SHORT CUT
ไทยเดินหน้าลุยเรื่องนวัตกรรมใหม่ นำทัพโดยเอ็นไอเอ เร่งเครื่องปั้น Gen Z – Alpha สร้างนวัตกรรมใหม่ AI-ธุรกิจสีเขียวมาแรง-สุขภาพ มาแรงตลาดต้องการ
หลายประเทศกำลังเดินหน้าสร้างนวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโต รวมถึงการใช้นวัตกรรมใหม่ในการอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิต และดำเนินธุรกิจ แน่นอนว่า กลุ่มเด็ก Gen Z และ Gen Alpha ผู้ที่เกิดมาพร้อมกับนวัตกรรมจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ไอเดียใหม่ๆ แล้วนำมาพัฒนาประเทศ ซึ่งประเทศไทยกำลังให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก อย่างเช่น สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เดินหน้าภารกิจสร้างนวัตกรรุ่นเยาว์
พร้อมเสริมทักษะด้านนวัตกรรมครบวงจร ตั้งแต่การคิดเชิงสร้างสรรค์ การแก้ปัญหาเชิงระบบ ไปจนถึงการสร้างโมเดลธุรกิจ ผ่านโครงการ STEAM4INNOVATOR ที่ใช้แนวคิด ‘เรียนรู้จากการลงมือทำจริง’ และ ‘บูรณาการศาสตร์ STEAM’ เพื่อปูพื้นฐานสู่การเป็นผู้ประกอบการนวัตกรรมในอนาคต
ล่าสุดได้มีการจัดงาน ‘STEAM4INNOVATOR’s Day 9.9’ เปิดพื้นที่โชว์ชองสุดเข้มข้นจากนวัตกรรุ่นเยาว์ที่ผ่านกระบวนการพัฒนาทักษะการสร้างนวัตกรรมแบบ STEAM4INNOVATOR ด้วย 22 ผลงานไอเดียเปลี่ยนโลก ทั้งนวัตกรรมสายกรีนและสายสุขภาพที่สะท้อนพลังของ Gen Z ในฐานะ ‘นวัตกรรุ่นใหม่’ ที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมแห่งนวัตกรรม พร้อมร่วมกิจกรรมเวิร์กช็อปโซน ‘ห้องปล่อยของ’ จาก ‘STEAM4INNOVATOR Center’ ทั้ง 19 แห่ง ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนและผู้สนใจได้เรียนรู้ทักษะการเป็นนวัตกรผ่านกระบวนการ STEAM4INNOVATOR
พูดคุยกับ.. ‘ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง’ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ NIA กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ไม่ได้เป็นเพียงผู้ใช้งานเทคโนโลยี แต่เป็นผู้ที่เติบโตมาในโลกของดิจิทัลและ AI ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้มีความได้เปรียบในมุมมองการสร้างสรรค์และแก้ไขปัญหาด้วยนวัตกรรม รวมถึงค่านิยมในการสร้างคุณค่าทางสังคม ทำให้เส้นทางอาชีพในฝันของคนเจเนอเรชันนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในกรอบงานแบบเดิม แต่ขยายไปสู่อาชีพที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีขั้นสูง ความยั่งยืน และการเป็นผู้ประกอบการ
ดังนั้นคนรุ่นใหม่จึงต้องการพื้นที่ทดลองและต่อยอดผลงานนวัตกรรมมากขึ้น NIA จึงมุ่งส่งเสริมให้เยาวชนไทยเติบโตในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ทดลอง และสร้างนวัตกรรม ผ่านโครงการ STEAM4INNOVATOR ที่ออกแบบมาเพื่อ ‘ปลุกพลังนวัตกรรุ่นใหม่’ ให้มีทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 อย่างรอบด้าน พร้อมเสริมทักษะการคิดเชิงสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา และการสร้างโมเดลธุรกิจนวัตกรรม
ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา โครงการได้พัฒนาและวางรากฐานให้ทั้งเยาวชน ครูอาจารย์ ผู้ปกครอง และ สถาบันการศึกษาจนเกิดผลสำเร็จในการสร้างความตระหนักและแรงบันดาลใจให้เยาวชนกว่า 100,000 คน และจำนวนกว่า 1,600 คน ได้รับการพัฒนาศักยภาพที่เข้มข้นจากโครงการสำคัญ เช่น Thailand Innovation Awards, The Health Promotion Innovation Playground, Innovator Journey, STEAM4INNOVATOR Achievement Program จนสามารถก่อตั้งบริษัทเพื่อดำเนินธุรกิจจริงได้ไม่ต่ำกว่า 15 แห่ง
ซึ่งมีการออกแบบการเรียนรู้ในกลุ่มครูผู้สร้างนวัตกรเพื่อการขยายผลมากกว่า 1,200 คน ในสถาบันการศึกษามากกว่า 65 แห่ง ปัจจุบันเกิดศูนย์เครือข่าย STEAM4INNOVATOR CENTER ในกลุ่มโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา สถาบันอาชีวศึกษา และมหาวิทยาลัย 36 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้คนรุ่นใหม่มีทักษะนวัตกร และได้ดำเนินการวางโครงสร้างพื้นฐานและแผนงานที่มุ่งขยายผลให้ทั่วถึงในระดับประเทศอย่างเป็นระบบ โครงการ STEAM4INNOVATOR ไม่เพียงเป็นเวทีให้เยาวชนได้ฝึกคิด ฝึกทดลอง แต่ยังเป็นการปูทางสู่การสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมเยาวชนไทยที่แข็งแกร่ง เพื่อสร้างกำลังคนด้านนวัตกรรมที่ตอบโจทย์อนาคต
ดร.กริชผกา กล่าวเพิ่มเติมว่า NIA จัดงาน “STEAM4INNOVATOR’s Day 9.9” ขึ้น เพื่อให้ครู อาจารย์ นักศึกษา รวมถึงบุคคลภายนอกที่สนใจแลกเปลี่ยนประสบการณ์การสร้างห้องเรียนนวัตกรรม พร้อมโชว์ศักยภาพและผลสำเร็จการพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรมจากนวัตกร Gen Z จำนวน 22 นวัตกรรม ครอบคลุมกลุ่มการสร้างเสริมสุขภาพและกลุ่มธุรกิจสีเขียว
ซึ่งนับเป็นกลุ่มที่คนรุ่นใหม่สนใจและต้องการขับเคลื่อนอย่างจริงจัง เช่น กลุ่มการสร้างเสริมสุขภาพ ได้แก่ Showsmind หน้ากากอนามัยแบบใส (ป้องกันฝุ่น) สำหรับเด็ก สามจักรพรรดิมรณะ แพลตฟอร์มพื้นที่ปลอดภัยทางใจและเติบโตไปพร้อมกับผู้ใช้งาน VapeVerse WaveWorld แพลตฟอร์มเกม VR สร้างภูมิคุ้มกันบุหรี่ไฟฟ้าให้เยาวชน Bokbaek บอร์ดเกมสำหรับครอบครัวที่ช่วยเปิดบทสนทนาระหว่างพ่อแม่กับลูกเพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยทางอารมณ์ และกลุ่มธุรกิจสีเขียว ได้แก่ ระบบติดตามค่าฝุ่นละอองในไซต์งานก่อสร้างแบบเรียลไทม์ผ่านเว็บไซต์ การพัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียจากแผนกไตเทียม WASTE-D Ecosystems นวัตกรรมจัดการขยะชุมชนเพื่อความยั่งยืน เป็นต้น
ไม่เพียงเท่านั้นยังมีกิจกรรมเวิร์กช็อปเสริมทักษะ และเครื่องมือสร้างนวัตกรรุ่นเยาว์จากเครือข่ายครู อาจารย์ ใน “STEAM4INNOVATOR Center” ทั้ง 19 แห่ง ในพื้นที่ ‘ห้องปล่อยของ’ ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยจุดประกายให้เด็กไทยกล้าคิด กล้าทำ แต่ยังเป็นการสร้างฐานกำลังคนด้านนวัตกรรมที่มีคุณภาพ เพื่อพาประเทศไทยก้าวสู่การเป็น ‘ชาตินวัตกรรม’ ตลอดจนเป็นแนวทางเชิงปฏิบัติสำหรับภาคการศึกษากับโอกาสปรับเปลี่ยนหลักสูตรสู่การเรียนรู้เชิงทักษะ ลงทุนในเทคโนโลยีการศึกษาและพื้นที่สร้างสรรค์
อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการทำงานร่วมกับโลกแห่งความเป็นจริง ภาคธุรกิจกับการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยืดหยุ่นให้ความสำคัญกับการออกแบบระบบการทำงานที่สามารถเรียนรู้จากความผิดพลาด และภาครัฐ เช่น NIA กับการมีนโยบายที่ส่งเสริมการกระจายตัวของนวัตกรรมสู่คนแต่ละช่วงวัย ลดอุปสรรคด้านโครงสร้างพื้นฐาน และสร้างกลไกการสนับสนุนที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วนเข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ
นอกจากนี้ ยังมีผลสำเร็จที่เกิดขึ้นภายในโครงการ STEAM4INNOVATOR อีกหลากหลายโครงการ เช่น รางวัลนวัตกรรมแห่งประเทศไทย ที่ NIA จัดร่วมกับสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ และความร่วมมือกับหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนให้สามารถต่อยอดผลงานไปในเชิงธุรกิจนวัตกรรมที่มีศักยภาพออกสู่ตลาดหรือสร้างคุณค่าทางสังคมได้จริง การพัฒนาพื้นที่แห่งนวัตกรรมเพื่อสนับสนุนการสร้างสรรค์นวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
โดยใช้หลักคิดการมีสุขภาพที่ดี "สร้าง นำ ซ่อม" ในการสร้างสรรค์นวัตกรรม ร่วมกับ 10 มหาวิทยาลัยที่เป็นเครือข่ายศูนย์สร้างนวัตกรรุ่นใหม่ ครอบคลุม 4 ภูมิภาค การพัฒนาความสามารถและความร่วมมือด้านนวัตกรรมในกลุ่มเครือข่ายเพื่อการพัฒนาเยาวชน ต้นแบบในการต่อยอดและพัฒนาระบบการปฏิบัติงานแบบสหกิจศึกษาผนวกการเสริมทักษะนวัตกรแบบเข้มข้น ภายใต้แนวคิดเส้นทางนวัตกรรุ่นใหม่...สู่การสร้างธุรกิจสีเขียว และปิดท้ายกับกิจกรรมการพัฒนานวัตกรรุ่นเยาว์ด้วยหลักสูตร STEAM4INNOVATOR ที่ดำเนินการร่วมกับเครือข่ายองค์กรต่างๆ เช่น สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ และ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย เป็นต้น
จากผลสำเร็จในปีนี้ NIA จึงจัดตั้ง ‘กลุ่มงานพัฒนานวัตกรรุ่นเยาว์’ อย่างเป็นทางการ เพื่อให้การทำงานมีโครงสร้างพื้นฐานและแผนงานที่เป็นระบบ สามารถขยายผลในระดับประเทศได้อย่างเข้มแข็ง โดยมีกลยุทธ์การดำเนินการ 2 มิติ คือ ด้านการศึกษา มุ่งเน้นการพัฒนาเยาวชน ครู และศูนย์สร้างนวัตกรรุ่นใหม่ในภูมิภาค ควบคู่กับการทำงานเชิงนโยบาย และด้านอาชีพนวัตกร มุ่งเน้นการพัฒนาระบบอาชีพด้านนวัตกรรม ที่เกี่ยวกับการรับรองระดับความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถ ด้านนวัตกรรม และการสร้างเกณฑ์มาตรฐานอาชีพนวัตกร โดยปี 2569 NIA จะมุ่งขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรุ่นเยาว์
โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการขยายผลอย่างกว้างขวางทั้งในและนอกระบบการศึกษา เพื่อให้เกิดการบ่มเพาะเยาวชนอย่างต่อเนื่องและครอบคลุมมากขึ้น ผ่าน 2 แนวทางหลัก ได้แก่ 1. Education & Occupation System การทำงานร่วมกับบุคคลและองค์กรพันธมิตรทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบการศึกษาและการสร้างงาน
ด้านนวัตกรรมในระดับประเทศ สร้างโอกาสให้เยาวชนสามารถต่อยอดไอเดียไปสู่การประกอบอาชีพจริง และ 2. Learning Management System (LMS) การพัฒนาองค์ความรู้และเครื่องมือการเรียนรู้ที่ทันสมัย โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยจัดการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบ สามารถรองรับผู้เรียนได้จำนวนมาก เปิดโอกาสให้เยาวชนเรียนรู้ได้ด้วยตนเองทุกที่ทุกเวลา และต่อยอดไปสู่การสร้างนวัตกรรมจริงได้อย่างยั่งยืน” ดร.กริชผกา กล่าวสรุป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง