แพทย์ใหญ่สหรัฐฯ ชี้ "โควิดกลายพันธุ์" ไม่ทำให้ผู้ป่วยอาการรุนแรง

นายแพทย์แอนโทนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐ และหัวหน้าคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์ในวานนี้ถึงข้อมูลในวารสารของสมาคมการแพทย์อเมริกันว่า โควิด-19 อาจกลายพันธุ์เป็นไวรัสที่สามารถแพร่ระบาดได้มากขึ้น ว่า เรายังไม่มีข้อมูลความเชื่อมโยงที่ว่า ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสที่กลายพันธุ์นั้นจะมีอาการรุนแรงขึ้นหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่า ไวรัสที่กลายพันธุ์จะสามารถแพร่ระบาดได้อย่างง่ายดายมากขึ้น แต่เรายังคงพยายามที่จะศึกษาเพื่อยืนยันในเรื่องดังกล่าว

นพ.เฟาซี ได้อ้างอิงผลการวิจัยของกลุ่ม Sheffield COVID-19 Genomics Group ที่ระบุว่า ไวรัสที่กลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่นั้นเป็นไวรัสที่พบว่า มีการแพร่เชื้อมากที่สุดในการระบาดทั่วโลก และแตกต่างไปจากไวรัสที่พบครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีนเมื่อปลายปีที่แล้ว

“มีข้อมูลที่บ่งชี้ว่า โควิด-19 มีการกลายพันธุ์ และสามารถแพร่เชื้อได้มากขึ้น” นพ.เฟาซี กล่าว และเตือนว่า คณะนักวิทยาศาสตร์ยังคงพยายามที่จะยืนยันว่า ไวรัสโควิดมีการกลายพันธุ์ แม้จะดูเหมือนว่า ไวรัสโควิดที่กลายพันธุ์จะไม่เป็นอันตรายร้ายแรงมากขึ้นกับผู้ที่ติดเชื้อ หรือจะไม่ทำให้ผู้ติดเชื้อนั้นเกิดอาการป่วยรุนแรง

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการเกิดไวรัสกลายพันธุ์ซึ่งจะสามารถแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่น่าวิตก เนื่องจากสหรัฐกำลังเผชิญกับจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในแต่ละวัน