ที่สุดแห่งปีกับ 10 ข่าวดังของวงการบันเทิงไทย สุข เศร้า สูญเสีย ดราม่า เซอร์ไพร์ส และหมดอนาคต ครบทุกรสในปี 2562
มีหลายเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี 2019 สำหรับวงการบันเทิงประเทศไทย โดยคละเคล้าอารมณ์กันไป ไม่ว่าจะมีทั้งทุกข์ สุข ดีใจ เสียใจ หรือเป็นเรื่องราวที่ทำเอาแฟนคลับอย่างเราๆ แอบช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้นไปตามๆ กัน อย่างวันนี้ ทีมข่าวบันเทิง สปริงนิวส์ ออนไลน์ ได้รวบรวมเรื่องราวข่าวดังสะเทือนวงการที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี 2562 ที่ทำเอาคนไทยที่ได้รับรู้ถึงกับ อึ้ง ช็อค ดราม่า และ เซอร์ไพร์ส หรือแม้แต่บางเรื่องที่สามารถเก็บเป็นบทเรียนเพิ่มอีกหนึ่งบทในชีวิตก็ว่าได้
จากคู่รักสุดหวานที่ดูยังไงก็ไม่มีทีท่าว่าจะเดินทางมาถึงจุดจบ กลับกลายเป็นคู่ที่จบความรักได้สะเทือนวงการที่สุดในปี 2019 สำหรับคู่ของ "แพทริเซีย ธัญชนก กู๊ด" และ "พีช พชร จิราธิวัฒน์" เมื่อมีข่าวลือหลุดออกมาว่า พระเอกไฮโซถูกนางเอกสาวลูกครึ่งสะบั้นรัก โดยฝ่ายชายเป็นคนจับได้ว่าฝ่ายหญิงหนีไปมีหนุ่มคนใหม่ จากความสงสัย พัฒนาไปสู่การหาคำตอบ พีช พชร จึงได้ออกมายืนยันเป็นครั้งแรกว่า "ความรักยังแฮปปี้ดี และข่าวลือที่ออกมาก็ไม่ได้มีผลกระทบใดๆ"
แต่หลังจากที่ "พีช พชร" ออกมาให้สัมภาษณ์ได้เพียงไม่นานก็มีภาพหลุดระหว่าง "แพทริเซีย" และไฮโซหมื่นล้าน "โน้ต วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์" บวกกับในช่วงเวลานั้นตรงกับวันคล้ายวันเกิดของฝ่ายหญิงพอดี แต่กลับไร้เงาหนุ่มพีชเดินทางไปร่วมงาน จึงยิ่งทำให้เรื่องราวความรักของทั้งคู่ถูกหยิบขึ้นมาพูดถึงอีกครั้ง และครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะทวีความรุนแรงมากกว่าเดิมหลายเท่า กระทั่งในที่สุด "พีช พชร" ต้องออกมาให้สัมภาษณ์เพื่อเคลียร์เรื่องดังกล่าวต่อหน้าสื่อ โดยครั้งนี้เจ้าตัวได้รับสารภาพแบบเต็มปากว่า
ข่าวลือที่บอกว่าตนได้เลิกรากับนางเอกสาวคนรักทั้งหมดเป็นเรื่องจริง และเกิดขึ้นจากปัญหาส่วนตัวระหว่างคนสองคนที่ไม่สามารถซ่อมได้ ส่วนเรื่องมือที่สามนั้นตนไม่ขอพูดถึง เนื่องจากว่าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันแล้ว จนมาถึงคิวของ "แพทริเซีย" ซึ่งเธอได้ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าเธอกับ "พีช พชร" มีปัญหากันมาได้สักระยะหนึ่งแล้วก่อนที่จะตัดสินใจจบสถานะคนรัก ซึ่งปัญหาที่ว่านั้นก็ไม่ใช่เรื่องของมือที่สาม และการที่ "โน้ต วิเศษ" เข้ามาสนิทสนมกับเธอก็ไม่ใช่การคบซ้อนอย่างที่หลายคนเข้าใจ เพราะอีกฝ่ายเข้ามาในตอนที่เธอกับ "พีช พชร" ได้เคลียร์ทุกอย่างอย่างชัดเจนที่สุดแล้ว
