svasdssvasds

ไทยติดอันดับ 10 ประเทศที่สนับสนุน “สังคมไร้เงินสด” หรือ “Cashless Society”

ไทยติดอันดับ 10 ประเทศที่สนับสนุน “สังคมไร้เงินสด”  หรือ “Cashless Society”

ปัจจุบันได้มีหลากหลายแบรนด์และหลากหลายธุรกิจนั้นหันมาใช้ Cashless Payment หรืองดรับเงินสด ซึ่งจากมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐก่อนหน้านี้ที่ต้องใช้แอปเป๋าตังกันทั่วประเทศ จึงทำให้คนไทยได้เรียนรู้การใช้งานไปในตัว

จริงแล้ว “สังคมไร้เงินสด” อยู่ใกล้ตัวเรามากจนอาจนึกไม่ถึง เนื่องจากปัจจุบันคนไทยใช้แอปพลิเคชั่นเดลิเวอรี่สั่งซื้อสินค้าหรืออาหาร ไปตลาดหรือร้านค้าก็ใช้การสแกน QR code กันจนเป็นเรื่องปกติ และส่วนใหญ่ยังใช้พร้อมเพย์กันอย่างแพร่หลาย

แม้กระทั่งไปเดินห้างสรรพสินค้าก็มีการใช้บัตรเครดิต หรือบัตร ATM ที่มีบัตรเดบิตก็สามารถใช้จ่ายค่าสินค้าต่างๆได้แล้วในปัจจุบัน เพียงมีสัญลักษณ์ VISA ที่บัตรและทางร้านรับบัตร VISA ซึ่งปัจจุบันก็แพร่หลายแล้วทั่วประเทศ

ทำความรู้จัก สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) กันอีกครั้ง

สังคมไร้เงินสด คือ สังคมที่ใช้เงินสดน้อยกว่า 50% จากการใช้จ่ายทั้งหมด

สังคมไร้เงินสดที่สมบูรณ์ คือ สังคมที่ใช้เงินสดน้อยกว่า 20% จากการใช้จ่ายทั้งหมด

ข้อมูลจาก : Thai-Cashless-Society สังคมไทยไร้เงินสด

ไทยติดอันดับ 10 ประเทศที่สนับสนุน “สังคมไร้เงินสด”  หรือ “Cashless Society”

ปัจจุบันเนื่องจากคนใช้สมาร์ทโฟนกันมากขึ้น จึงมีแพลตฟอร์มการชำระเงินรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า e-wallets (กระเป๋าเงินออนไลน์) เช่น LINE pay , True Money Wallet , Shopee Pay ที่ไม่เพียงชำระค่าสินค้าได้เพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถซื้อตั๋วภาพยนตร์, จ่ายบิลบัตรเครดิต , ค่าน้ำค่าไฟ ,เติมเงินโทรศัพท์ ได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องเดินทางไปจ่ายและสามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้เงินสดอีกด้วย

ไทยติดอันดับ 10 ประเทศที่สนับสนุน “สังคมไร้เงินสด”  หรือ “Cashless Society”

โดย e-wallets มีทั้งแบบผูกบัตรเดบิต,บัตรเครดิต เพื่อชำระเงินได้อย่างสะดวกสบาย หรือสามารถเติมเงินเข้าไปเพื่อใช้จ่ายได้โดยไม่ต้องผูกบัตร ยกตัวอย่างเช่น GrabPay Wallet เป็นบริการของ Grab ที่ต้องการให้ผู้ใช้งาเติมเงินเข้าไปเพื่อชำระค่าอาหาร ซึ่งนี่เป็นตัวอย่างของการใช้ e-wallets แบบง่ายๆนั่นเอง

ไทยติดอันดับ 10 ประเทศที่สนับสนุน “สังคมไร้เงินสด”  หรือ “Cashless Society”

สังคมไร้เงินสด ทำความเข้าใจง่ายๆ และยกตัวอย่างให้เห็นภาพได้ทันที เช่น คุณสามารถซื้อน้ำดื่มราคา 10 บาทได้โดยไม่ต้องควักเงินสด จ่ายผ่านบัตรเครดิต , บัตรเดบิต หรือผ่านการสแกน QR code ผ่านแอปพลิเคชั่นต่างๆเพื่อชำระเงิน

ขณะนี้รัฐบาลรปท. ก็ได้ร่วมมือกันสร้างสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) และถือว่าประสบความสำเร็จด้วยตัวเลขร้อยละ 89 ของผู้บริโภคในประเทศเลือกใช้การชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสด และมีหลากหลายโครงการตัวอย่างที่สำเร็จไปเรียบร้อยแล้ว เช่น

