"แม่นกน้อย อุไรพร" เคลียร์ดราม่า หลังถูกชาวเน็ตวิจารณ์หนักมีทรัพย์สิน 100 ล้านแต่ยังขอรับบริจาค พร้อมเผยเหตุทำไมไม่มีเงินเก็บ
จากดราม่าเถียงกันสนั่นโซเชียล ปมเปิดรับบริจาคของ นกน้อย อุไรพร หัวหน้าหมอลำคณะเสียงอิสาน ที่ได้เผยปัญหาชีวิต สามีป่วยหนัก ต้องขายบ้านตองห้า เพื่อรักษาวงดนตรีครอบครัวเสียงอิสานไว้ ทำให้มีแฟนคลับต่างพากันโอนเงินเพื่อเป็นกำลังใจให้ แต่ไม่วายกลับเจอดราม่า มีชาวเน็ตติงแรงพากันวิพากษ์วิจารณ์สนั่น ในทำนองว่า ไม่ควรเปิดรับบริจาค เพราะแม่มีทรัพย์สินเกือบ 100 ล้าน และมีทรัพย์สินอื่นๆ ที่สามารถขายเป็นเงินได้ มีคนอื่นลำบากกว่าเยอะ
โดยล่าสุด แม่นกน้อย ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พร้อมเคลียร์ทุกเรื่องราวดราม่า ระบุว่า "แม่ได้เข้าไปอ่านทุกคอมเมนต์ บางคอมเมนต์ที่บอกว่าทำแบบนี้เลยเหรอ รับบริจาคเหมือนขอทาน แต่แม่องค์กรใหญ่ ครอบครัวใหญ่ ถ้าไม่มีงาน เงินที่ลงทุนไป ธุรกิจทุกอย่างก็มีความเสี่ยง ตอนนี้เจอพิษโควิดและพิษเศรษฐกิจ"
"อยากชี้แจงเรื่องบัญชี จริงๆแล้วแม่นกน้อย พยายามช่วยให้อยู่ได้ยั่งยืน ไม่ใช่ว่าอยากรับน้ำใจหรือบริจาคค่ะ แต่ถามว่าทำไมต้องเป็นบัญชีแม่นกน้อย ที่ปักเลขบัญชีไว้ ขอชี้แจงบัญชีนี้ไว้สำหรับขายสินค้า ทำทุกอย่างในครอบครัวเสียงอิสาน เพื่อให้เป็นเม็ดเงินเข้ามาช่วยตัวเอง จึงใช้เลขบัญชีนี้ ก็ต้องรับแรงเสียดทาน เพราะมีทั้งคนรักและคิดลบ ต้องขอบคุณทุกคนที่เข้ามารับแรงเสียดทานให้แม่"
"แม่ไม่โกรธคนที่เข้ามาคอมเมนต์ดังกล่าว ซึ่งแม่ไม่มีเงิน แต่มีบ้าน มีทุกอย่าง ล้วนแล้วแต่เป็นหนี้สิน และที่มีคนบอกว่าแม่นกน้อย ทำไมไม่ขายของ ใครจะซื้อ แม่ก็พร้อมถ้ามีคนจะช่วย และก็มีบางคอมเมนต์บอกแก่แล้ว ทำไมไม่หยุดทำงาน เรื่องนี้แม่ไม่ได้หวง รวมถึงมีคนเสนอมาว่า อยากเทคโอเวอร์วงเสียงอิสาน อยากช่วย แม่ก็เต็มใจ แต่สิ่งที่แม่ประกาศขายบ้านตองห้าหลังนี้ เพื่อช่วยต่อลมองค์กรเสียงอิสาน ช่วยยื้อลมหายใจพ่อหลอด ส่วนที่เหลือใช้หนี้ทั้งในระบบ นอกระบบ"
"ถ้าขายบ้านได้ จะนำเงินตั้งมูลนิธิภาคีเครือข่าย เพื่อช่วยเหลือหัวหน้าหมอลำคณะอื่นๆ ศิลปินที่เจ็บป่วย ได้ดูแลกัน เพราะยังจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับวงหมอลำหลายคณะ ส่วนคำถามที่ว่าตอนช่วงขาขึ้นทำไมไม่เก็บเงิน อยากจะบอกว่าเราเป็นผู้บริหาร ทุกอย่างมีรายจ่าย เมื่อไม่มีงานเข้ามา ยังไงเงินก็ต้องหมด เพราะเหตุนี้แม่จึงอยากช่วย ไม่ใช่แค่ครอบครัวเสียงอิสาน แต่หมอลำคณะอื่นด้วย เมื่อเวลามีปัญหา"