เปิดสงคราม Longevity มหาเศรษฐีเทคฯ ทุ่มแสนล้าน วิจัยยาอายุวัฒนะ
มหาเศรษฐีเทคฯ นำโดย Sam Altman และ Jeff Bezos ที่ทุ่มเงินมหาศาลให้สตาร์ทอัพ Retro Biosciences วิจัย ‘ยาย้อนวัย’ สู่เป้าหมายพิชิตความชรา
SHORT CUT
- กระแสการลงทุนใน Longevity มหาเศรษฐีในซิลิคอนวัลเลย์ เช่น Sam Altman และ Jeff Bezos กำลังทุ่มเงินลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในสตาร์ทอัพเทคโนโลยีชีวภาพ เพื่อวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการย้อนวัยและต่อสู้กับโรคที่เกี่ยวข้องกับความชรา
- Retro Biosciences สตาร์ทอัพที่ Sam Altman หนุนหลัง กำลังจะทดลองยาต้านอัลไซเมอร์ในมนุษย์ โดยใช้แนวคิดกระตุ้นการรีไซเคิลของเสียในเซลล์ และนำ AI จาก OpenAI มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการ "รีโปรแกรมเซลล์" ให้กลับไปอ่อนเยาว์
- ปัจจุบันการพัฒนา Longevity มีหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การก่อตั้งห้องปฏิบัติการวิจัย (Calico Labs), การลงทุนในสตาร์ทอัพ (Altos Labs), การสนับสนุนทางการเงินเพื่อการกุศล ไปจนถึงการทดลองกับร่างกายของตนเองอย่างจริงจัง (Bryan Johnson)
มหาเศรษฐีเทคฯ นำโดย Sam Altman และ Jeff Bezos ที่ทุ่มเงินมหาศาลให้สตาร์ทอัพ Retro Biosciences วิจัย ‘ยาย้อนวัย’ สู่เป้าหมายพิชิตความชรา
Retro Biosciences สตาร์ทอัพด้านชีววิทยาอายุยืน (Longevity) ซึ่งได้รับการสนับสนุนเงินทุนก้อนแรก 180 ล้านดอลลาร์จาก Sam Altman ซีอีโอแห่ง OpenAI ได้ประกาศความคืบหน้าครั้งสำคัญ โดยเตรียมเริ่มทดลองยาต้านอัลไซเมอร์ตัวใหม่ที่ชื่อว่า "RTR242" ในมนุษย์ภายในสิ้นปี 2025 นี้
ยาตัวดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อ "ย้อนวัย" การทำงานของเซลล์ โดยการกระตุ้น Autophagy หรือกระบวนการรีไซเคิลของเสียตามธรรมชาติของเซลล์ ซึ่งมักเสื่อมถอยลงตามอายุ และเป็นสาเหตุของการสะสมโปรตีนผิดปกติในสมองที่เชื่อมโยงกับโรคอัลไซเมอร์และพาร์คินสัน
Joe Betts-LaCroix ซีอีโอของบริษัท ตั้งเป้าหมายสูงสุดคือการเพิ่มช่วงเวลาที่มนุษย์มีสุขภาพดี (Healthy Lifespan) ขึ้นอีก "10 ปี"
ความน่าสนใจของ Retro Biosciences ไม่ได้มีเพียงเทคโนโลยีชีวภาพ แต่ยังรวมถึงการร่วมมือกับ OpenAI เพื่อพัฒนา AI ที่ชื่อว่า GPT-4b micro ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเร่งกระบวนการ "รีโปรแกรมเซลล์" หรือการย้อนวัยเซลล์ต้นกำเนิดให้กลับสู่สภาพอ่อนเยาว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้นถึง "50 เท่า"
ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้มีเพียง Sam Altman เท่านั้น แต่ยังรวมถึงมหาเศรษฐีอีกหลายคนที่กำลังลงทุนในด้าน "Longevity"
Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon เป็นหนึ่งในนักลงทุนของ Altos Labs สตาร์ทอัพคู่แข่งคนสำคัญของ Retro ที่ระดมทุนไปแล้วกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูสุขภาพของเซลล์เช่นกัน
Larry Page และ Sergey Brin สองผู้ร่วมก่อตั้ง Google ได้ก่อตั้ง Calico Labs ตั้งแต่ปี 2013 เพื่อศึกษาและพัฒนายาที่เกี่ยวข้องกับโรคแห่งความชรา โดยบรินได้ทุ่มเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อวิจัยโรคพาร์คินสัน หลังพบว่าตัวเองมียีนกลายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงต่อโรคนี้
Peter Thiel นักลงทุนชื่อดังได้ให้ทุนสนับสนุน Unity Biotechnology และมูลนิธิ Methuselah ที่เน้นการวิจัยด้านการชะลอวัย และมีรายงานว่าเขาได้ลงชื่อกับ Alcor เพื่อทำการแช่แข็งร่างกายหลังเสียชีวิต (Cryonics) ด้วยความหวังว่าจะฟื้นคืนชีพได้ในอนาคต
Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta และภรรยา ได้ก่อตั้ง Breakthrough Prize เพื่อมอบรางวัลให้นักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานวิจัยเกี่ยวกับโรคทางระบบประสาทและการตัดต่อยีน
Bryan Johnson ผู้ประกอบการที่เลือกเส้นทางสุดขั้วด้วยการใช้ชีวิตตามโปรแกรม "Project Blueprint" ที่มีทีมแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งการคุมอาหาร ทานอาหารเสริม และออกกำลังกายอย่างเข้มงวด เพื่อย้อนวัยร่างกายในระดับชีวภาพ
ภารกิจท้าทายความชราของเหล่ามหาเศรษฐีเทคโนโลยีเหล่านี้ กำลังขับเคลื่อนวงการวิทยาศาสตร์ให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และอาจเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของมนุษยชาติในศตวรรษนี้ก็เป็นได้
ที่มา : Business Insider
