับโลกในประเทศไทย ซึ่งมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพสูงสุดโดยอาศัยทักษะฝีมือแรงงานไทยที่มีความเชี่ยวชาญเทียบเท่าสากล โรงงานแคนนอนในประเทศไทยดำเนินการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกควบคู่กับความเชี่ยวชาญด้านการผลิตขั้นสูง โดยแรงงานท้องถิ่นที่มีความสามารถสูง เพื่อมุ่งเน้นกระบวนการผลิตที่ถูกต้อง แม่นยำ และได้มาตรฐานสากล พร้อมส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมความยั่งยืน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด

ด้าน นายมาโกโตะ นากามูระ ประธานบริษัท แคนนอน ปราจีนบุรี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัวเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน imageFORCE Series นี้ ไม่ใช่แค่ก้าวสำคัญของแคนนอน แต่ยังสะท้อนถึงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตเทคโนโลยีระดับโลก แคนนอนให้ความสำคัญกับการส่งมอบนวัตกรรมคุณภาพสูงอย่างยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โรงงานแคนนอนปราจีนบุรีมีการผลิตด้วยระบบอัตโนมัติที่ทันสมัยและใช้วัสดุรีไซเคิลกว่า 30%

บุกโรงงาน! \'แคนนอน\' ชม ‘สินค้าใหม่’ ใช้ AI- วัสดุรีไซเคิล เพียบ

นอกจากนี้เรายังคงยึดหลักความละเอียดและแม่นยำในการผลิตควบคู่กับการดูแลพนักงาน เพราะเราเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเริ่มต้นจากสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี ปัจจุบัน โรงงานแคนนอนปราจีนบุรี ในประเทศไทยผลิตเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน รุ่น imageRUNNER และ imageRUNNER Advance DX ทั้งหมด 20 รุ่น และกำลังผลิตเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน ในกลุ่ม imageFORCE Series ใหม่เพิ่มเติมอีก 9 รุ่นภายในปี 2568”

imageFORCE Series มอบโซลูชันเพื่อการขับเคลื่อนธุรกิจยุคใหม่

เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันเจเนอเรชันใหม่ล่าสุดจากแคนนอน ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “Make Business Move” โดยไม่เพียงนำเสนอนวัตกรรมการพิมพ์ประสิทธิภาพสูงเท่านั้น แต่เป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์การทำงานในโลกยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในทุกมิติ โดยครอบคลุม 4 แนวคิดหลัก ได้แก่

1)Reliability – มอบคุณภาพที่คุณเชื่อถือได้สูงสุดเพราะผลิตขึ้นในประเทศไทยทั้งหมด ณ โรงงานแคนนอนจังหวัดปราจีนบุรี ภายใต้มาตรฐานระดับโลกและฝีมือแรงงานไทยที่มีคุณภาพ โดดเด่นด้วยฟีเจอร์วิเคราะห์ข้อมูล AI แบบเรียลไทม์ เพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพและแจ้งเตือนการบำรุงรักษาเชิงรุก

2)Security – มอบความปลอดภัยแบบ 360° เพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญผ่านการประเมินความปลอดภัยของระบบอย่างต่อเนื่อง พร้อมแนะนำการตั้งค่าความปลอดภัยที่เหมาะสม ตามสภาพแวดล้อมขององค์กรที่แตกต่างกัน

3)Connectivity – การเชื่อมต่อที่ราบลื่นได้หลายช่องทาง สามารถใช้ร่วมกับบริการ Cloud ชั้นนำ เช่น Google Drive™, Dropbox, OneDrive รวมถึงเชื่อมต่อกับ Microsoft Teams, SharePoint Online และแอปพลิเคชันมือถือ Canon PRINT ได้อย่างง่ายดาย จึงสนับสนุนการทำงานทางไกลแบบไร้รอยต่อ

4)Sustainability – ตอบโจทย์ความยั่งยืนเพื่ออนาคต โดย imageFORCE Series ทุกรุ่นใช้วัสดุรีไซเคิลมาสูงถึง 30% พร้อมเทคโนโลยีช่วยประหยัดพลังงาน เช่น ผงหมึกจุดหลอมเหลวต่ำและระบบหลอมรวมแบบตามความต้องการ รวมถึงผสานแนวคิดรักษ์โลกในทุกขั้นตอนตลอดกระบวนการผลิต

