SHORT CUT
ทางเลือกใหม่สำคัญคนที่เจ็บไข้ได้ป่วย! พาทำความรู้จัก“แคร์คัฟเวอร์ สหคลินิก” ทางเลือกใหม่รักษาระดับปฐมภูมิ ที่เป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญ! เปิดตัว “แคร์คัฟเวอร์ สหคลินิก” ระหว่าง Fuchsia Venture Capital และ โรงพยาบาลจักษุ รัตนิน
สุขภาพดีไม่ขายในท้องตลาด ถ้าใครอยากสุขภาพดีก็ทำเอาเอง แต่…เชื่อว่าหลายคนคงคิดว่าไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ แต่คนที่มีโรคไปแล้วก็ต้องหาวิธีรักษากันไป ซึ่งโรงพยาบาล และสถานที่รักษาโรค ก็มีให้เลือกหลากหลายมากมาย ขึ้นอยู่กับกำลังทรัพย์ และความชื่นชอบของแต่ละบุคคลว่าจะเลือกรักษาที่ไหน
แน่นอนว่าปัจจุบันคนมีทางเลือกที่หลากหลายขึ้น วันนี้ #สปริงนิวส์ จะพามาดูความร่วมมือของบริษัท ฟูเชีย เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด และ โรงพยาบาลจักษุ รัตนิน ที่ได้ผนึกกำลังครั้งสำคัญร่วมลงทุนก่อตั้งบริษัท เมืองไทยรัตนิน จำกัด พร้อมประกาศเปิดตัว “แคร์คัฟเวอร์ สหคลินิก (CareCover Clinic)” ทางเลือกใหม่สำหรับการดูแลรักษา การป้องกัน และการส่งเสริมสุขภาพ เพื่อช่วยให้คนไทยสามารถเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะสุขภาพดีคือพื้นฐานของความสุข
โดย “แคร์คัฟเวอร์ สหคลินิก” ได้เปิดให้บริการสาขาแรกที่อาคารเมืองไทยภัทร คอมเพล็กซ์ ชั้น 4 โซนพลาซ่า โดยให้บริการการดูแลสุขภาพที่ครอบคลุมทั้งการตรวจรักษาโรคทั่วไปและโรคเรื้อรัง การทำกายภาพบำบัด การตรวจสุขภาพประจำปี และการฉีดวัคซีน
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทย กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด และกรรมการ บริษัท ฟูเชีย เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (Fuchsia Venture Capital) เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้เห็นถึงแนวโน้มที่เติบโตของประกันสุขภาพ และสิ่งที่ตามมาคือความต้องการในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพและสะดวกสบาย จึงเห็นโอกาสในการเข้ามาตอบโจทย์ในจุดนี้ทั้งสำหรับลูกค้าประกันชีวิตและบุคคลทั่วไป สำหรับการที่ได้โรงพยาบาลจักษุ รัตนิน ซึ่งมีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในด้านธุรกิจสถานพยาบาลและมีวิสัยทัศน์ที่ตรงกัน มาช่วยกันสร้างแคร์คัฟเวอร์ สหคลินิก ขึ้นมา
ด้านนางสาววรัดดา รัตนิน รองประธานกรรมการ โรงพยาบาลจักษุ รัตนิน กล่าวว่า วันนี้ได้ก้าวสู่การให้บริการในด้านการรักษาระดับปฐมภูมิ (Primary Care) เพื่อช่วยให้คนไทยสามารถเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพและสะดวกมากยิ่งขึ้น เราเชื่อว่า แคร์คัฟเวอร์ สหคลินิก จะสามารถก้าวขึ้นเป็นสหคลินิกที่มีคุณภาพและเป็นตัวเลือกแรกของใครหลายๆคน
