อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อาจเผชิญข้อหาฟอกเงินและใช้ทรัพย์สินรัฐในทางมิชอบ หลังตกเป็นจำเลยคดีทุจริจกองทุนสุดอื้อฉาวที่เขาเป็นผู้ก่อตั้งขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า เจ้าหน้าที่มาเลเซียที่รับผิดชอบสืบสวนคดีทุจริจกองทุน วัน มาเลเซีย เดเวลอปเมนท์ เบอร์ฮาด หรือ 1MDB กำลังพิจารณาตั้งข้อหาฟอกเงินและใช้ทรัพย์สินรัฐในทางมิชอบกับนายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรี หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทางการตรวจพบเงินจำนวนหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯถูกโอนจากกองทุนไปยังบัญชีธนาคารส่วนตัวอย่างต้องสงสัย
ขณะที่นายทอมมี่ โทมัส อัยการสูงสุดของมาเลเซียกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินคดีทางอาญาและทางแพ่งกับนายนาจิบ หลังได้รับเอกสารการสืบสวนคดีกองทุน 1MDB จากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตมาเลเซีย
ด้านแหล่งข่าวแห่งหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า นายนาจิบอาจถูกตั้งข้อหา ใช้ทรัพย์สินรัฐในทางมิชอบ ภายใต้กฎหมายอาญา ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี นอกจากนี้ยังต้องเสียค่าปรับและถูกเคี่ยนด้วย
นอกจากนี้ นายนาจิบยังอาจถูกตั้งข้อหาฟอกเงิน ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด15ปีและปรับไม่ต่ำกว่า 5 เท่าของเงินที่ผ่านกระบวนการฟอกเงินด้วย
เมื่อปี 2015 กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯอ้างว่า จำนวนเงิน 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯถูกปล้นไปจากกองทุน1MDB ที่นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซียและเจ้าหน้าที่รัฐในปี 2009 ขณะที่นายนาจิบออกมาปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำผิด
ส่วนเมื่อเดือนทีผ่านมา ทางการมาเลเซียได้ยึดเงินสดมูลค่าราว 114 ล้านริงกิต หรือราว 912 ล้านบาท จากบ้านพักและอพาร์ตเมนต์หลายแห่งที่เชื่อมโยงกับนายนาจิบและสมาชิกครอบครัวของเขา ซึ่งการบุกตรวจค้นเป็นไปตามคำสั่งของรัฐบาลมาเลเซียชุดใหม่ ที่ต้องการรื้อคดีทุจริต 1MDB