svasdssvasds

หาก คิมจองอึน เสียชีวิต จะทำให้สหรัฐฯและจีนแข่งขันกันดุเดือด

หาก คิมจองอึน เสียชีวิต จะทำให้สหรัฐฯและจีนแข่งขันกันดุเดือด

ช่วงนี้มีกระแสข่าวลือว่า ผู้นำเกาหลีเหนือ คิมจองอึน เสียชีวิต หรือป่วยหนัก นักวิเคราะห์ระบุว่า หากมีการเปลี่ยนตัวผู้นำเกาหลีเหนือ จะนำไปสู่ปัญหาเศรษฐกิจในหลายประเทศ การแข่งขันระหว่างสหรัฐฯและจีนจะดุเดือด

หาก คิมจองอึน เสียชีวิต

สำนักข่าวนิกเคอิของญี่ปุ่น เผยแพร่บทความ วิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลง หากผู้นำเกาหลีเหนือ คิมจองอึน เสียชีวิต เขียนโดยผู้สื่อข่าวสำนักข่าวนิกเคอิและนักวิเคราะห์สถานการณ์โลก วิลเลียม เพเสค

หลังขัดแย้งรุนแรงกันมาเป็นปีๆ “ในที่สุดสหรัฐฯและจีนก็เห็นตรงกัน ว่า หากเกิดอะไรขึ้นกับผู้นำเกาหลีเหนือ จะกลายเป็นช่วงเวลาที่แห่งความไม่แน่นอนที่น่าสะพรึงกลัว ในประเทศครอบครองนิวเคลียร์ที่ไม่โปร่งใสที่สุดในโลก”

หากผู้นำเกาหลีเหนือ คิมจองอึน เสียชีวิตหรือเกิดทุพพลภาพ จะเกิดเป็นปัจจัยความไม่แน่นอนต่อตลาดโลก ปัจจัยที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่กำลังรับมือการระบาดของโควิด 19

หาก คิมจองอึน เสียชีวิต จะทำให้สหรัฐฯและจีนแข่งขันกันดุเดือด

เกาหลีใต้จะเป็นประเทศแรกที่รู้สึกถึงผลกระทบนี้ เงินวอน และตลาดหลักทรัพย์ของเกาหลีใต้ ตกลงฮวบฮาบเมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา เมื่อเริ่มมีกระแสข่าวลือเรื่องสุขภาพของคิม ซึ่งตรงกับช่วงปลายปีที่สถาบัน S&P ระบุว่า ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนือ เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อเรทติ้ง AA ของเกาหลีใต้

เพเสคระบุว่า คำถามเกิดขึ้นมากมายถึงความไม่แน่นอน หากมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเกาหลีเหนือ และจะสร้างความซับซ้อนในเอเชียยิ่งขึ้นไปอีก

สิ่งที่ตามมาทันที หาก คิมจองอึน เสียชีวิต จริงๆ

กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านความเสี่ยงทางการเมือง Eurasia ระบุ 2 สถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในเกาหลีเหนือ

  • อย่างแรกคือ จะมีการเผยคนที่อาจขึ้นเป็นผู้นำคนต่อไป ซึ่งตอนนี้ ความสนใจพุ่งไปที่น้องสาว คิม ยอจอง เพื่อสืบทอดอำนาจของครอบครัวคิม แต่การเป็นผู้หญิง ก็เป็นประเด็นในเกาหลีเหนือ ถ้า คิม ยอจอง ขึ้นเป็นผู้นำ ก็น่าจะสานต่อการปฏิรูปทางเศรษฐกิจแบบที่ คิมจองอึน เคยประกาศ
  • สถานการณ์ที่สอง คือ อำนาจระบอบเริ่มคลี่คลาย เพิ่มความเสี่ยงคนอพยพออกจากเกาหลีเหนือจำนวนมาก ความรุนแรงเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง เกิดการลักลอบขนถ่ายนิวเคลียร์ สารเคมี วัสดุทางชีววิทยา และยุทโธปกรณ์

