'ซาอุฯ-ยูเออี' ประกาศใช้ 'ภาษีมูลค่าเพิ่ม' เป็นครั้งแรก!

  ‘ซาอุดิอาระเบีย’ และ ‘สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์’ ประกาศใช้ ‘ภาษีมูลค่าเพิ่ม’ หรือ ‘แวท (VAT)’ ตั้งแต่ปีใหม่นี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของประเทศอ่าวอาหรับที่ประกาศตนมาตลอดว่า เป็น ‘ประเทศปลอดภาษี’ และมีระบบสวัสดิการให้ประชาชนตั้งแต่เกิดจนตาย     ‘ภาษีมูลค่าเพิ่ม’ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงคืนวันอาทิตย์ (31 ธ.ค. 60) เข้าสู่วันจันทร์ (1 ม.ค. 61) ทำให้ราคาน้ำมันสำหรับผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะพุ่งสูงขึ้น 127% ทันที มาตรการดังกล่าวถือเป็น 1 ในมาตรการของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในอ่าวอาหรับ ที่ใช้มาช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นรายได้และลดค่าใช้จ่าย อันสืบเนื่องมาจากราคาน้ำมันโลกตกต่ำ ส่งผลให้แต่ละชาติมีงบประมาณขาดดุลมหาศาล     ภาษีการขาย 5% นี้ บังคับใช้กับสินค้าและบริการเกือบทั้งหมด ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า รัฐบาลของทั้ง 2 ชาติ จะได้รายได้เพิ่มราว 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 700,000 ล้านบาท ในปีนี้ เทียบเท่า 2% ของจีดีพี แต่แน่นอนว่า มาตรการนี้ก็สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงใน 2 ประเทศ ที่ขึ้นชื่อว่า ร่ำรวยมาก เช่น ‘ดูไบ’ ได้จัดเทศกาลชอปปิงประจำปีมาเป็นเวลานานแล้ว เพื่อดึงดูดนักชอปจากทั่วโลกเข้ามา     ขณะที่ อีก 4 ประเทศอ่าวอาหรับ คือ บาห์เรน, คูเวต, โอมาน และกาตาร์ ก็มีนโยบายที่จะใช้ ‘มาตรการภาษีมูลค่าเพิ่ม’ เช่นกัน แต่ชะลอการบังคับใช้ออกไปจนถึงต้นปี 2562 ทั้งนี้ รัฐบาลซาอุดิอาระเบียกำลังเผชิญปัญหางบประมาณขาดดุลถึง 2.6 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 8.8 ล้านล้านบาท ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา และคาดว่า ไม่น่าจะกลับมาสู่ภาวะงบประมาณสมดุลได้จนกว่าจะถึงปี 2566