"วาฬโลลิต้า" วาฬออร์กาที่ถูกจองจำกว่า 50 ปี ตายก่อนได้รับการปล่อยตัว

เป็นข่าวน่าเศร้าใจอีกครั้งเมื่อ “วาฬโลลิต้า” วาฬเพชรฆาตที่ทำหน้าที่เป็นดาราดึงดูดนักท่องเที่ยวหลักที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทะเลไมอามี ตายลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แม้จะมีการรณรงค์เพื่อปลดปล่อยวาฬตัวนี้จากการถูกจองจำนานกว่า 50 ปี

ด้วยอายุ 56 ปี โลลิต้าเป็นหนึ่งในวาฬออร์กาที่อายุมากที่สุดที่ถูกกักขัง นักเคลื่อนไหวด้านสัตว์ต่อสู้เพื่ออิสรภาพของเธอมานานหลายทศวรรษ โดยโต้แย้งว่าเธอสมควรได้กลับบ้านของเธอในแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ

ตลอดเวลาที่ผ่านมา "วาฬโลลิต้า" ต้องเผชิญความเจ็บปวดมากมายในชีวิตของเธอ ปริทัม ซิงห์ ผู้นำกลุ่ม Friends of Toki (โลลิต้า) ซึ่งเป็นกลุ่มสิทธิสัตว์แถวหน้าของความพยายามปลดปล่อยออร์ก้ากล่าวในการแถลงข่าวเมื่อฤดูใบไม้ผลิที่แล้ว โดยประกาศแผนการนำโลลิต้าไปเลี้ยงในที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไมอามี่ได้ประกาศว่าโลลิต้า ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น โทคิ มีอาการเจ็บปวดจากสิ่งที่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของพิพิธภัณฑ์เชื่อว่าเป็น "ภาวะความผิดปกติของไต"

“โทคิ เป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่มีโอกาสได้ฟังเรื่องราวของเธอ” โพสต์ดังกล่าวระบุ "บรรดาผู้คนที่รักจะได้ใช้เวลาร่วมกับเธอ จะจดจำจิตวิญญาณที่สวยงามของเธอตลอดไป"

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

• พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสหรัฐฯ เตรียมปล่อย วาฬเพชฌฆาต หลังถูกจับมาแสดงโชว์ 50 ปี
• เจ้ามูน วาฬหลังหักเพราะถูกเรือชน หนึ่งในเหยื่อวาฬนับพัน เพราะเรือเยอะขึ้น
• คิสก้า วาฬโดดเดี่ยวที่สุดในโลก อยู่ลำพังมากกว่า 10 ปี ตายแล้ว ด้วยวัย 47 ปี

เรื่องราวชีวิตของ วาฬโลลิต้า

• ย้อนกลับไปในปี 1970 วาฬโลลิต้าและวาฬตัวอื่นๆ จำนวนหนึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการล่าจับวาฬอย่างรุนแรงจากฝูงวาฬใน Puget Sound ใกล้เมืองซีแอตเติล ลูกวาฬสี่ตัวและผู้ใหญ่หนึ่งตัวถูกฆ่าตายระหว่างการจับ
• ในปี 1980  โลลิต้า สูญเสีย ฮิวโก้ คู่ของเธอที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไปเนื่องจากเส้นเลือดในสมองโป่งพอง "ซึ่งฮิวโก้ต้องทนทุกข์ทรมานหลังจากที่เอาหัวกระแทกผนังตู้ปลาซ้ำแล้วซ้ำเล่า"

“เธอต้องทุกข์ทนต่อความยากลำบากที่มนุษย์อย่างเราบังคับใช้กับเธอ” ซิงห์กล่าวเมื่อเดือนมีนาคม "เธอใช้ชีวิต ผ่านการถูกจองจำและต้องทนเห็นการตายของครอบครัวของเธอ และเธอใช้ชีวิตผ่านการอยู่ในถังขนาดเล็กนี้เป็นเวลาหลายปี เมื่อคุณเห็นเธอ พลังชีวิตของเธอ มันทำให้คุณต้องน้ำตาไหล "

