ความคลั่งไคล้ งานอดิเรกนั้นมีหลากหลาย แต่คนญี่ปุ่นจำนวนมาก กำลังนิยมดูมอสส์มากขึ้น ถึงกับปีนเขาหน้าฝนกันไปดู หรือเก็บขายได้เงินเป็นกอบเป็นกำ
คาโอริ ชิโบ อายุ 41 ปี เดินย่ำเข้าป่าทางตอนกลางของญี่ปุ่น เพื่อค้นหาสิ่งที่เธอหลงไหล แต่มันเล็กมาก จนเธอต้องก้มต่ำ ใช้แว่นขยายส่องดู...ความคลั่งไคล้ของเธอ คือมอสส์ นั่นเอง
แต่ก่อน ฉันไม่เคยหยุดดูมอสส์ด้วยซ้ำ แต่พอเริ่มสังเกตมันดีๆ ฉันก็หลงไหลพวกมันเสียแล้ว ดูมอสส์เท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ - คาโอริ ชิโบะ ผู้คลั่งไคล้มอสส์
แล้วก็ไม่ใช่แค่คาโอริ เพราะเธอมากับกลุ่มคนรักมอสส์ 20 คน เพื่อสำรวจพืชเขียวเล็กจิ๋ว ในเทือกเขายัตสึกะทาเกะ ใกล้กับทะเลสาบชิระโกะมาโนะอิเกะ ซึ่งอุดมด้วยพืชพันธุ์เล็ก หรือไมโคร แพลนต์ กว่า 500 สายพันธุ์ โดยเฉพาะในช่วงย่างเข้าฤดูฝน
มอสส์ เติบโตได้ดีในอากาศชื้นของญี่ปุ่น และเป็นพืชที่นิยมนำไปใช้จัดสวนแบบญี่ปุ่น มาหลายชั่วอายุคนแล้ว
มอสส์ สามารถแสดงถึงภูมิทัศน์ภูเขา และชั้นหนาบางของสีเขียวได้ - ชิซาโตะ ชิเกโมริ ผู้เชี่ยวชาญด้านสวนญี่ปุ่น
สำหรับบางคน มอสส์เป็นธุรกิจทำเงินด้วย อย่างนายโออิจิ คิโยมูระ อายุ 64 ปี อดีตเจ้าของไนท์คลับส์ ที่ผันตัวมาเก็บมอสส์ขาย...เขาซื้อที่ดินผืนใหญ่ ในแถบเทือกเขาเมืองนิกโก ใกล้กรุงโตเกียว และใช้เวลาแต่ละวัน ลุยป่า ขึ้นเขา เก็บมอสส์มาขายให้คนชอบจัดสวน วัด ชาวสวนบอนไซ หรือผู้คลั่งไคล้มอสส์ จนใครๆก็เรียกนายโออิจิว่า ราชาแห่งมอสส์ ... รายได้เขาน่ะหรือ อย่างต่ำก็ 9 ล้านบาทต่อปี
มอสส์อาจอยู่บนโลก มาก่อนมนุษย์ด้วยซ้ำ และคงอยู่รอด เติบโตต่อไป แม้มนุษย์จะสูญพันธุ์ไปแล้ว ผมจึงหลงไหลในมอสส์มาก - โออิจิ คิโยมูระ นักธุรกิจขายมอสส์
ช่วงไม่กี่ปีมานี้ ผู้คลั่งไคล้มอสส์ เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวในญี่ปุ่น มีผู้ให้บริการพาปีนเขาไปชมมอสส์โดยเฉพาะ ห้างร้านหลายแห่งก็จำหน่ายสวนจำลองประดับด้วยมอสส์ เหมาะสำหรับประดับในบ้านด้วย
ในความคิดคนที่ชื่นชอบมอสส์แล้ว ...พืชจิ๋วเขียวชอุ่มนี้ คือ “สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก”