นายบุญยวง เชียงแก้ว อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านแม่สวดใหม่ได้ให้ความเห็นว่า ตอนนี้ชาวบ้านในพื้นที่มีรายได้หลักจากการทำเกษตรกรรม โดยเป็นการทำไร่บนดอยเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะทำได้แค่ในช่วงฤดูฝนอย่างเดียว พอฝนหยุดตกก็แห้งแล้งจนไม่สามารถทำอะไรได้อีก การเข้ามาของโครงการฯ น่าจะทำให้ชุมชนเจริญขึ้น ช่วยให้ชาวบ้านที่มีรายได้เพิ่มขึ้นอีกทางจากประกอบอาชีพท่องเที่ยว และให้บริการนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในพื้นที่ นอกจากนี้การมีเขื่อนจะทำให้ชาวบ้านที่ทำการเกษตรมีน้ำใช้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้บางส่วนยังสามารถเปลี่ยนจากเกษตรกรรมมาทำอาชีพนำเที่ยวชมเขื่อนน้ำยวมได้อีกทางหนึ่ง
“ชาวบ้านบางคนกลัวไม่มีที่อยู่อาศัย เพราะที่ดินนี้อยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวน ถ้ามีเขื่อนเข้ามาชาวบ้านจะไปอยู่ที่ไหน แต่หากมีการการชดเชยที่ดีก็น่าจะช่วยเยียวยาได้ แต่ในภาพรวมคนส่วนใหญ่ในชุมชนทุกคนน่าจะได้ประโยชน์มากกว่า ทั้งการค้าขายที่จะมีมากขึ้น พอความเจริญกำลังเข้ามา นักท่องเที่ยวก็จะเยอะขึ้น แล้วยังได้ประโยชน์เรื่องไฟฟ้าที่เข้ามาอีกด้วยไฟก็จะไม่ดับ เมื่อความเจริญเข้ามาคนในพื้นที่ที่ออกไปทำงานข้างนอกก็จะกลับมาในพื้นที่กันมากขึ้น เหมือนทะเลสาบดอยเต่าที่เคยเงียบเพราะไม่มีน้ำก็จะได้ประโยชน์”
อีกด้านทะเลสาบดอยเต่า บริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลซึ่งเป็นทางออกของอุโมงค์ผันน้ำที่จะได้รับน้ำที่ผันมาจากแม่น้ำยวมเฉลี่ยปริมาณปีละ 1,795 ล้านลูกบาศก์เมตร จะทำให้พื้นที่เขื่อนภูมิพล บริเวณทะเลสาบดอยเต่ามีปริมาณเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งปัจจุบันทะเลสาบดอยเต่าถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ มีผู้ประกอบการแพท่องเที่ยว จำนวน 31 ราย ที่จะได้รับประโยชน์จากปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น โดยในช่วงที่ผ่านมาพื้นที่นี้ประสบปัญหาภัยแล้งต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการแพท่องเที่ยวมีรายได้ในช่วงเดือนกรกฏาคม - มกราคม ที่มีน้ำเพียงพอเท่านั้น
นายสามารถ คำจันทร์ อายุ 36 ประชาชนในพื้นที่ดอยเต่า หนึ่งในผู้ประกอบการแพท่องเที่ยวในดอยเต่า และร้านกาแฟบ้านดินอินเดอะดอย ให้ความเห็นว่าที่ช่วง 4 ปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการแพท่องเที่ยวดอยเต่าประสบกับปัญหาน้ำแล้งมานาน ทำให้แพหลายลำต้องค้างบก แล้วกลับมาใช้การได้เมื่อปีที่ผ่านมาที่ปริมาณน้ำในเขื่อนมีเพียงพอ ระดับน้ำที่ขึ้นลงในแต่ละปีจึงมีผลกับการท่องเที่ยวอย่างมาก โดยเฉพาะชาวบ้านที่ทำอาชีพแพท่องเที่ยว ชาวบ้านในพื้นที่จะรู้สึกยินดีหากทะเลสอบดอยเต่ามีน้ำตลอดทั้งปี เพราะถ้าแห้งแล้งเหมือนช่วงที่ผ่านมาหลายคนอาจต้องปรับตัวไปเลี้ยงวัวแทน
จากความสำเร็จของการท่องเที่ยวไทยในปี 2565 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศหลายสิบล้านคน สะท้อนถึงสัญญาณบวกของการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทยได้เป็นอย่างดี เป็นการดีถ้าปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ เขื่อนภูมิพลเพิ่มขึ้น น้ำในทะเลสาบดอยเต่าก็จะเพิ่มมากขึ้น แน่นอนว่าความสวยงามของทัศนียภาพของทะเลสาบก็จะเพิ่มมากยิ่งขึ้น สิ่งนี้อาจเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการสร้างโอกาสให้ชาวบ้านในหมู่บ้านริมทางให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นจากการท่องเที่ยว ทั้งจากอาชีพเกษตรกรรม หรืออาชีพอื่น ๆ ในพื้นที่โดยรอบโครงการ ที่จะมีการพัฒนาเพื่อให้มีรายได้ที่มั่นคงต่อไปอีกด้วย