svasdssvasds

TouristDigiPay ปลดล็อกนักท่องเที่ยวใช้คริปโตแลกบาทเที่ยวไทย

TouristDigiPay ปลดล็อกนักท่องเที่ยวใช้คริปโตแลกบาทเที่ยวไทย

ก.ล.ต. จับมือ 3 หน่วยงานรัฐ เปิดโครงการ Sandbox ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติแลกสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเงินบาทเพื่อใช้จ่ายผ่าน e-money ทั่วไทย คาดเริ่ม Q4 ปี 68

SHORT CUT

  • TouristDigiPay โครงการ Sandbox ที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติแปลงสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเงินบาทผ่านผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาต เพื่อนำไปใช้จ่ายผ่านระบบ e-money ได้ทั่วประเทศ
  • TouristDigiPay ร้านค้าจะไม่ได้รับชำระเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรง แต่จะได้รับเป็นเงินบาทเหมือนธุรกรรมปกติ ซึ่งช่วยรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและลดความซับซ้อนให้กับผู้ประกอบการรายย่อย
  • โครงการ TouristDigiPay มีระยะเวลาทดสอบ 18 เดือน เริ่มคาดการณ์ไตรมาส 4 ปี 2568 พร้อมมาตรการป้องกันการฟอกเงินที่รัดกุม เช่น การยืนยันตัวตน (KYC) และการตรวจสอบแหล่งที่มาของสินทรัพย์ดิจิทัล

ก.ล.ต. จับมือ 3 หน่วยงานรัฐ เปิดโครงการ Sandbox ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติแลกสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเงินบาทเพื่อใช้จ่ายผ่าน e-money ทั่วไทย คาดเริ่ม Q4 ปี 68

ก.ล.ต. ประกาศความร่วมมือกับกระทรวงการคลัง, สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดตัวโครงการ "TouristDigiPay" อย่างเป็นทางการ

โครงการนี้คือพื้นที่ทดสอบนวัตกรรม (Sandbox) ที่จะเข้ามาเปลี่ยนวิธีการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติในประเทศไทย โดยมีระยะเวลาทดสอบ 18 เดือน

TouristDigiPay ปลดล็อกนักท่องเที่ยวใช้คริปโตแลกบาทเที่ยวไทย

ทำความรู้จัก TouristDigiPay คืออะไร?

TouristDigiPay มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มทางเลือกและอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล สามารถแปลงสินทรัพย์เหล่านั้นเป็นเงินบาทเพื่อใช้จ่ายในประเทศได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย ซึ่งคาดว่าจะช่วยดึงดูดเม็ดเงินจากต่างประเทศและสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

TouristDigiPay ปลดล็อกนักท่องเที่ยวใช้คริปโตแลกบาทเที่ยวไทย

หัวใจสำคัญของโครงการนี้คือการ "แลกเปลี่ยน" สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเงินบาท ไม่ใช่การนำสินทรัพย์ดิจิทัลไปใช้ชำระค่าสินค้าและบริการโดยตรง (Means of Payment) กระบวนการทำงานมีดังนี้

  • ยืนยันตัวตน : นักท่องเที่ยวต้องเปิดบัญชีและยืนยันตัวตน (KYC/CDD) กับผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลและผู้ให้บริการ e-money ที่เข้าร่วมโครงการ
  • โอนและขาย : นักท่องเที่ยวโอนสินทรัพย์ดิจิทัลจากกระเป๋าของตนเองมายังผู้ประกอบธุรกิจฯ ในไทย และสั่งขายเพื่อแลกเป็นเงินบาท
  • รับเงินบาทเข้า e-wallet : ผู้ประกอบธุรกิจฯ จะโอนเงินบาทที่แลกได้เข้าไปยังบัญชี e-money ของนักท่องเที่ยว
  • ใช้จ่ายผ่าน QR Code : นักท่องเที่ยวสามารถใช้จ่ายเงินบาทใน e-wallet กับร้านค้าทุกแห่งที่รับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ได้ทั่วประเทศ ตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ไปจนถึงร้านค้ารายย่อย โดยร้านค้าจะได้รับเงินเป็นสกุลบาทตามปกติ

สำหรับเงินบาทที่เหลือในบัญชี e-money นักท่องเที่ยวสามารถแลกกลับเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลได้ โดยจะถูกโอนกลับไปยังกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัลใบเดิมที่โอนเข้ามาเท่านั้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านการฟอกเงิน

นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า โครงการนี้เป็นการต่อยอดจากระบบนิเวศเดิมที่มีอยู่แล้ว ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

โดยมีมาตรการป้องกันความเสี่ยงที่รัดกุม เช่น การทำความรู้จักตัวตนของลูกค้า (KYC/CDD) ตามเกณฑ์ของ ปปง. และการใช้เครื่องมือตรวจสอบบล็อกเชน (Blockchain forensic tools) เพื่อคัดกรองความเสี่ยงของสินทรัพย์ดิจิทัลที่โอนเข้ามา

ทั้งนี้ โครงการ TouristDigiPay จำกัดวงเงินใช้จ่ายกรณีความเสี่ยงต่ำไว้ที่ไม่เกิน 50,000 บาทต่อเดือนต่อคน โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มให้บริการได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2568 และจะมีการประเมินผลหลังสิ้นสุดโครงการเพื่อพิจารณาต่อยอดในอนาคต

 

related