ขณะที่ นางสาวฤทัย สุทธิกุลพานิช กรรมการ บริษัท เมืองไทยรัตนิน จำกัด แสดงความมั่นใจถึงโอกาสในการเติบโตของธุรกิจสุขภาพโดยเฉพาะการรักษาระดับปฐมภูมิ (Primary Care) ในประเทศไทย โดยแคร์คัฟเวอร์ สหคลินิก จัดตั้งขึ้นตามวิสัยทัศน์ของบริษัท ฟูเชีย เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด และ โรงพยาบาลจักษุ รัตนิน ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการรักษาระดับปฐมภูมิ (Primary Care) เพราะการรักษาระดับปฐมภูมิ มีความสำคัญอย่างมาก และถือเป็นการดูแลสุขภาพด่านแรก ซึ่งเป็นการรักษาทั้งโรคทั่วไป การป้องกัน และการส่งเสริมสุขภาพ เพื่อจัดการกับโรคที่ไม่รุนแรงและแก้ไขปัญหาสุขภาพได้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อช่วยป้องกัน และลดความเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้นได้รวมถึงช่วยลดค่าใช้จ่ายที่จะตามมา ซึ่งวันนี้ได้มีการเปิดให้บริการสาขาแรกและเรามีแผนที่จะขยายสาขาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการของเราได้มากขึ้น
ในขณะเดียวกัน แพทย์หญิงเชอรี่วิน คงมา ผู้อำนวยการคลินิก บริษัท เมืองไทยรัตนิน จำกัด กล่าวว่า “แคร์คัฟเวอร์ สหคลินิก สาขาแรก เราให้บริการทั้งในด้านเวชกรรมและกายภาพบำบัด โดยในด้านเวชกรรม บริการจะครอบคลุมการดูแลรักษาโรคทั่วไปและโรคเรื้อรัง รวมไปถึงการส่งเสริมและป้องกันสุขภาพ เช่น การตรวจสุขภาพ การฉีดวัคซีนประจำปี และการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ เป็นต้น ทั้งนี้ทางแคร์คัฟเวอร์ สหคลินิก มีวิสัยทัศน์ว่าแพทย์ประจำคลินิกจะเปรียบเสมือนแพทย์ส่วนตัวของคนไข้และผู้มารับบริการทุกคน ดังนั้นหากมีความจำเป็นที่จะต้องส่งต่อคนไข้ไปรักษาต่อในโรงพยาบาลหรือเพื่อพบแพทย์เฉพาะทาง คลินิกจะทำหน้าที่ประสานงานกับโรงพยาบาลปลายทางเพื่อให้กระบวนการการดูแลและรักษาคนไข้มีความต่อเนื่องและสมบูรณ์ที่สุด ในด้านกายภาพบำบัด ซึ่งเน้นการดูแลรักษาโรคระบบกระดูกและกล้ามเนื้อเช่น กลุ่มอาการที่เกิดจากการทำงานหรือ Office Syndrome
และย้ำถึงพันธกิจของคลินิกที่เน้นถึงการรักษาที่มีคุณภาพสะดวกสบายและเข้าถึงได้ว่า โดยในทุก ๆ บริการเราจะมุ่งเน้นไปที่การดูแลสุขภาพแบบองค์รวมและการให้การรักษาที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของ แต่ละบุคคล และในอนาคตเรามีแผนที่จะขยายไปยังบริการอื่น ๆ มากขึ้น ทั้งบริการปรึกษาทางไกล หรือ Telemedicine โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนช่วยเหลือการบริการอื่น ๆ ในสาขาใหม่ที่ตอบโจทย์มากขึ้น โดยคลินิกสามารถรองรับทั้งลูกค้าที่เป็นบุคคลทั่วไป ลูกค้าองค์กร รวมถึงลูกค้าประกันทั้งแบบรายกลุ่ม และรายเดี่ยว ซึ่งมีเป้าหมายที่จะเชื่อมต่อกับทุกบริษัทประกันภัยเพื่อให้ผู้เข้ารับบริการไม่ต้องสำรองจ่าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง