
SHORT CUT
EA เริ่มมีการเร่งนำ AI มาใช้ในทุกส่วนงาน หวังลดต้นทุน แต่พนักงานฝ่ายสร้างสรรค์ต่อต้าน หวั่นกระทบความมั่นคงในอาชีพและคุณภาพของเกม
Electronic Arts (EA) กำลังผลักดันการใช้เทคโนโลยี AI เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) อย่างเต็มกำลัง จนกลายเป็นประเด็นถกเถียงรุนแรงภายในองค์กร และเผยให้เห็น "รอยร้าวที่ชัดเจน" ระหว่างฝ่ายบริหารที่กระตือรือร้นและพนักงานที่เต็มไปด้วยความกังวล
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ผู้นำของ EA ได้เรียกร้องให้พนักงานเกือบ 15,000 คน นำ AI มาใช้ในการดำเนินงานประจำวัน ตั้งแต่การเขียนโค้ด, การออกแบบคอนเซปต์อาร์ต ไปจนถึงงานบริหารจัดการที่ละเอียดอ่อน โดยมีเอกสารภายในระบุให้พนักงานใช้เครื่องมืออย่าง ReefGPT (แชทบอทของบริษัท) ในฐานะ "คู่คิด"
การผลักดันครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่กว้างขึ้นของ EA เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ท่ามกลางแรงกดดันทางการเงิน หลังจากกำไรสุทธิลดลง 9.4% ในปีงบประมาณล่าสุด และลดลงถึง 28% ในไตรมาสสุดท้าย
แรงกดดันนี้ยิ่งชัดเจนขึ้นหลังจากการเข้าซื้อกิจการมูลค่า 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยกลุ่มทุนที่นำโดยกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (PIF) ของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมีรายงานว่ากลุ่มทุนใหม่นี้ต้องการประสิทธิภาพที่สูงขึ้น โดยวงในชี้ว่าการนำ AI มาใช้ก็เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงานและตอบสนองความคาดหวังของนักลงทุน
แม้ผู้บริหารจะตื่นเต้น แต่พนักงานกลับมีปฏิกิริยาหลากหลาย ตั้งแต่การตั้งข้อสงสัยไปจนถึงการต่อต้านอย่างเปิดเผย พนักงานหลายคนชี้ว่า AI มักสร้างโค้ดที่ผิดพลาดและให้ข้อมูลที่ "หลอน" ซึ่งต้องใช้คนมาแก้ไข ทำให้ขั้นตอนการทำงานซับซ้อนขึ้นแทนที่จะง่ายลง
ความกังวลยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อพนักงานฝ่ายสร้างสรรค์ถูกคาดหวังให้ "ฝึก" โมเดล AI ด้วยผลงานของตนเอง ทำให้เกิดความกลัวเรื่องความมั่นคงในอาชีพ โดยเฉพาะในกลุ่มศิลปินออกแบบตัวละครและนักออกแบบด่าน
สถานการณ์ตึงเครียดใน EA สะท้อนภาพรวมของอุตสาหกรรมเกม ที่การนำ AI มาใช้เกิดขึ้นพร้อมกับการเลิกจ้างครั้งใหญ่ (ประมาณ 14,600 ตำแหน่งในปี 2024) ข้อมูลสถิติได้ยืนยันถึงช่องว่างนี้ระหว่างผู้บริหารและพนักงาน
แม้ว่า Andrew Wilson ซีอีโอของ EA จะย้ำต่อนักลงทุนว่า AI คือ "แกนหลักของธุรกิจ" แต่ในรายงาน SEC ประจำปีของบริษัทเองก็ยอมรับถึงความเสี่ยง ทั้งด้านจริยธรรม สังคม กฎหมาย และชื่อเสียง หากจัดการไม่ถูกต้อง
ผู้เชี่ยวชาญอย่าง Jackson G. Lu จาก MIT Sloan แนะนำว่า องค์กรควรให้ AI ทำงานด้านตัวเลขหรือการคาดการณ์ก่อน และค่อยๆ ผสานเข้ากับงานสร้างสรรค์ โดยยังคงให้ "มนุษย์มีส่วนร่วมในการตัดสินใจในงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์สูง"
ที่มา : techspot