svasdssvasds

มหากาพย์คิม-ทรัมป์ จากขู่สู้รบ สู่โต๊ะเจรจา

มหากาพย์คิม-ทรัมป์ จากขู่สู้รบ สู่โต๊ะเจรจา

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประกาศแล้วว่าจะประชุมสุดยอดร่วมกับนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือที่สิงคโปร์ วันที่ 12 มิถุนายนนี้ แต่กว่าที่ผู้นำสองประเทศนี้ จะก้าวมาถึงโต๊ะเจรจาได้นั้น ต้องยอมรับว่า ต่างฝ่ายต่างยั่วยุ ข่มขู่ และวาทกรรมกันมายาวนานทีเดียว นับแต่ต้นปีที่แล้ว

วันที่ 1 มกราคม 2017 คิม จอง อึน ปราศรัยในโอกาสวันปีใหม่ว่า เกาหลีเหนือพร้อมทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปแล้ว วันต่อมาโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่ปล่อยให้ขีปนาวุธเกาหลีเหนือโจมตีถึงสหรัฐฯแน่นอน

ผ่านมา 7 เดือน วันที่ 4 กรกฎาคม ปีที่แล้ว เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป ฮวาซอง 14 พร้อมประกาศกร้าว นี่เป็นของขวัญให้สหรัฐฯเนื่องในวันชาติ

มหากาพย์คิม-ทรัมป์ จากขู่สู้รบ สู่โต๊ะเจรจา

วันที่ 28 กรกฎาคม 2017 เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปอีกลูก ด้วยพิสัยยิงไกลถึงแผ่นดินใหญ่สหรัฐฯ รวมถึงเมืองใหญ่อย่างนครชิคาโกด้วย

วันที่ 9 สิงหาคม 2017 ทรัมป์ประกาศกร้าว เกาหลีเหนืออย่าเหิมเกริมมากนัก มิเช่นนั้น จะเผชิญกับไฟและความโกรธเกรี้ยวอย่างที่โลกไม่เคยเห็นมาก่อน หลังเกาหลีเหนือขู่จะยิงขีปนาวุธไปยังเกาะกวม ซึ่งเป็นดินแดนโพ้นทะเลของสหรัฐฯ

มหากาพย์คิม-ทรัมป์ จากขู่สู้รบ สู่โต๊ะเจรจา

วันที่ 29 สิงหาคม เกาหลีเหนือไม่หวาดเกรงคำขู่ ยิงขีปนาวุธ แต่ผ่านน่านฟ้าเหนือญี่ปุ่น ไม่ใช่เกาะกวม ต่อมาไม่นาน วันที่ 3 กันยายน เกาหลีเหนือทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 และครั้งที่รุนแรงที่สุด เป็นระเบิดไฮโดรเจน ที่อ้างว่าออกแบบสำหรับติดตั้งบนขีปนาวุธข้ามทวีป

วันที่ 22 กันยายน คำว่า มนุษย์จรวด หรือร็อคเก็ตแมน หลุดออกมาจากปากนายทรัมป์ กลางการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ด้วยคำขู่ว่าจะทำลายเกาหลีเหนือให้สิ้นซาก

มหากาพย์คิม-ทรัมป์ จากขู่สู้รบ สู่โต๊ะเจรจา

มหากาพย์คิม-ทรัมป์ จากขู่สู้รบ สู่โต๊ะเจรจา

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2017 เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปครั้งที่ 3 ในรอบปี ด้วยพิสัยยิงไกลถึงกรุงวอชิงตัน ดีซี แต่อยากให้จำวันนี้ไว้ว่า เป็นวันสุดท้ายที่เกาหลีเหนือยั่วยุรุนแรงต่อประชาคมโลก และเหตุการณ์ต่อจากนี้ จะเริ่มแปรเปลี่ยนสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี

มหากาพย์คิม-ทรัมป์ จากขู่สู้รบ สู่โต๊ะเจรจา

12 เดือนแห่งการข่มขู่และวาทกรรม จนหลายฝ่ายวิตกถึงสงครามบนคาบสมุทรเกาหลี และสงครามนิวเคลียร์ มาถึงวันที่ 1 มกราคม ปีนี้ ท่าทีผู้นำเกาหลีเหนือเปลี่ยนไป โดยปราศรัยเนื่องในวันปีใหม่ เรียกร้องความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับเกาหลีใต้ แต่ยังไม่วายวาทกรรมว่า มีปุ่มกดนิวเคลียร์บนโต๊ะ ซึ่งนายทรัมป์ก็โต้กลับว่า เขาก็มีเหมือนกัน ทั้งใหญ่และใช้งานได้ด้วย

วันที่ 9 มกราคม เกาหลีใต้ไม่รอช้า ทำตามคำเรียกร้องของคิม จอง อึน ส่งเจ้าหน้าที่พบกับฝ่ายเกาหลีเหนือที่หมู่บ้านปันมุนจอม จนบรรลุข้อตกลงว่า เกาหลีเหนือจะส่งทีมนักกีฬาและผู้แทน เข้าร่วมมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ที่เกาหลีใต้จะเป็นเจ้าภาพในเดือนกุมภาพันธ์

วันที่ 7 มีนาคม เจ้าหน้าที่ระดับสูงเกาหลีใต้เยือนกรุงเปียงยาง พร้อมเปิดเผยว่า คิม จอง อึน พร้อมเจรจากับสหรัฐฯ เรื่องอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งนายทรัมป์ก็ตอบรับคำเชิญ

27 มีนาคม คิม จอง อึน เดินทางเยือนจีนแบบไม่แจ้งล่วงหน้า พร้อมเข้าพบประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ซึ่งถูกมองว่าเป็นการกระทำเพื่อเสริมอำนาจต่อรอง ก่อนเข้าพบนายทรัมป์

วันที่ 27 เมษายน คิม จอง อึน ประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์กับประธานาธิบดีมุน แจ อินของเกาหลีใต้ ด้วยภาพและไมตรีจิตที่คาบสมุทรเกาหลีไม่ได้เห็นมายาวนาน

มหากาพย์คิม-ทรัมป์ จากขู่สู้รบ สู่โต๊ะเจรจา

มหากาพย์คิม-ทรัมป์ จากขู่สู้รบ สู่โต๊ะเจรจา

และจนถึงตอนนี้ ทั้งรัฐบาลสหรัฐฯและเกาหลีเหนือ ต่างเตรียมความพร้อมประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์อีกครั้ง โดยกำหนดวันคือ 12 มิถุนายน ส่วนสถานที่คือ สิงคโปร์ เพื่อนบ้านอาเซียนของเรานั่นเอง

related