ดังในทางลบแบบชั่วข้ามคืนสำหรับชื่อของ "ชิงชิง คริษฐา" นักแสดงสาวหน้าใส หลังเจ้าตัวตกเป็นข่าวฉาวในประเด็นที่ถูกชาวเน็ตโยงว่า อาจจะเป็นมือที่ 3 ที่เข้ามาแทรกกลางความสัมพันธ์ของคู่รัก "เวียร์ ศุกลวัฒน์" และ "เบลล่า ราณี" ซึ่งจุดเริ่มต้นของดราม่าครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเพจเมาท์ดาราชื่อดัง ปล่อยข่าวอักษรย่อออกมาในทำนองว่า พระเอกเบอร์ต้นซึ่งเป็นแฟนของนางเอกชื่อดัง ถูกจับโป๊ะกำลังแอบคบนักแสดงสาวรุ่นน้องร่วมช่อง
โดยเหตุผลหลักที่ทำให้ "ชิงชิง คริษฐา" ตกเป็นเป้าในประเด็นอักษรย่อดังกล่าวก็เป็นเพราะหลายๆ ภาพที่เจ้าตัวโพสต์ลงบนอินสตาแกรม และแคปชั่นที่เขียนบรรยาย ล้วนแต่มีความเชื่อมโยงไปยังหนุ่มเวียร์ ซึ่งภายหลังทางชิงชิงก็ได้ออกมาเคลียร์ประเด็นดราม่าดังกล่าว โดยเธอยืนยันว่าสถานะระหว่างเธอกับหนุ่มเวียร์เป็นเพียงแค่พี่น้องกันเท่านั้น จากที่ดราม่าเรื่องนี้น่าจะเดินทางมาถึงตอนจบ กลับกลายเป็นว่าทั้งหมดเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
เมื่อนางเอกซุปตาร์ "เบลล่า ราณี" ออกมาให้สัมภาษณ์แบบหนังคนละม้วนว่า ไม่เคยเจอ ไม่เคยพบ และไม่เคยคุยกับสาวชิงชิงมาก่อน พร้อมกับทิ้งท้ายเอาไว้ด้วยว่า "แต่ละคนน่าจะต้องรู้ว่าตัวเอง ควรหรือไม่ควรจะทำอะไร" ซึ่งเป็นเหตุให้ชื่อของชิงชิงถูกนำกลับมาพูดถึงอีกครั้ง แถมครั้งนี้เธอยังโดนกระแสโจมตีรุนแรงกว่าครั้งก่อน ท้ายที่สุดหลังจากที่ดราม่าครั้งนี้ส่งผลเสียต่อบุคคลหลายฝ่ายจึงทำให้ "เวียร์ ศุกลวัฒน์" ก็ได้ออกมาเคลียร์ความบริสุทธิ์ใจด้วยตัวเองว่า ข่าวทั้งหมดไม่เป็นความจริง และตนก็สนิทกับชิงชิงผ่านเพื่อนเท่านั้น ที่สำคัญเจ้าตัวก็มีแค่นางเอกสาวเบลล่าเป็นที่หนึ่งในใจเพียงคนเดียว
ดราม่าที่ทำเอาอึ้งไปตามๆ กัน เมื่อศิลปินลูกทุ่งหมอลำ "ศิริพร อำไพพงษ์" ออกมาโพสต์ข้อความแจ้งข่าวกับแฟนๆ ผ่านทางเฟซบุ๊ก ถึงธุรกิจคลินิกเสริมความงามที่ทำร่วมกันกับลูกสาวบุญธรรม น้องอร อรนภา ด้วยข้อความที่เป็นชนวนเหตุแห่งดราม่าครั้งนี้ว่า "พรนิต้าคลินิก ปิดให้บริการถาวรแล้วนะคะ อย่าหลงไปทำ ทุกอย่างมีกฎหมาย หยุดเอาชื่อพี่นางไปแอบอ้างได้แล้วนะคะ" แต่กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่คนอยากรู้มากกว่านั่นก็คือความสัมพันธ์ระหว่าง "น้องอร" และ "โก้ ธนชาติ" ผู้เป็นพ่อบุญธรรม เนื่องจากในช่วงเวลาเดียวกันนั้นได้มีข่าวลือว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเกินเลยไปกว่าที่เห็น
ภายหลังทางด้านของ "น้องอร" อดีตลูกสาวบุญธรรมที่ตกเป็นข่าวฉาวได้มีออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงซึ่งเธอยืนยันชัดเจนว่า ไม่ได้มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวใดๆ กับผู้เป็นพ่อบุญธรรม จะมีก็แต่การดูแลสุขภาพให้กันเท่านั้น เนื่องจาก "โก้ ธนชาติ" กำลังป่วยด้วยโรคมะเร็งลำไส้ ระยะที่ 4 พร้อมกันนั้น "น้องอร" ยังเล่าต่อว่า เรื่องราวทั้งหมดที่เธอมองว่าเกิดขึ้นจากความเข้าใจผิดนั้น มีสาเหตุหลักมาจากบุคคลที่ 3 ที่เข้ามาทำการตีสนิท "ศิริพร อำไพพงษ์" โดยการใช้คำพูดยุยงให้คนในบ้านแตกคอกัน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ของทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นปกติมานานนับ 10 ปี โดยที่ไม่เคยมีปัญหาใดๆ
ซึ่งหลังจากที่ "น้องอร" ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ได้ไม่นานทางด้านของ "ศิริพร อำไพพงษ์" ก็ได้ออกมาพูดถึงเหตุการณ์ทั้งหมดจากฝั่งของเธอ โดยเธอเผยว่ารู้สึกเจ็บปวดมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น และที่สำคัญคือเธออยากจะบอกว่าอย่าทำให้เธอต้องพูด เนื่องจากมีความจริงเก็บไว้ในอก และเธอเองก็อยากให้อีกฝ่ายหยุดได้แล้วก่อนจะถามซ้ำ ๆ กับตัวเองว่า "ศิริพรโง่เหรอ? ทำอะไรกับศิริพรเอาไว้มันหนัก แต่ที่ทนก็เพราะรักเพราะเลือกเอง"
จุดเริ่มต้นของคำว่าโลก 2 ใบ สืบเนื่องมาจากเรื่องราวความรักที่เป็นความลับของนักร้องหนุ่มอารมณ์ดี "ป๊อบ ปองกูล" หลังภาพถ่ายบรรยากาศงานมงคลสมรสระหว่างเจ้าตัวกับ "อาจารย์ปลา" แฟนสาวนอกวงการที่คบหาดูใจกันมานานนับ 10 ปี ถูกแชร์ต่อกันในโลกออนไลน์ และสิ่งที่เกิดขึ้นตามมานั้นเมื่อ "โบว์" สาวสวยอีกคนที่มีสถานะเป็นแฟนของนักร้องหนุ่ม ซึ่งคบหาดูใจกันมานานกว่า 10 ปี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงภาพการแต่งงานของ "ป๊อบ ปองกูล" ในทำนองว่า "อย่าส่งมาถามอะไรโบว์ตอนนี้เลย โบว์คงไม่ได้ตอบ เพราะโบว์เองก็รู้พร้อมทุกคนเหมือนกัน" และจากนั้นไม่นานเรื่องนี้ก็กลายเป็นที่จับตามองของสังคมว่า แท้จริงแล้วความสัมพันธ์ระหว่าง 3 คน คืออะไรกันแน่?