1.โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ผู้มีรายได้น้อยและผู้ด้อยโอกาสรวมถึงผู้สูงอายุและผู้พิการ นำเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปซื้อสินค้าธงฟ้า และร้านค้าที่ร่วมรายการ

2.โครงการพร้อมเพย์ และ QR Payment ที่สามารถใช้โอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ซึ่งจะนำไปสู่การชำระภาษีและบริจาคผ่านช่องทางนี้ในอนาคต

3.แอปพลิเคชั่นของรัฐบาล เช่น G-Wallet, ถุงเงิน , เป๋าตัง, เราเที่ยวไปด้วยกัน ซึ่งแอปฯบริการเหล่านี้ล้วนใช้จ่ายแบบไร้เงินสดทั้งสิ้น

ไทยติดอันดับ 10 ประเทศที่สนับสนุน “สังคมไร้เงินสด”  หรือ “Cashless Society”

และล่าสุด แอปเป๋าตังได้จำหน่ายสลากดิจิทัล และสามารถขายไปได้กว่า 4.4 ล้านใบภายใน 3 วัน โดยคนไทยไม่ได้ใช้เงินสดในการซื้อสลากเลย

มีอีกตัวอย่างมากมายที่เริ่มใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์แทนเงินสดกันอย่างแพร่หลาย เช่น อย. งดรับเงินสด ได้เปลี่ยนระบบชำระค่าอาหาร ด้วยการสแกน QR code แทนการชำระเงินด้วยคูปอง ให้ใช้ Mobile Banking แทน

ขณะนี้ในไทยมีกลุ่มคนที่สนใจ Cashless Society เป็นพิเศษจนตั้งเพจว่า Thai-Cashless-Society สังคมไทยไร้เงินสด

เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์ให้แบรนด์ต่างๆ ที่สนับสนุนสังคมไร้เงินสดให้คนที่ชื่นชอบและอยากใช้สามารถติดตามได้

ข้อดีของ “สังคมไร้เงินสด” (Cashless Society)

1.ดี ต่อสิ่งแวดล้อม – ใช้ทรัพยากรน้อยลงในการผลิตเงิน

2.การชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสดนั้นรวดเร็วกว่าสะดวกกว่าเงินสดอย่างมาก

3.ง่ายต่อการดูแลเงินและติดตามปัญหาหรือเงินที่ขาดหายไป

4.อาชญากรรมจะลดลง - การพกเงินสดนั้นอันตรายและส่งผลต่การก่ออาชญากรรม การใช้หรือพกเงินสดน้อยลงจะส่งผลให้การโจรกรรมลดลง

ในขณะนี้ยังมีรูปแบบการชำระเงินที่เหมาะกับสถานการณ์โรคระบาดต่างๆ ที่เรียกว่า “Contactless Payment” หรือ “Pay wave”  ที่สามารถสแกนแตะบัตรชำระเงินได้ที่หน้าเครื่องโดยไม่ต้องเสียบ​ , รูด อีกต่อไป

ไทยติดอันดับ 10 ประเทศที่สนับสนุน “สังคมไร้เงินสด”  หรือ “Cashless Society”

ตัวอย่างแบรนด์ดังที่สนับสนุนการใช้ Cashless Society เช่น Starbucks ได้มีสาขาที่เรียกว่า “Cashless Store” หรือสาขาที่ไม่รับการชำระเงินสด

ไทยติดอันดับ 10 ประเทศที่สนับสนุน “สังคมไร้เงินสด”  หรือ “Cashless Society” และยังมีการจัดโปรโมชั่นมากมายเพื่อดึงดูดการใช้จ่ายผ่านแอปฯ เช่น Shopee Pay นั้นมีอาหารให้เลือกซื้อมากมายบนแอป และนำคูปองดิจิทัลไปแลกอาหารได้โดยไม่ต้องใช้เงินสด

ไทยติดอันดับ 10 ประเทศที่สนับสนุน “สังคมไร้เงินสด”  หรือ “Cashless Society” เชื่อว่าการพัฒนาสู่สังคมไร้เงินสดในประเทศไทยอาจยังคงต้องใช้เวลา เนื่องจากยังมีข้อขัดแย้งของผู้ใช้บางกลุ่มที่รู้สึกว่าการใช้เงินสดมีความเสถียรที่สุด แต่อย่างไรก็ตามอนาคตในประเทศไทยต้องถูกเปลี่ยนแปลงเป็น “สังคมไร้เงินสด” อย่างแน่นอนเนื่องจากเทคโนโลยีและดิจิทัลจะสนับสนุนให้การจ่ายรูปแบบใหม่แทนเงินสดในประเทศไทยสามารถใช้ได้อย่างเต็มรูปแบบ

 

related