บุกโรงงาน! \'แคนนอน\' ชม ‘สินค้าใหม่’ ใช้ AI- วัสดุรีไซเคิล เพียบ

กลยุทธ์ของส่วนงานแคนนอน บิสซิเนส อิมเมจจิ้ง โซลูชั่น (Business Imaging Solution) ยังคงให้ความสำคัญกับการเสริมความแข็งแกร่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน ซึ่งครอบคลุมโซลูชันด้านการพิมพ์ การจัดการเอกสาร และระบบการทำงานอัตโนมัติในสำนักงาน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในการทำงานยุคไฮบริด

พร้อมมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในทุกภาคส่วนขององค์กร เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงาน สร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า และสร้างความสามารถในการแข่งขันในยุคดิจิทัลนอกจากนี้แคนนอนยังคงมุ่งมั่นผสานเทคโนโลยี AI Smart Maintenance และการผสานการทำงานร่วมกับระบบคลาวด์เพื่อช่วยรวบรวมข้อมูลที่ช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานได้อย่างราบรื่นและมีเวิร์กโฟลว์ที่ราบรื่นยิ่งขึ้น

นายพงศพร กรอบสนิท ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ส่วนงานบิสซิเนส อิมเมจจิ้ง โซลูชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มการทำงานยุคใหม่ชี้ชัดว่า องค์กรให้ความสำคัญกับความร่วมมือในสำนักงาน ความปลอดภัยของข้อมูล ความยั่งยืน และการนำ AI มาใช้มากขึ้น แคนนอนจึงต้องปรับตัวเพื่อส่งมอบโซลูชันที่ตอบโจทย์ทุกมิติของการเปลี่ยนแปลงนี้ จากผลสำรวจตามรายงาน Quocirca: Print Industry Trends 2025 รายงานว่า กว่า 69% ของลูกค้าคาดหวังให้ซัพพลายเออร์หรือพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจมีส่วนร่วมลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ในขณะเดียวกันองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกมีแผน ลงทุนเพิ่มในเทคโนโลยี AI และ Machine Learning แสดงให้เห็นว่าองค์กรในวันนี้ต้องการเทคโนโลยีที่ทั้งชาญฉลาดและยั่งยืน และแคนนอนเชื่อว่าโซลูชันด้านการพิมพ์ในอนาคต ต้องไม่เพียงตอบสนองความต้องการด้านประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ต้องผสานความปลอดภัย ระบบคลาวด์ และความยืดหยุ่นของ Hybrid Work ได้อย่างลงตัว

บุกโรงงาน! \'แคนนอน\' ชม ‘สินค้าใหม่’ ใช้ AI- วัสดุรีไซเคิล เพียบ

ทั้งนี้แคนนอน ครองอันดับ1 ตลาดเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน - เลเซอร์ A3 และ A4 ต่อเนื่อง 7 ปีซ้อนในภูมิภาคเอเชียการเติบโตที่สวนกระแสตลาดด้วยนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรยุคใหม่ ทำให้แคนนอนสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดกลุ่มเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน ในกลุ่มเครื่องถ่ายเอกสารขาวดำ ได้ถึง 28% กลุ่มเครื่องถ่ายเอกสารสีกว่า 20% แม้ภาพรวมตลาดจะมีการเปลี่ยนแปลงตามพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า

อย่างไรก็ตามสำหรับตลาดเครื่องถ่ายเอกสารสีมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2568 คาดว่าจะมียอดจำหน่ายสูงถึง 25,000 เครื่อง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2562 ถึง 127% นอกจากนี้แนวโน้มตลาดในอนาคต ยังคงให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและความปลอดภัยหลัก ดังนั้นโจทย์ของแคนนอนคือไม่เพียงแต่ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพเท่านั้น แต่ยังต้องมองเรื่องของความยั่งยืนควบคู่กันด้วย