สุดท้าย "ป๊อบ ปองกูล" ก็ได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวเพื่อชี้แจงรายละเอียดทุกเรื่องที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าตัวกับผู้หญิงทั้ง 2 คน ซึ่ง ป๊อบยอมรับว่า ทั้งหมดเป็นความผิดของตนเองที่ขี้ขลาด ซึ่งที่ผ่านมาตนรู้สึกรังเกียจตัวเองมาตลอดที่เป็นคนแบบนี้ และต้องขอโทษด้วยสำหรับทุกอย่าง ขอโทษสำหรับตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ที่ไม่ทำทุกอย่างให้ถูกต้อง รวมไปถึงการที่ตนสร้างโลกขึ้นมา 2 ใบขึ้นมา โดยที่คนรักทั้งสองไม่เคยรับรู้
และอีกหนึ่งเรื่องช็อกสะเทือนวงการมากเมื่ออดีตนางสาวไทย ปี 2535 "อรอนงค์ ปัญญาวงศ์" ออกมาโพสต์ภาพโชว์ใบหย่า กับสามีหนุ่มนักธุรกิจ ประกาศปิดฉากชีวิตรัก 26 ปี ลงด้วยน้ำตา เพราะปัญญาเรื่องมือที่สาม ที่เข้ามาแทรกแซงชีวิตรัก ที่อรอนงค์บอกว่าจบแบบนี้ดีที่สุดแล้วดีกว่ายื้อกัน อรอนงค์กลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่หลังจากปาดน้ำตาเสร็จก็ต้องสตรองเดินหน้าเลี้ยงลูกชายทั้งสองคนต่อไป และยังชัดเจนว่าไม่ปิดกั้นเรื่องหัวใจด้วยหากจะมีใครเข้ามา
อีกหนึ่งข่าวสุดช็อคของและตามมาด้วยการสูญเสียเมื่อนักแสดงสาว "น้ำตาล บุตรศรัณย์ ทองชิว" หรือ "น้ำตาล เดอะสตาร์" ที่มีภาวะเลือดออกจากปากและจมูกโดยไม่ทราบสาเหตุ จนเจ้าตัวสลบและหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน และนอนรักษาตัวในห้อง ICU แต่ปาฏิหาริย์ก็ไม่มีจริง เพราะในที่สุดน้ำตาลก็ได้จากไปอย่างสงบ ทั้งนี้ทางทีมแพทย์ผู้รักษาได้เผยสาเหตุของโรคประหลาดที่เกิดขึ้นกับน้ำตาลให้ฟังภายหลังว่า เธอป่วยเป็นวัณโรคหลังโพรงจมูก ซึ่งเป็นโรคที่ไม่ค่อยแสดงอาการอะไรออกมาให้ทราบ และพบเจอโรคดังกล่าวในประเทศไทยเพียงแค่ 39 คนเท่านั้นเอง
ต่อมาคือนักแสดงหนุ่ม "เหม ภูมิภาฑิต นิตยารส" ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลงที่คอนโด ในขณะเดียวกันก็มีกระแสข่าวลือออกมาต่างๆ นานา ถึงสาเหตุการที่ เหมต้องเลือกจบชีวิตด้วยตัวเอง โดยบางกระแสอ้างว่ามีเรื่องของเงินทองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่มีใครฟันธงได้ชัดเจน โดยทางครอบครัวได้ออกมาเผยว่า หนุ่มเหมมีภาวะป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เคยเขียนจดหมายลาตายส่งให้น้องสาว แต่ก็ไม่คิดว่าครั้งนี้จะเกิดขึ้นจริง
อีกหนึ่งเรื่องที่ช็อควงการบันเทิงไทย เมื่อมีอดีตนักร้องชื่อดังในยุค 90 อย่าง "ปุ๊กกี้ ปริศนา พรายแสง" หรือ "ปุ๊กกี้ ชาลาล่า" และแฟนหนุ่ม ถูกตำรวจกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด (ปส.) เข้าตรวจค้นและจับกุมที่บ้านพักย่านรามอินทรา พร้อมของกลางเป็นยาเค หรือเคตามีน จำนวน 5.2 กิโลกรัม และในเวลาต่อมาก็ทำให้ช็อคอีกรอบ เมื่อมีการรายงานความคืบหน้า ปุ๊กกี้ เป็นคนจัดหาและผลิตยาเสพติดให้กับแก๊งค้ายาที่ไต้หวัน โดยเจ้าตัวยอมรับทั้งเสพและค้ายาจริง ทำให้อนาคตในวงการดับวูบลงทันที