เขาบอกว่าเป็นไปได้ที่ วาฬโลลิต้า จะรอดชีวิตหากถูกนำตัวไปเลี้ยงในทะเลเปิด โดยอ้างถึงกรณีของ เคโกะ วาฬที่เป็นแรงบันดาลใจและแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Free Willy ในปี 1993 ซึ่งเคโกะกลายเป็นวาฬเพชฌฆาตตัวแรกที่กลับคืนสู่ธรรมชาติในปี 2002 กว่า 20 ปีหลังจากที่มันถูกจับในน่านน้ำนอกประเทศไอซ์แลนด์ มันมีชีวิตอยู่ต่อไปอีก 5 ปีก่อนที่จะตายด้วยโรคปอดบวมเมื่ออายุ 27 ปี

Jim Irsay มหาเศรษฐีชาวอินเดียผู้ซึ่งเป็นเจ้าของ Indianapolis Colts ตกลงที่จะจ่ายค่าเคลื่อนย้าย วาฬโลลิต้า และประเมินว่าหากเกิดขึ้น จะมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 20 ล้านเหรียญ

หลังการตายของ วาฬโลลิต้า บรรดาผู้รักสัตว์ก็ออกมาแสดงปฏิกริยาอย่างรุนแรง

อิงกริด นิวเคิร์ก ประธานองค์กร People for the Ethical Treatment of Animals ออกแถลงการณ์ว่า: "ผู้คนขอร้องให้พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไมอามียุติชีวิตอันเลวร้ายของ "วาฬโลลิต้า" ในห้องขังคอนกรีต และปล่อยเธอไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ริมทะเล ที่ซึ่งเธอสามารถดำน้ำลึก สัมผัสกระแสน้ำในมหาสมุทร และ แม้ว่าจะได้กลับไปพบกับ ออร์กา ที่เชื่อว่าเป็นแม่ของเธออีกครั้ง

แต่แผนการที่จะย้ายเธอไปยังทะเลก็สายเกินไปและ วาฬโลลิต้า ก็ไม่ได้รับอิสรภาพแม้แต่นาทีเดียวจากการถูกจองจำถึง 53 ปี PETA เรียกร้องให้ครอบครัวต่าง ๆ ระลึกถึงความทรงจำที่มีต่อ วาฬโลลิต้า โดย ไม่ไปเที่ยวอุทยานทางทะเลและเรียกร้องให้ Seaquarium ดำเนินแผนการต่อไปเพื่อส่งโลมาซึ่งเป็นเพื่อนร่วมแทงก์น้ำของโลลิต้าไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ทะเลพร้อมกับโลมาตัวอื่นๆ ก่อนที่ยอดสัตว์ที่ตายจะเพิ่มขึ้น และเพื่อให้ SeaWorld ได้เรียนรู้จากโศกนาฏกรรมครั้งนี้และ ให้ปล่อยออร์ก้าคอร์กี้ที่ถูกขังอยู่ในแทงก์เล็กๆ เกือบ 54 ปี ก่อนที่เธอจะร่วมชะตากรรมเดียวกับโลลิต้า"

ผู้สนับสนุนด้านสิทธิสัตว์ต่อสู้มานานหลายปีในศาลเพื่อให้ได้มาซึ่งอิสรภาพของโลลิต้าโดยไม่ประสบความสำเร็จ หลังจากที่ National Oceanic and Atmospheric Administration ได้เพิ่มออร์กาเข้าไปในรายชื่อสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ในปี 2558 จนนำมาสู่การทำข้อตกลงเพื่อปล่อยมันกลับสู่ธรรมชาติในครั้งนี้

ไม่ว่ามนุษย์ หรือสัตว์ชนิดไหน ก็ไม่ควรถูกจำกัดอิสรภาพจากการกักขัง เพียงเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับคนอื่น...