อีกทั้งสถานการณ์ในปัจจุบันผู้ใช้งานส่วนใหญ่ยังไม่ลดการพิมพ์ลง มีผู้ใช้งานกว่า 60% มองว่าการพิมพ์เป็นสิ่งจำเป็นในการสื่อสารกับลูกค้า และ 57% เชื่อว่าข้อมูลสำคัญควรนำเสนอในรูปแบบสิ่งพิมพ์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ปัจจัยเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดยังคงมีความต้องการอุปกรณ์ที่มี คุณภาพสูง ปลอดภัย และตอบโจทย์เรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งแคนนอนสามารถตอบสนองได้อย่างครอบคลุม

ดังนั้นภายในปีพ.ศ 2568 นี้ แคนนอนจึงพร้อมเดินหน้าเปิดตัวเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน imageFORCE Series 4 รุ่น ที่ มาพร้อมระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ ช่วยลดความซับซ้อนของกระบวนการทำงาน และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยขั้นสูงที่ช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญขององค์กร มอบประสบการณ์การใช้งานที่ทรงพลัง เข้าใจง่าย และช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดดังนี้

1.imageFORCE C5100 – เครื่องพิมพ์ A3 สีความเร็วสูง รองรับปริมาณงานพิมพ์มาก พร้อมระบบ AI อัจฉริยะ

2.imageFORCE 6100 – เครื่องพิมพ์ A3 ขาวดำ ตอบสนองการใช้งานของทีมงานที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

3.imageFORCE C7165 – เครื่องพิมพ์สี รุ่นเรือธงที่เน้นประสิทธิภาพสูงสุด ครบเครื่องทั้งคุณภาพงานพิมพ์และฟีเจอร์อัจฉริยะแบบจัดเต็ม

4.imageFORCE C3150 – เครื่องพิมพ์สี ดีไซน์กะทัดรัดเหมาะสำหรับออฟฟิศขนาดกลาง และรองรับงานพิมพ์ความเร็วสูงได้ กำหนดวางจำหน่ายในเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

พร้อมกันนี้แคนนอนยังได้นำเสนอ 2 นวัตกรรมใหม่ คือ เทคโนโลยี D² Exposure ที่ใช้อุปกรณ์การผลิตจอแสดงผลไดโอดเปล่งแสงอินทรีย์ (OLED) ในการพิมพ์ มอบคุณภาพงานพิมพ์ระดับพรีเมียม ด้วยสีสันคมชัด ตัวอักษรคมชัดทุกมิติ และความละเอียดสูงถึง 4,800 x 2,400 dpi เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการงานพิมพ์คุณภาพสูงในทุกชิ้นงาน ผลิตภัณฑ์กลุ่ม imageFORCE series คืออีกก้าวสำคัญของแคนนอน ในการสนับสนุนธุรกิจไทยให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน

และพร้อมรับมือกับทุกการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัล และยกระดับการบริการไปอีกขั้นด้วย เทคโนโลยี E2 Analysis การวิเคราะห์ข้อมูลและอัลกอริทึมด้วย AI ช่วยตรวจสอบและแก้ไขปัญหางานพิมพ์ล่วงหน้าได้จากระยะไกลก่อนที่ปัญหาจะเกิดขึ้น ถือเป็นการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (Predictive Maintenance) ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานพิมพ์ ลดความผิดพลาด ลดเวลาหยุดชะงัก (downtime) และค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม  อีกทั้งการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้งานนี้จะช่วยให้ระบบสามารถปรับปรุงข้อผิดพลาดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น รวมทั้งเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับการใช้งานได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต

เดินหน้าสู่พันธกิจเพื่อความยั่งยืนของแคนนอน

แคนนอนยังคงมุ่งมั่นดำเนินพันธกิจในฐานะผู้นำเทคโนโลยีอิมเมจจิ้งระดับโลก ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ธุรกิจทุกประเภท โดยเฉพาะในยุคที่การเชื่อมต่อออนไลน์ ความปลอดภัย และความยั่งยืนกลายเป็นหัวใจสำคัญ ทำให้แคนนอนให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างสมดุลในทุกมิติ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และผู้คน พร้อมเดินหน้าสร้างนวัตกรรมเพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ ใช้งานง่าย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมงานพิมพ์ไทยให้เติบโตสู่อนาคตอย่างยั่งยืน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

related