จากปีแห่งความสุข เพราะเป็นปีที่ "ดีเจแมน พัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา" ได้จูงมือแฟนสาวเจ้าของฉายาลูกทุ่งสั้นเสมอหู "ใบเตย อาร์สยาม" เข้าพิธีวิวาห์กลับกลายเป็นปีที่ ดีเจแมน ต้องเจอมรสุมครั้งใหญ่ เมื่อชื่อของเจ้าตัวก็ถูกนำไปเชื่อมโยงกับ "คดีแชร์ FOREX 3D" ในทำนองว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกันในฐานะผู้บริหาร เนื่องจากมีชาวเน็ตขุดภาพถ่ายร่วมเฟรมระหว่างเจ้าตัว กับ "นายอภิรักษ์ โกฎธิ" ผู้ชักชวนประชาชนให้ร่วมลงทุนในแชร์ FOREX 3D ขณะนั่งประชุมอยู่ในห้องเดียวกันออกมาเผยแพร่
ในขณะเดียวกันยังมีข่าวลือตามมาอีกว่าพิธีแต่งงานสุดอลังการระหว่าง "ดีเจแมน" กับ "ใบเตย" ทั้งคู่ได้นำเงินของผู้เสียหายในคดีแชร์ FOREX 3D มาใช้ในการจัดงาน จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความเสียหายให้กับชื่อเสียงของ ดีเจแมน และ ใบเตย เป็นอย่างมาก กระทั่ง คดีแชร์ FOREX 3D ได้ถูกพิจารณารับเรื่องให้เป็นคดีพิเศษ ภายใต้ความดูแลของดีเอสไอ ทั้งคู่จึงได้ออกมาแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลอย่างเป็นทางการ ถึงความสนิทสนมที่มีต่อ นายอภิรักษ์ โกฎธิ และประเด็นดราม่าเกี่ยวกับเงินที่ใช้ในการจัดงานวิวาห์ รวมถึงเงินใส่ซองจำนวนมหาศาล
นักแสดงมาดกวน "แทค ภรัณยู" หลังจากมีข่าวว่าเตรียมวิวาห์แฟนสาวสายฟ้าแล่บ และหลังจากนั้นก็มีภาพแทคเข้าพิธีวิวาห์กับสาวสวย "เบลล์ อดิราภ์ เองตระกูล" และเจ้าตัวออกมาประกาศข่าวดีอีกเรื่องคือ สาวเบลล์นั้นกำลังตั้งครรภ์อยู่ จนคลอดลูกชายคนแรก "น้องภารัน" มาเป็นโซ่ทองคล้องใจ และเวลาผ่านไปไม่นานก็มีข่าวว่าความสัมพันธ์ของหนุ่มแทคและสาวเบลล์ได้เปลี่ยนไป ปัจจุบันได้แยกกันอยู่แล้วหลังจากใช้ชีวิตคู่กันมาระยะหนึ่ง แต่ทั้งคู่ยังคงโฟกัสและตั้งใจจะเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด
ปิดท้ายด้วยเรื่องราวน่ายินดี ปี 2019 ที่ทำให้แฟนคลับนางงามรวมถึงคนไทยทั่วไปดูจะหัวใจพองโต เพราะตัวแทนสาวไทยที่ส่งออกไปประกวดเวทีระดับอินเตอร์นั้น ได้ไปสร้างผลงานได้อย่างน่าประทับใจ เริ่มจาก "บิ๊นท์ สิรีธร" สามารถไปคว้ามงกุฎในการประกวดที่เวที Miss International 2019 จากประเทศญี่ปุ่นโดยบิ๊นท์เป็นสาวไทยคนแรกที่ได้ครองมงกุฎจากเวที Miss International 2019 ได้ในรอบ 59 ปี
ต่อมาเป็นคิวของสาวลูกครึ่ง ไทย-เดนมาร์ก "แอน แอนโทเนีย โพซิ้ว" ก็ได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้ามงกุฎจากเวทีประกวด Miss Supranational 2019 ซึ่งเป็น 1 ใน 5 เวทีระดับแกรนด์สแลมของโลก และยังเป็นสาวไทยคนแรกที่คว้ามงกุฎจากเวทีนี้ตั้งแต่มีการจัดการประกวดมาในรอบ 11 ปี อีกด้วย
จากนั้นในเดือนเดียวกันคนไทยก็เกือบจะได้เฮดังๆ อีกครั้งเมื่อ "ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ๊น" สาวลูกครึ่งไทย-แคนาดา Miss Universe Thailand 2019 สามารถทะลุเข้ารอบ 5 คนสุดท้าย ในการประกวด Miss Universe ณ เมือง แอตแลนต้า ประเทศสหรัฐอเมริกา สร้างปรากฎการณ์นางงามไทยฟีเว่อร์และนับว่าเป็นปีทองของวงการนางงามไทยเลยทีเดียว