ระเบียบภูมิรัฐศาสตร์จะตอบสนองอย่างไร

เพเสคระบุว่า การรับมือวิกฤติในเอเชียอาจจะง่ายขึ้น หากผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และผู้นำจีน สี จิ้นผิง ไม่ได้ขับเคี่ยวกันขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์การค้าที่ไม่สู้ดี หรือการพยายามโทษกันไปมาว่าเป็นจุดเริ่มต้นโควิด 19

ที่ผ่านมา ภาวะผู้นำของทรัมป์ได้ทำให้อิทธิพลประเทศต่างๆ ในเอเชียเสียสมดุล ในขณะที่เกาหลีเหนือเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของจีน เป็นไปได้ว่ารัฐบาลจีน ก็น่าจะพยายามเป็นผู้นำในการรักษาความเสถียรภาพของเกาหลีเหนือ แต่ทรัมป์จะพยายามพลิกสถานการณ์หรือไม่

มีความเป็นไปได้ว่า หากคิมจองอึนเสียชีวิตกระทันหัน จะเกิดสงครามตัวแทนครั้งใหญ่ระหว่างจีนและสหรัฐฯ เกาหลีใต้อาจเลือกข้างจีน เพราะความที่จีนต้องการเสถียรภาพ มากกว่าที่จะเลือกข้างทรัมป์ที่จะพยายามเปลี่ยนระบอบการปกครอง”

คำถามตามมาอีกคือ แล้วถ้าผู้นำเกาหลีใต้ มูน แจอิน เลือกข้างจีนจริงๆ ทรัมป์จะมีปฏิกิริยาอย่างไร และจะส่งผลต่อเศรษฐกิจและตลาดโลกขนาดไหน

หาก คิมจองอึน เสียชีวิต จะทำให้สหรัฐฯและจีนแข่งขันกันดุเดือด

อีกปัจจัยเสถียรภาพโลก โดนัลด์ ทรัมป์

ที่ผ่านมา ทรัมป์ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญรัฐบาลเกาหลีใต้เท่าที่ควรจะเป็น ทรัมป์ต่อรองข้อตกลงการค้าเสรีที่มีมาตั้งแต่ปี 2012 และเรียกร้องเกาหลีใต้ให้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดจากทหารสหรัฐฯประจำในเกาหลีใต้มากขึ้น กล่าวหาว่าเกาหลีใต้กำลังเผชิญประเด็นความมั่นคงแบบฟรีๆ

หาก มูน เลือกข้าง สี จิ้นผิง ทรัมป์จะเปิดสงครามการค้าหรือไม่ อย่างที่เคยขู่ไว้ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ 25 เปอร์เซ็นต์ และทรัมป์อาจถอนกำลังทหารสหรัฐฯ ออกจากเกาหลีใต้ก็เป็นได้

แล้วยังมีความเป็นไปได้ที่ทรัมป์จะใช้สถานการณ์นี้ ดึงความสนใจจากปัญหาการเมืองภายในประเทศตนเอง ตั้งแต่การถอดถอน ไปจนถึงการรับมือโควิด 19 และยังมีความกังวลว่าทรัมป์จะพยายามใช้นโยบายทางทหารเพื่อเรียกคะแนนฐานเสียงก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นเดือนพฤศจิกายนนี้หรือไม่ หรือทำเนียบขาวจะกลับไปใช้นโยบายแข็งกร้าวกับเกาหลีเหนือ และอ้างว่าต้องจัดการกับนิวเคลียร์ที่คิมจองอึนทิ้งเอาไว้

สุดท้าย บทวิเคราะห์ของเพเซค มุ่งความสนใจไปที่เกาหลีใต้ ว่าปี 2020 จะกลายเป็นหน้าต่างให้เกาหลีใต้ตกหลุม ปัญหาค่าเงิน ค่าตอบแทนหนี้ และตลาดหุ้นทั่วโลก มูน แจอิน กำลังเผชิญหน้ากับ กลศาสตร์อันตรายจากเกาหลีเหนือ และจากโลกตะวันตก ที่ผู้นำสหรัฐฯพยายามเล่นเกมการเมือง

เรียบเรียงจาก NikkeiAsiaReview

ภาพจาก XinhuaThai

related